ดัชนีไอโฟน ชี้ คนกรุงเทพฯ ต้องทำงานเกือบ 20 วัน เพื่อได้เงินซื้อไอโฟนมาครอบครอง ในขณะที่คนโตเกียว นิวยอร์ก แอลเอ ทำงานไม่กี่วันเท่านั้น
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2558 เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทำดัชนีชี้วัดค่าครองชีพและราคาสินค้าในกว่า 71 ประเทศทั่วโลก ซึ่งปรากฏว่า คนกรุงเทพฯ ต้องทำงานกว่า 149.6 ชั่วโมง หรือประมาณ 20 วัน เพื่อที่จะได้เป็นเจ้าของไอโฟน 6 ในขณะที่ชาวนิวยอร์ก ทำงานแค่ 3 วันเท่านั้น
ดัชนีดังกล่าว จะมีการตีพิมพ์ทุก ๆ 3 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้คนที่อาศัยในเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต้องทำงานอย่างน้อยประมาณ 21 ชั่วโมง หรือแค่ 2 วันครึ่ง ก็สามารถซื้อไอโฟน 6 มาครองได้แล้ว ส่วนชาวลอนดอนนั้น ก็ทำงานแค่ 5 วัน ก็ได้เป็นเจ้าของไอโฟน ต่างกันกับผู้คนในเมืองเม็กซิโกซิตี้ ที่ต้องทำงานประมาณ 25 วัน กว่าที่จะได้ไอโฟนมาครอบครอง
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยพบว่า ผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครนนั้น สามารถหาซื้อไอโฟนได้ยากที่สุด พวกเขาต้องทำงานกว่า 627 ชั่วโมงหรือ 78 วัน เพื่อให้ได้เงินไปซื้อไอโฟน หรือกระทั่งในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ผู้คนก็ต้องทำงานกว่า 59 วัน เพื่อให้ได้เงินจำนวนดังกล่าว
นอกจากนี้ ทางนักวิจัยเอง ยังได้เผยให้เห็นว่า โทรศัพท์ไอโฟนนั้น มีราคาที่แพงต่อคนในท้องถิ่นขนาดไหน จนทำให้เกิดคู่แข่งของไอโฟนอยู่ทั่วทุกมุมโลก เช่น ในประเทศอินเดีย ที่โทรศัพท์มือถือ Micromax ได้กลายมาเป็นผู้ค้าสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุด และในอินเดียเอง ก็ไม่มีแอปเปิล สโตร์ เนื่องจากราคาสินค้าของแอปเปิลนั้น แพงเกินไปสำหรับคนทำงาน ส่วนในประเทศจีน สมาร์ทโฟนยี่ห้อ เสี่ยวหมี (Xiaomi) ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระดับท๊อป 5 ของโลก อีกทั้งยังทำยอดขายแซงหน้าแอปเปิลในจีนอีกด้วย
ชั่วโมงทำงานในแต่ละเมือง ที่ผู้คนต้องทำ เพื่อสามารถซื้อไอโฟน 6 (16GB)
1. กรุงเทพมหานคร ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 149.6 ชั่วโมง (19 วัน)
2. ปักกิ่ง ประเทศจีน ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 217.8 ชั่วโมง (27 วัน)
3. เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย ชั่วโมง (59 วัน)
4. จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 468 ชั่วโมง (59 วัน)
5. เคียฟ ประเทศยูเครน ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 627.2 ชั่วโมง (7 วัน)
6. ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 41.2 ชั่วโมง (5 วัน)
7. ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 27.2 ชั่วโมง (3 วัน)
8.มอสโก ประเทศรัสเซีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 158.3 ชั่วโมง (20 วัน)
9. นิวเดลี ประเทศอินเดีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 360.3 ชั่วโมง ( 5 วัน)
10. นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 24 ชั่วโมง (1 วัน)
11. ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 42.2 ชั่วโมง (5วัน)
12. เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 163.8 ชั่วโมง (20 วัน)
13. ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 34 ชั่วโมง (4 วัน)
14. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 40.5 ชั่วโมง (5 วัน)
15. โตรอนโต ประเทศแคนาดา ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 37.2 ชั่วโมง (5 วัน)
16. ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 20.6 ชั่วโมง (2.5 วัน)
นอกจากนี้ ทางนักวิจัยเอง ยังได้เผยให้เห็นว่า โทรศัพท์ไอโฟนนั้น มีราคาที่แพงต่อคนในท้องถิ่นขนาดไหน จนทำให้เกิดคู่แข่งของไอโฟนอยู่ทั่วทุกมุมโลก เช่น ในประเทศอินเดีย ที่โทรศัพท์มือถือ Micromax ได้กลายมาเป็นผู้ค้าสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุด และในอินเดียเอง ก็ไม่มีแอปเปิล สโตร์ เนื่องจากราคาสินค้าของแอปเปิลนั้น แพงเกินไปสำหรับคนทำงาน ส่วนในประเทศจีน สมาร์ทโฟนยี่ห้อ เสี่ยวหมี (Xiaomi) ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตสมาร์ทโฟนระดับท๊อป 5 ของโลก อีกทั้งยังทำยอดขายแซงหน้าแอปเปิลในจีนอีกด้วย
ชั่วโมงทำงานในแต่ละเมือง ที่ผู้คนต้องทำ เพื่อสามารถซื้อไอโฟน 6 (16GB)
1. กรุงเทพมหานคร ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 149.6 ชั่วโมง (19 วัน)
2. ปักกิ่ง ประเทศจีน ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 217.8 ชั่วโมง (27 วัน)
3. เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย ชั่วโมง (59 วัน)
4. จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 468 ชั่วโมง (59 วัน)
5. เคียฟ ประเทศยูเครน ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 627.2 ชั่วโมง (7 วัน)
6. ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 41.2 ชั่วโมง (5 วัน)
7. ลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 27.2 ชั่วโมง (3 วัน)
8.มอสโก ประเทศรัสเซีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 158.3 ชั่วโมง (20 วัน)
9. นิวเดลี ประเทศอินเดีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 360.3 ชั่วโมง ( 5 วัน)
10. นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 24 ชั่วโมง (1 วัน)
11. ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 42.2 ชั่วโมง (5วัน)
12. เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 163.8 ชั่วโมง (20 วัน)
13. ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 34 ชั่วโมง (4 วัน)
14. โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 40.5 ชั่วโมง (5 วัน)
15. โตรอนโต ประเทศแคนาดา ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 37.2 ชั่วโมง (5 วัน)
16. ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนต้องทำงานอย่างน้อย 20.6 ชั่วโมง (2.5 วัน)
ภาพจาก gsmarena
