ธนาคารหลายแห่งในกรีซยังปิด แม้ อียู อนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน

         ธนาคารหลายแห่งในประเทศกรีซจะยังคงปิดทำการไปจนถึงวันอาทิตย์นี้ ถึงแม้ว่าสหภาพยุโรปจะอนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉินเป็นจำนวนเงินกว่า 7,600 ล้านยูโรแล้วก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลกรีซยังไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าว

         วันที่ 17 กรกฎาคม 2558 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแห่งภูมิภาคยุโรป ได้อนุมัติเงินกู้ชั่วคราว จำนวน 7,600 พันล้านยูโร ให้กับกรีซเพื่อให้กรีซนำเงินจำนวนดังกล่าวไปชำระหนี้ธนาคารกลางยุโรปให้ทันภายในวันจันทร์นี้ (19 กรกฎาคม) หลังจากนั้นธนาคารกลางยุโรปจะอนุมัติเงินกู้ฉุกเฉินจำนวน 900 ล้านยูโร ให้กับธนาคารในประเทศกรีซเพื่อให้ธนาคารมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น ซึ่งถ้านับถึงตอนนี้บรรดาธนาคารในประเทศกรีซก็ได้ปิดทำการมากว่า 3 สัปดาห์แล้ว

         แต่อย่างไรก็ตามจากรายงานล่าสุดระบุว่า จนถึงตอนนี้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินก้อนใหม่ยังไม่ได้ตกถึงมือกรีซแต่อย่างใด โดยรัฐบาลบอกว่า ธนาคารจะยังคงปิดทำการต่อไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม สวนทางกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร บอกว่า ธนาคารหลายแห่งในกรีซพร้อมที่จะเปิดทำการในวันจันทร์ แต่ก็อาจจะไม่ได้เปิดให้บริการพร้อมกันทุกระบบเพราะยังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรัฐบาลกรีซเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยว่าจะเอายังไงต่อไปหลังยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ

         การที่สหภาพยุโรปยินยอมที่จะช่วยเหลือกรีซในการฟื้นฟูระบบการเงินของธนาคารในกรีซขึ้นมาใหม่ เป็นเพราะว่า รัฐสภากรีซตอบรับข้อเสนอแพ็กเกจเงินกู้ระยะสั้นเป็นเวลา 3 ปี วงเงินกู้ 9,600 ล้านยูโร ซึ่งตลอดทั้งคืนที่มีการอภิปรายเรื่องดังกล่าว ได้มีการผ่านร่างกฎหมายการปฏิรูปเศรษฐกิจในหลาย ๆ ข้อ ที่เป็นเงื่อนไขที่เจ้าหนี้ตั้งไว้ให้กรีซนำไปปฏิบัติตามก่อนจะได้รับเงินช่วยเหลือ โดยในส่วนของรายละเอียดของความช่วยเหลือครั้งใหม่อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการเจรจาหาข้อสรุปว่าจะเริ่มต้นช่วยเหลือกรีซอย่างไร แต่กรีซต้องการใช้เงินในตอนนี้เลย เนื่องจากกรีซเองต้องนำเงินจำนวน 2,000 ล้านยูโร ไปใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ ขณะที่ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ยังต้องใช้หนี้ธนาคารกลางยุโรปอีก 3,500 ล้านยูโร

         ทั้งนี้ธนาคารในประเทศกรีซต้องการใช้เงินเพื่อรักษาสภาพคล่อง เพราะก่อนหน้านี้ธนาคารกลางยุโรปได้ปฏิเสธคำขอกู้เงินเพิ่มจากบรรดาธนาคารในกรีซ เพราะรัฐบาลกรีซปล่อยปละละเลยไม่สนใจทำตามเงื่อนไขที่จะทำให้ได้รับเงินช่วยเหลือเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนทำให้ประชาชนพากันแตกตื่นและแห่ไปถอนเงินออกจากบัญชีเป็นจำนวนหลายพันล้านยูโรภายในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนเป็นการบีบให้ธนาคารหลายแห่งในประเทศกรีซต้องปิดตัวลงเพราะขาดสภาพคล่อง ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานรัฐบาลก็ได้ออกมาตรการจำกัดการถอนเงินอยู่ที่ 60 ยูโรต่อวัน