กรมสรรพามิต ชี้แจง ข่าวปรับภาษีใหม่ ดันราคาขายบุหรี่เพิ่มซองละ 30 บาท ไม่เป็นความจริง ย้ำราคาใหม่ไม่กระทบผู้บริโภคแน่นอน ฟาก คลัง เผย ภาษีบุหรี่ใหม่ เก็บที่ 1.20 บาทต่อมวน เชื่อไม่ทำให้ราคาสินค้าเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ
วันที่ 13 กันยายน 2560 นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงกรณีการปรับโครงสร้างภาษี สุรา ยาสูบ และไพ่ ที่มีกระแสข่าวว่าการปรับโครงสร้างภาษีดังกล่าว
จะทำให้ราคาขายปลีกบุหรี่ในประเทศแพงขึ้นถึงซองละ 30 บาท ว่า ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะราคาขายปลีกที่แท้จริง ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากขนาดนั้น ซึ่งย้ำว่าหลักของการปรับภาษีครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค แต่เน้นสร้างความโปร่งใส เป็นธรรมมากขึ้น
เพราะฉะนั้น ขอเตือนให้ผู้ประกอบการอย่าทำการกักตุนสินค้า เนื่องจากราคาขายปลีกในท้องตลาดจะไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ก็ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตลงพื้นที่ติดตามดูสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับประชาชน
ด้านนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
ภาษีบุหรี่ใหม่ จะเก็บตามมูลค่าและปริมาณรวมกันทั้ง 2 ขา โดยขาปริมาณจากเดิมเก็บ 1.10 บาทต่อกรัม จะเปลี่ยนเป็น 1.20 บาทต่อมวน ขณะที่ส่วนของขามูลค่าเดิมเก็บที่ 90% ของราคาขายปลีก จะเปลี่ยนเป็นบุหรี่ราคาไม่เกิน 60 บาท เก็บภาษีที่ 20% ของราคาขายปลีก และบุหรี่ราคามากกว่า 60 บาท เก็บที่ 40% ของราคาขายปลีก เป็นเวลา 2 ปีแรก หลังจากนั้นจะเก็บภาษีเป็นอัตราเดียวกันที่ 40% ทำให้มองว่าภาพรวมการเก็บภาษีใหม่จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนของภาษีสุรา เบียร์ ก็จะเก็บทั้งด้านมูลค่าและปริมาณเช่นกัน โดยภาษีใหม่จะเก็บด้านมูลค่าอยู่ที่ 60% และด้านปริมาณ 40% จากเดิมที่เก็บด้านมูลค่า 80% และด้านปริมาณ 20% ซึ่งการจัดเก็บภาษีแบบใหม่ เพื่อให้เป็นหลักสากลมากขึ้น คือ ปริมาณแอลกอฮอล์มากก็ต้องเสียภาษีมาก โดยจะทำให้ราคาสินค้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ไม่ได้แตกต่างจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ภาษีไวน์ใหม่ กำหนดให้ไวน์ราคาไม่เกิน 1,000 บาท ไม่ต้องเสียภาษีด้านราคา แต่หากเกินให้เสีย 10% และนำไปคิดรวมกับภาษีด้านปริมาณที่เก็บอยู่ที่ 1,500 บาทต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
