บิ๊กซี-ซีพี-เซ็นทรัล จะได้อะไร ถ้าชนะการประมูลเทสโก้ โลตัส และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในวงการค้าปลีกไทย เรื่องนี้น่าติดตาม
ข่าวใหญ่ในแวดวงเศรษฐกิจช่วงที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นการที่ เทสโก้
โลตัส ประกาศขายกิจการในไทยและมาเลเซีย ซึ่งกลุ่มทุนที่แสดงตัวว่าต้องการซื้อกิจการอย่างจริงจังในตอนนี้ ก็คือ
"บิ๊กซี" จากกลุ่ม TCC ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี แต่ก็มีกระแสข่าวว่า
"กลุ่มซีพี" ของเจ้าสัวธนินทร์ เจียรวนนท์ และ
"กลุ่มเซ็นทรัล" ของตระกูลจิราธิวัฒน์ สนใจเข้าซื้อเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า มูลค่าการซื้อ-ขายครั้งนี้น่าจะอยู่ที่ราว ๆ 3 แสนล้านบาท ทำให้เป็นที่จับตามองกันว่า ดีลใหญ่นี้ ใครจะได้ไป
ภาพจาก Kriang kan/Shutterstock
สำหรับ เทสโก้ โลตัส ดำเนินธุรกิจค้าปลีกในเมืองไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ในชื่อ "โลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์" ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ก่อนที่ปี พ.ศ. 2541 จะขายต่อให้ "เทสโก้" กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสัญชาติอังกฤษ จนควบรวมเป็น "เทสโก้ โลตัส" ในปัจจุบัน หลังจากนั้นจึงได้ขยายธุรกิจจนครองส่วนแบ่งตลาดไฮเปอร์มาร์เกตกว่า 60% ด้วยจำนวนสาขาเกือบ 2,000 แห่ง ทั้งในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เกต, เอ็กซ์ตร้า, ดีพาร์ตเมนต์สโตร์, ตลาด และเอ็กซ์เพรส ในปีที่ผ่านมา มีรายได้รวมกว่า 1.8 แสนล้านบาท โดยเป็นกำไรกว่า 7,800 ล้านบาท
ด้วยขนาดของมูลค่ากิจการและผลประกอบการอันโดดเด่น เมื่อมีข่าวว่าทั้ง 3 กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่น่าจะมีโอกาสเข้าซื้อกิจการเช่นนี้ กระปุกดอทคอม จึงจะชวนทุกคนมาดูกันว่า แต่ละเจ้ามีธุรกิจอะไรอยู่ในมือแล้วบ้าง และถ้าได้ครอบครองโลตัสอีก 1 แห่ง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรในวงการค้าปลีก
ภาพจาก nok_happiness/Shutterstock
ในบรรดา 3 ตัวเต็ง "บิ๊กซี" จากกลุ่ม TCC ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี คือเจ้าแรกที่ประกาศกร้าวความต้องการในดีลนี้ โดยให้เหตุผลว่า ต้องการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกของบริษัทให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และได้ยื่นเจตจำนงต่อกลุ่มเทสโก้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ธุรกิจในมือของบิ๊กซี :
ก่อนหน้านี้ บิ๊กซี เคยเทกโอเว่อร์ คาร์ฟูร์ มาแล้วด้วยมูลค่า 3.55 หมื่นล้านบาท และเปลี่ยนชื่อห้างคาร์ฟูร์ เป็นบิ๊กซี ทั้งหมด พร้อมกับครองธุรกิจค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เกตอันดับ 2 ในประเทศไทย โดยปัจจุบัน ห้างบิ๊กซี มีโมเดลธุรกิจไม่ต่างจากเทสโก้ โลตัส ด้วยสาขารวมทั่วประเทศกว่า 1,231 สาขา แบ่งเป็นไฮเปอร์มาร์เกต 150 สาขา มาร์เกต 63 สาขา และมินิบิ๊กซี 1,018 สาขา มีรายได้รวมกว่า 1.8 แสนล้านบาท พอ ๆ กับรายได้รวมของเทสโก้ โลตัส
จะเกิดอะไรขึ้นหากซื้อเทสโก้ โลตัส สำเร็จ :
บิ๊กซีจะครองความเป็นหนึ่งและผูกขาดอาณาจักรไฮเปอร์มาร์เกตไปโดยปริยาย ด้วยจำนวนสาขาบิ๊กซีและโลตัสปัจจุบันรวมกันกว่า 3 พันแห่งทั่วประเทศ โดยที่บิ๊กซีไม่จำเป็นต้องขยายสาขาเพิ่มในจังหวัดที่ไม่มีห้างบิ๊กซี แต่มีโลตัสอยู่ก่อนแล้ว เพราะสามารถควบรวมกิจการได้ จึงจับกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ที่สำคัญก็คือ ไม่ต้องตัดราคาเพื่อแข่งกับโลตัสอีกต่อไป ขณะที่รายได้กว่าแสนล้านบาทของโลตัส เมื่อรวมกับรายได้เดิมของบิ๊กซี จะส่งผลให้บิ๊กซีมีรายได้และกำไรเพิ่มอีกเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่บิ๊กซีอาจจะเปลี่ยนห้างโลตัสให้เป็นรูปแบบอื่น นอกเหนือจากไฮเปอร์มาร์เกตที่มีบิ๊กซีอยู่แล้ว เช่น เปลี่ยนเป็นห้างค้าส่งเพื่อชนกับแม็คโครของกลุ่มซีพี ซึ่งเป็นโมเดลที่บิ๊กซียังไม่มี
ภาพจาก Settawat Udom/Shutterstock
ด้วยเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ มาตั้งแต่แรกเริ่ม จึงไม่แปลกที่หลายคนคาดการณ์ว่า น่าจะมีชื่อเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ของเจ้าสัวธนินทร์ เจียรวนนท์ โดดร่วมวงบิ๊กดีลครั้งนี้ด้วย แม้จะมีกระแสข่าวว่า กลุ่มซีพี คงไม่ได้สนใจเทกโอเว่อร์โลตัส เพราะคาดว่าราคาประมูลน่าจะแพงเกินไป แต่ก็ไม่แน่ว่า ซีพี อยากจะซื้อโลตัสคืนกลับมาเพื่อดำเนินธุรกิจด้วยตัวเองอีกครั้ง
ธุรกิจในมือของซีพี :
มีธุรกิจครอบคลุมทุกวงการ ทั้งการเกษตรและอาหาร การสื่อสารและโทรคมนาคม ไปจนถึงยานยนต์ เวชภัณฑ์ การเงินและธนาคาร ซึ่งหากนับเฉพาะธุรกิจค้าปลีก มีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven 10,000 สาขา, ห้างค้าส่ง Makro 121 สาขา และศูนย์การค้า Super Brand Mall ในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ด้วยสาขาที่มากมาย ทำให้มีรายได้รวมกว่า 1.7 ล้านล้านบาท ถ้านับเฉพาะรายได้ค้าปลีกจาก 7-Eleven มีมูลค่า 4.2 แสนล้านบาท ขณะที่รายได้จากห้างค้าส่ง Makro มีมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท (ข้อมูลไตรมาสที่ 3 ปี 2562)
จะเกิดอะไรขึ้นหากซื้อเทสโก้ โลตัส สำเร็จ :
ถ้าประมูลได้โลตัส ซีพีจะมีไฮเปอร์มาร์เกตและห้างสรรพสินค้าไว้แข่งขันกับบิ๊กซี-เซ็นทรัล รวมถึงมีสาขาของร้านค้า ห้างสรรพสินค้า เพิ่มเป็นกว่า 12,000 แห่งทั่วประเทศ มากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเมื่อมีทั้งร้านสะดวกซื้อ คือ 7-Eleven มีห้างค้าส่ง คือ แม็คโคร และไฮเปอร์มาร์เกต ค้าปลีก คือ โลตัส ก็จะทำให้ธุรกิจค้าปลีกของซีพีครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม และมีอำนาจต่อรองสูงที่สุด
ภาพจาก March Marcho/Shutterstock
ถึงไม่แสดงตัวออกมาชัดเจน แต่ก็มีกระแสออกมาว่า กลุ่มเซ็นทรัล ของตระกูลจิราธิวัฒน์ สนใจที่จะซื้อกิจการเทสโก้ โลตัส เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจของตนเอง
ธุรกิจในมือของเซ็นทรัล :
ธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลในปัจจุบันมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจห้างสรรพสินค้า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจบริหารและการตลาดแฟชั่น ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจดิจิทัลไลฟ์สไตล์ ซึ่งถ้านับเฉพาะธุรกิจค้าปลีกแล้ว นอกจากเซ็นทรัล ยังมีโรบินสัน ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เกต ร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท และกิจการในเอเชียและยุโรป จากการเข้าซื้อบิ๊กซีในเวียดนาม และห้างสรรพสินค้าระดับโลก เช่น รีนาเชนเต ประเทศอิตาลี, คาเดเว ประเทศเยอรมนี, อิลลุม ประเทศเดนมาร์ก
ด้วยธุรกิจที่มีจำนวนมากและตัวแบรนด์มีความแข็งแกร่ง ทำให้ในวันนี้ เซ็นทรัล กรุ๊ป มีรายได้รวมกว่า 3.9 แสนล้านบาท โดยหากนับเฉพาะธุรกิจค้าปลีก (ข้อมูลไตรมาสที่ 3 ปี 2562) มีรายได้รวม 1.6 แสนล้านบาท
จะเกิดอะไรขึ้นหากซื้อเทสโก้ โลตัส สำเร็จ :
เซ็นทรัล จะมีไฮเปอร์มาร์เกตเป็นของตนเอง และมีห้างค้าปลีกกระจายไปทั่วประเทศมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้มีแต่ร้านสะดวกซื้ออย่างแฟมิลี่มาร์ท ซูเปอร์มาร์เกตอย่าง Tops และห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัลพลาซา ที่ตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ หาดใหญ่ ภูเก็ต และโรบินสัน ในเมืองรอง ซึ่งเมื่อผนวกกับห้างค้าปลีกที่อยู่ในเวียดนาม และห้างสรรพสินค้าระดับแฟลกชิพสโตร์ในทวีปยุโรป ก็จะส่งผลให้เซ็นทรัล เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยุโรป
เมื่อเทียบกันแล้ว แต่ละกลุ่มต่างก็มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และได้ประโยชน์หากประมูลได้สำเร็จ ก็คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า สุดท้ายแล้ว เทสโก้ โลตัส จะตกอยู่ในมือของใคร จะช่วยเพิ่มมูลค่ากิจการให้แก่กลุ่มทุนนั้น ๆ ได้คุ้มค่าดังที่คาดหวังกันไว้หรือไม่ และจะนำไปสู่การผูกขาดทางธุรกิจดังที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลมากน้อยเพียงใด
