เปิดวิธีเอาตัวรอด หากผ่อนรถต่อไม่ไหว ทำอย่างไรให้หนี้จบไม่ต้องถูกเรียกเก็บเงินภายหลัง เลือกวิธีให้เหมาะสมอาจได้เงินก้อนมาหมุนในสถานการณ์ฉุกเฉิน
จากสภาพเศรษฐกิจที่ถูกผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด ในช่วงนี้อาจทำให้มนุษย์เงินเดือน รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระทั้งหลาย มีรายได้ลดลงหรือบางรายอาจไม่มีเงินเข้ามาเลยเพราะถูกปิดร้าน หรือเลิกจ้าง เพื่อรอให้สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น จนทำให้เกิดผลกระทบอย่างหนักจนไม่สามารถหาเงินมาผ่อนค่าสินเชื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะค่างวดรถที่ลำพังช่วงก่อนโควิด-19 หลายคนก็ยังหาเงินมาจ่ายแบบงวดชนงวดอยู่แล้ว เมื่อต้องมาตกงานรายได้กลายเป็นศูนย์ ทำให้เริ่มผ่อนต่อไม่ไหวปล่อยให้ไฟแนนซ์มายึดรถคืน
แต่ทว่าแม้จะปล่อยรถคืนไฟแนนซ์ไปแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าปัญหาจะจบ เพราะหลังจากยึดรถคืนไปแล้วไฟแนนซ์จะนำรถไปประมูลขาย ซึ่งส่วนใหญ่จะได้ในราคาค่อนข้างต่ำ หลังจากนั้นจะนำยอดที่ได้จากการประมูลไปหักลบกับยอดหนี้ที่เหลืออยู่ หากยังมีหนี้ที่เป็นส่วนต่างอยู่ก็จะมีการเรียกเก็บหนี้ส่วนที่เหลือกับเราทั้งหมด
คืนรถอย่างไรให้หนี้จบ
1. ขายดาวน์
วิธีนี้ถือว่าเป็นทางออกที่ได้รับความนิยม สำหรับผู้ที่ไม่สามารถผ่อนรถต่อได้ โดยการขายดาวน์ให้กับผู้ที่สนใจซื้อรถต่อ และเปลี่ยนชื่อสัญญา แม้ราคาที่ได้อาจไม่เท่ากับเงินที่เราจ่ายไปแล้ว แต่ก็ไม่ต้องเจ็บตัวเพิ่ม เพราะหากโดนปล่อยยึด อาจต้องตามใช้หนี้ส่วนต่างเพิ่มอีก และการขายดาวน์ยังทำให้เราได้เงินก้อนมาหมุน และอาจไม่ต้องเสียเครดิตทางการเงิน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือจะต้องระบุในสัญญาการซื้อขายให้ชัดเจนว่า หลังจากนี้ผู้ขายจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไรอีก
2. ส่งรถคืนไฟแนนซ์
เป็นการไปเจรจากับทางไฟแนนซ์ เพื่อขอคืนรถให้พร้อมอธิบายเหตุผล โดยจะต้องตกลงให้ชัดเจนว่าหากคืนรถแล้วจะต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ หากมีต้องจ่ายเท่าไร หลังจากตกลงได้แล้วต้องทำสัญญาให้ชัดเจนว่าเราจะต้องไม่รับผิดชอบอะไรอีกหลังจากนี้ พร้อมใช้สัญญานี้ประกอบในการส่งมอบรถคืนให้กับทางไฟแนนซ์
3. ขายรถราคาเต็มเอาเงินมาจ่ายหนี้
การขายรถได้นั้นเราจะต้องไปติดต่อกับไฟแนนซ์ เนื่องจากเล่มทะเบียนรถอยู่ที่ไฟแนนซ์ โดยตกลงกันว่าต้องใช้งบอีกเท่าไรในการปิดยอดสินเชื่อทั้งหมด จากนั้นจึงไปตกลงราคาขายกับผู้ซื้อ จากนั้นจึงนำเงินมาปิดยอดที่ค้างกับทางไฟแนนซ์ พร้อมกับโอนชื่อเจ้าของรถให้กับผู้ซื้อ
ขอบคุณข้อมูลจาก One31
