นักวิชาการเปิดเผยข้อมูลเงินคงคลังรัฐบาล พบเงินลดไปมหาศาล ซ้ำยังกู้เพิ่ม ด้านกระทรวงการคลังรับมีรายรับต่ำกว่าเป้า และเตรียมชี้แจงในวันนี้
จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลถังแตก จึงต้องปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศ จนทำให้ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาปฏิเสธ พร้อมเผยว่าเหตุผลที่ปรับขึ้นเพราะเป็นการสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษี ส่วนรายได้ที่เกิดจากการเก็บภาษีนั้น รัฐจะคืนกลับแก่ประชาชนในหลากหลายรูปแบบ (อ่านข่าว : พล.ท. สรรเสริญ จี้รัฐไม่ได้ถังแตกขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน ได้ภาษีมาก็คืนให้ประชาชน)
จากกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลถังแตก จึงต้องปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินภายในประเทศ จนทำให้ พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาปฏิเสธ พร้อมเผยว่าเหตุผลที่ปรับขึ้นเพราะเป็นการสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษี ส่วนรายได้ที่เกิดจากการเก็บภาษีนั้น รัฐจะคืนกลับแก่ประชาชนในหลากหลายรูปแบบ (อ่านข่าว : พล.ท. สรรเสริญ จี้รัฐไม่ได้ถังแตกขึ้นภาษีน้ำมันเครื่องบิน ได้ภาษีมาก็คืนให้ประชาชน)
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 อ.เดชารัตน์ สุขกําเนิด นักวิชาการจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Decharut Sukkumnoed ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า ตอนเดือนกันยายน 2557 หลังจากรัฐบาล คสช. เข้ารับตำแหน่งใหม่ ๆ ตอนนั้นรัฐบาลมีเงินคงคลัง 495,747 ล้านบาท แต่ผ่านไป 2 ปีกว่า เงินคงคลังของรัฐบาล เหลืออยู่ 74,907 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ลดลงไป 420,840 ล้านบาท ยังไม่รวมที่รัฐบาล คสช. ได้กู้ยืมเงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณอีก 744,187 ล้านบาท ซึ่งตนนึกไม่ออกว่า ถ้าได้รับโอกาสบริหารประเทศไปอีก 15 ปี ฐานะการคลังของประเทศจะเป็นอย่างไร
ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก Decharut Sukkumnoed,