นายกฯ กรีซ ยื่นแผนปฏิรูปเศรษฐกิจต่อ 3 เจ้าหนี้ หวังได้เงินไปใช้หนี้ IMF ให้ทันก่อนถึงเส้นตายสิ้นเดือนมิ.ย. นี้ ด้านกลุ่มผู้นำอียู ยืนยัน ช่วยกรีซเต็มที่เพื่อไม่ให้กรีซต้องผิดนัดชำระหนี้และถูกขับออกจากกลุ่มยูโร
เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศ เบลเยียม กลุ่มผู้นำยุโรป 18 ชาติ จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงในการปล่อยเงินกู้จำนวน 7,200 ล้านยูโร ให้แก่ ประเทศกรีซ เพื่อนำไปหนี้ ไอเอ็มเอฟ ก่อนที่จะถึงเส้นตายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งถ้าหากกรีซไม่สามารถชำระหนี้ได้ก็เท่ากับว่ากรีซต้องถูกประกาศเป็นประเทศล้มละลาย และอาจถูกขับออกจากยูโรโซนได้ ซึ่งก่อนหน้านี้การเจรจาเรื่องแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อแลกกับเงินกู้ระหว่าง 3 เจ้าหนี้ ซึ่งได้แก่ คณะกรรมาธิกายุโรป ธนาคารกลางยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เมื่อ 5 เดือนที่แล้วล้มเหลวไม่เป็นท่า
แต่หลังจากที่ใกล้จะถึงเดธไลน์การชำระหนี้ นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส ของกรีซ ได้ยื่นข้อเสนอใหม่เกี่ยวกับแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ เพื่อให้เจ้าหนี้พิจารณาปล่อยเงินกู้จำนวนดังกล่าว หลังกรีซเคยยืนกรานว่าจะไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในแผนปฏิรูป ซึ่งระบุว่า กรีซต้องลดสวัสดิการบำนาญและเพิ่มการจัดเก็บภาษี
ทางด้านประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ ของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรี มัตเตโอ เรนซี่ ของอิตาลี่ ร่วมกันแถลงข่าวเตือนบรรดาผู้นำชาติยุโรปว่า จะต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษากรีซไว้ในยูโรโซนให้ได้ แต่ทั้งนี้กรีซเองก็ต้องยอมรับแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของเจ้าหนี้ก่อนเท่านั้นจึงจะได้รับเงินกู้
โดยหลังจากที่กรีซได้ทำข้อตกลงแผนกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจของกรีซซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 240,000 ล้านยูโร เมื่อ 5 ปีก่อน กรีซก็ยังไม่ได้รับเงินจำนวน 7,200 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เหลือตามแผนดังกล่าว นับตั้งแต่รัฐบาลของนายซีปราส เข้ามาบริหารประเทศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยนายซีปราส ยืนยันที่จะไม่ปฏิบัติตามนโยบายรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นเงื่อนไขของเจ้าหนี้ ทำให้จนถึงบัดนี้กรีซก็ยังไม่ได้รับเงินกู้ก้อนสุดท้ายและทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
