Health Focus รูปแบบธุรกิจที่กำลังมาแรงในตลาดธุรกิจ ที่พ่วงเรื่องของสุขภาพและความงามมาขายให้กับคนรุ่นใหม่ และแอบได้ผลกำไรที่ดีงาม
ธุรกิจที่อยู่ในกระแสและไม่มีวี่แววว่าจะแผ่วลงคงหนีไม่พ้นธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความงาม โดยเฉพาะในยุคนี้คนเริ่มดูแลสุขภาพและร่างกายของตัวเองกันมากขึ้น นิตยสาร SMEs ชี้ช่องรวย เลยชี้ทางธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพมาบอกต่อ
ท่ามกลางวิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป มีความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน ต้องการสินค้าที่ตอบสนองความต้องการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและระบบสาธารณสุขที่ดีขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดกระแสสุขภาพของคนไทยใหม่ ๆ รวมทั้งโอกาสของการดำเนินธุรกิจในอนาคต
เทรนด์สุขภาพเป็นเรื่องที่พูดกันอย่างหนาหูในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา และผู้บริโภคได้ให้การตอบรับอย่างจริงจัง แต่แม้จะถูกคาดหมายว่ายังคงเป็นเทรนด์ที่สำคัญ แต่ Healthy ไม่อาจขายได้เดี่ยว ๆ อีกต่อไป ต้องบวกคุณประโยชน์ด้านอื่น ๆ เช่น Beauty และ Smart ที่ถูกหยิบยกมาเป็นส่วนผสมที่เติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย
ดังนั้นหากจะกล่าวถึง “เทรนด์เพื่อสุขภาพ” มักหนีไม่พ้น 3 เรื่องหลัก คือ อาหาร ยา และความงาม ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้สามารถขยายผลออกไปได้มาก
อย่างไรก็ตาม เทรนด์การชะลอวัย (Aging) ยังคงเป็นกระแสสุขภาพที่มาแรงอย่างต่อเนื่องในปี 2558 เพราะคนในยุคนี้ต้องการมีสุขภาพดีและคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวโดยปราศจากโรคภัยให้นานที่สุด
เทรนด์สุขภาพ สร้างนำซ่อม
ปัจจุบันผู้บริโภคทั่วโลกเริ่มตื่นตัวและได้หันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น แนวโน้มการผลิตและการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพจึงเพิ่มขึ้นตามมาอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่ถือแนวคิดที่ว่า “การป้องกันดีกว่าการรักษา”
“อาหาร” จึงไม่เป็นเพียงปัจจัยในการดำรงชีวิตเท่านั้น แต่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป ดังนั้นแนวโน้มของการพัฒนาอาหารของโลกในปัจจุบันและอนาคตจึงมีทิศทางไปยังการพัฒนานวัตกรรมอาหารในกลุ่มอาหารเสริมสุขภาพในรูปของ “อาหารฟังก์ชั่น” (Functional Foods) หมายถึง อาหารที่มากกว่าอาหาร ซึ่งเป็นการรับประทานเพื่อช่วยในเรื่องของสุขภาพและให้ผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย เช่น การป้องกันโรค เพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านทาน ชะลอความเสื่อมของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ และส่งเสริมสุขภาพ ตัวอย่างอาหารฟังก์ชั่นก็คือ ผักและผลไม้ ธัญพืช โยเกิร์ตสด สาหร่ายทะเล เห็ด ซุปไก่สกัด และสมุนไพรก้นครัวต่าง ๆ เป็นต้น
อาหารเสริม ดูดีจากภายใน
นอกจากเรื่องของอาหารการกินแล้ว การมองหาสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอกยังคงเกิดขึ้นในยุคนี้ จึงเป็นยุคที่ วิตามิน อาหารเสริม และอาหารสุขภาพ ในหลากหลายรูปแบบครองเมือง วิตามิน อาหารเสริมจึงได้รับความสนใจมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะคนที่มีปัญหาสุขภาพและผู้สูงอายุเท่านั้น แต่รวมถึงคนที่อยากมีสุขภาพดีทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก อาหารเพื่อบำรุงสมอง อาหารเพื่อความสวยงาม และอาหารเพื่อสุขภาพ จะได้รับความนิยมมากขึ้น
คลีนฟู้ดยังคงมาแรง
พูดถึงกันมาพักใหญ่ในสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการกินอาหารคลีน ๆ ที่หลายคนรู้จักและเรียกกันจนติดปาก“คลีนฟู้ด” (Clean Food) เป็นคำเรียกที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนได้เกิดความตระหนักว่า การกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ มีความปลอดภัย ไม่มีสารปนเปื้อน และกินอย่างเพียงพอ ครบ 5 หมู่ ควบคู่กับการออกกำลังกาย คือ การนำมาซึ่งสุขภาพที่ดี
คำว่าคลีนฟู้ดนั้น มีความหมายอยู่ 2 นัยคือ “อาหารที่ไม่ปนเปื้อน” หมายถึง กินเข้าไปแล้วมีประโยชน์และไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ไม่ปนเปื้อนเชื้อโรค ปนเปื้อนจากพยาธิ และปนเปื้อนสารเคมี ส่วนนัยที่สอง คือ “อาหารที่ถูกหลักโภชนาการ” หมายถึง การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และต้องกินให้ได้สัดส่วนในปริมาณที่เพียงพอไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
รวมถึงมีความหลากหลาย เลี่ยงอาหารหวานจัด เค็มจัด มันจัด กินผักผลไม้ให้มาก เพราะฉะนั้นคำว่า คลีนฟู้ด ก็คืออาหารที่ปลอดภัยไม่ปนเปื้อนและถูกหลักโภชนาการนั่นเอง ปัจจุบันการรับประทานอาหารคลีนไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะมีตัวเลือกมากมาย ทั้งในรูปแบบของร้านอาหาร หรือในลักษณะ Delivery ส่งตรงถึงบ้านจากเว็บไซต์ในโลกออนไลน์
ร้านเหล่านี้จะมีกลยุทธ์การขายด้วยการเน้นวัตถุดิบที่สดใหม่ โดยเฉพาะพืชผักไร้สารพิษเจือปนและเมนูที่หลากหลาย
นอกจากนี้ในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านอย่าง 7-Eleven ก็ยังมีอาหารคลีนให้เลือกรับประทานแบบง่าย ๆ เช่น ไข่ต้ม ไข่ลวก โยเกิร์ตไขมัน 0% นมพร่องมันเนย สตรอว์เบอร์รี่แบบฟรีซดราย ข้าวกล้อง ทูน่ากระป๋อง และขนมปังโฮลวีต เป็นต้น
ค้าปลีกความงามโตไม่เลิก
ธุรกิจสุขภาพและความงามเป็นธุรกิจที่เรียกได้ว่าอินเทรนด์ตลอดกาล ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายแขนงนำ 2 สิ่งนี้มาผนวกเข้ากับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง หวังเกาะกระแส เพิ่มยอดขายให้โตขึ้น สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพและความงามจึงมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ไทยยังเป็นทั้งแหล่งผลิตและนำเข้าสินค้าสุขภาพที่ได้มาตรฐานและมีความเจริญด้านสาธารณสุขในระดับแนวหน้าของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
ปัจจุบันตลาดความงามนั้นไม่เคยหยุดสวย มีมูลค่าการตลาดกว่าหนึ่งแสนล้านบาท ทั้งนี้การเติบโตของตลาดกลุ่มนี้มาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการที่ผู้บริโภคคำนึงถึงบุคลิกภาพของตนมากขึ้น สินค้ามีนวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น การเติบโตของสังคมเมือง ทำให้แรงซื้อมีมากขึ้น การเติบโตของ Social Network การที่ผู้บริโภคเน้นสินค้าหลากหลายขึ้น โดยยึดติดแบรนด์น้อยลง และมุ่งเน้นไปทางด้านคุณภาพและราคามากขึ้น
ที่สำคัญผู้บริโภคส่วนใหญ่มองว่าสินค้าในกลุ่มนี้เป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันไปแล้วนั่นเอง โดยเฉพาะผู้หญิงไทยมีสถิติของความใส่ใจในเรื่องความสวยความงาม (Beauty Conscious) มากถึง 65% เป็นตัวเลขที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า สาวไทยแม้ว่าเจอวิกฤตเศรษฐกิจที่ผันผวน สินค้าขึ้นราคา น้ำมันแพง แต่พวกเธอยังใช้จ่ายในด้านความงามอย่างต่อเนื่อง
โดยภาพรวมของธุรกิจความงามแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ สินค้าเพื่อความงาม และการบริการเพื่อความงาม ธุรกิจเหล่านี้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตราบเท่าที่ผู้หญิงยังไม่หยุดสวย หรือแม้กระทั่งในกลุ่มผู้ชายที่ต้องการให้ตัวเองดูดี โดยจะมีจุดขายด้านความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ (Therapist) ยังคงเป็นส่วนสำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ารับการบริการ
Health Care
Health Care คือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทุกสิ่งทุกอย่างของการดูแลความเป็นอยู่ด้านสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งครอบคลุมขอบเขตค่อนข้างกว้าง ตั้งแต่เรื่องยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ และการบริการรักษาพยาบาล เป็นธุรกิจที่ไม่ต่างจากธุรกิจอื่นที่ต้องอาศัยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ นอกจากความเชี่ยวชาญในทักษะวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุข
สำหรับธุรกิจการดูแลสุขภาพนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การพัฒนาบุคลากรให้มีความครบเครื่อง โดยมุ่งต่อยอดทักษะการบริหารจัดการให้กับผู้ที่ทำงานในธุรกิจสุขภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ, โรงพยาบาล, คลินิก, สถาบันเสริมสุขภาพ รวมถึงสปา อีกทั้งซัพพลายเออร์ต่าง ๆ เช่น บริษัทยา บริษัทเครื่องมือทางการแพทย์ เป็นต้น
ทั้งนี้จากข้อมูลในการศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ประมาณการว่าตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโลกจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจสุขภาพเติบโตขึ้นเป็นเงาตามตัว ขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่รัฐบาลให้การสนับสนุนและส่งเสริมอย่างจริงจัง มีการจัดการเรียนการสอนเป็นหลักสูตรนานาชาติ มุ่งเน้นพัฒนาเนื้อหาในรายวิชาเพื่อให้องค์กรเตรียมความพร้อมในการดำเนินธุรกิจในระดับสากล และพร้อมรับมือกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้
สังคมนิยมออกกำลังกาย
ช่วงไม่กี่ปีหลังมานี้ คนไทยลุกขึ้นมาออกกำลังกายกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายที่บ้าน ที่ฟิตเนส หรือเปิดวิดีโอเต้นตาม และเชื่อว่าการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาก็ยังจะได้รับความนิยมไปตลอดปี 2558 นี้ โดยกิจกรรมที่จะช่วยให้ “ลดน้ำหนัก” และ “กระชับกล้ามเนื้อ” ได้ดี คือการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดิน วิ่งเหยาะ ๆ หรือวิ่งทางไกล ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก เต้้นแอโรบิก ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ลดไขมันในร่างกายได้ ส่วนการออกกำลังกายแบบ Weight Training จะช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำให้มีรูปร่างที่กระชับและดูดี
นอกจากการแปลงโฉมรูปร่าง การออกกำลังกายยังช่วยในเรื่องของการชะลอความเสื่อมของสมอง เพิ่มความแข็งแรงและความหนาแน่นของกระดูก ทำให้ผิวสวย ช่วยลดความเครียด และหลับสบายมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ไม่ว่ากระแสการออกกำลังกายหรือการกินอาหารแบบคลีนที่แพร่หลายในขณะนี้จะเป็นเพียงเรื่องฮิตที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็เป็นเรื่องน่ายินดีว่าคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพและดูแลเรื่องอาหารการกินเพิ่มมากขึ้น
เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ
ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีความสำคัญต่อสุขภาพและการดำรงชีวิตของเราอย่างมาก หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ” (Fitness Tech) เป็นสิ่งที่จะเข้ามาช่วยดูแล สร้างเสริมสุขภาพ รวมทั้งป้องกันรักษาโรคภัยไข้เจ็บและการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายย้อนวัยให้สวย หล่อ ใส คงความเป็นหนุ่มสาว
นอกจากศัลยกรรม วิตามิน และอาหารเสริมแล้ว ยังมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่จะเป็นตัวเร่งให้คนคงความเป็นหนุ่มเป็นสาวและมีคุณภาพที่ยืนยาวขึ้น เช่น นวัตกรรมและความก้าวหน้าของ “สเต็มเซลล์” (Stem Cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งเป็นเซลล์ชนิดหนึ่งที่สามารถแบ่งตัวและพัฒนาเป็นส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น เซลล์นี้จะเสื่อมลงและไม่สามารถแบ่งตัว เพื่อฟื้นฟูระบบการทำงานของร่างกายได้อีก
ปัจจุบันจึงมีการต่อยอดจากสเต็มเซลล์พัฒนาสู่การทำสำเนาอวัยวะ ด้วยเครื่อง Bioprinting ซึ่งมีรูปแบบคล้ายเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท สามารถพิมพ์ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อแก้ไขฟื้นฟู และทดแทนอวัยวะให้มนุษย์ได้ในอนาคตอันใกล้
เรื่องของสเต็มเซลล์ยังถูกนำมาใช้เป็นทางเลือกใหม่ในนวัตกรรมทางความงามอีกด้วย โดยเรียกกันว่า “ศาสตร์แห่งเซลล์บำบัด” โดยนำเลือดของคนไข้ไปเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ และสกัดออกมาเป็นเครื่องสำอางบำรุงผิวเฉพาะบุคคล สามารถลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า หรือนำเลือดมาผ่านกรรมวิธีพิเศษ สกัดเป็นวัคซีนเฉพาะบุคคล แล้วนำกลับเข้าไปฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของร่างกายตัวเอง
นอกจากนี้ เวชศาสตร์ทางยาก็มีวิวัฒนาการเช่นกัน จากที่ผู้คนไม่น้อยมีปัญหากินยาเกินขนาดและมีผลข้างเคียง เนื่องจากภาวะการต่อต้านทางร่างกายที่แตกต่างกัน จึงมีความพยายามในการพัฒนายาตามยีนเกิดขึ้น โดยปัจจุบันเริ่มมีการทดสอบและผลิตยารักษาโรคจำเพาะบุคคลแล้ว รวมทั้งมีการทดสอบในผู้ป่วยโรคหัวใจ ซึ่งได้ผลดีมาก หรือการรักษาโรคมะเร็งด้วยนวัตกรรมยารักษาแบบ “พุ่งเป้า” หรือทาร์เก็ตเทอราปี (Targeted Therapy) ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการกลับมาเป็นโรคอีก นอกจากนี้ยังมี Spa-Genomics หรือการใช้ข้อมูลจากดีเอ็นเอของคนไข้มาสร้างโปรแกรมการบำบัดเฉพาะตัวบุคคลอีกด้วย
เห็นได้ว่าเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพยุคนี้มุ่งเน้นการดูแลรักษาสุขภาพเป็นแบบ “เฉพาะบุคคล” หรือแบบ“เฉพาะเจาะจง” มากขึ้น ไม่เพียงเท่านี้ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียังเอื้อความสะดวกแก่คนยุคใหม่ให้เข้าถึงได้มากขึ้น เช่น เครื่องวินิจฉัยโรค (MRI) ที่สามารถใช้งานได้ด้วยตัวเอง ทั้งในรูปแบบของแอพพลิเคชั่นและขนาดพกพา ที่สามารถวินิจฉัยความเสี่ยงสุขภาพ พร้อมข้อแนะนำในเรื่องการกินอาหารหรือควรพบแพทย์ การตรวจรูปแบบนี้จึงสามารถตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้ดี โดยเฉพาะในสังคมเมือง
ตลาดประกันสุขภาพมาแรง
การใส่ใจสุขภาพเป็นเทรนด์ที่มาแรงในยุคนี้ ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง บวกกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคดิจิตอลที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก กลายเป็นจุดเปลี่ยนของ “สินค้าประกันสุขภาพ” ที่ต้องออกมาให้สอดรับกัน โดยแผนประกันสุขภาพแบบ “เหมาจ่าย”กำลังเป็นที่นิยมของตลาดในขณะนี้
ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเริ่มออกมาขายมากขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยขาใหญ่เอไอเอ ได้เป็นผู้นำแบบเหมาจ่าย “เอไอเอ เอช แอนด์ เอส พลัส โกลด์” (AIA H&S PLUS GOLD) ให้เลือกตั้งแต่วงเงิน 1-5 ล้านบาทต่อปี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายทั้งในฐานะผู้ป่วยใน และผู้ป่วยนอก เช่น ค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด และค่ารังสีบำบัด เป็นต้น
ขณะที่ บมจ.ไทยประกันชีวิต ได้ออกสินค้า “ประกันสุขภาพโกลด์” คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเหมาจ่ายสูงถึง 5 ล้านบาท รองรับทั้งกรณีฉุกเฉิน ค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ วงเงินคุ้มครองตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป สูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อปี
นอกเหนือจาก 2 ค่ายดังกล่าว ยังมีแผนคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่ายของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ที่ให้วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 5.5 ล้านบาท ภายใต้ชื่อสินค้า “สุขภาพปลดล็อค” หรือ คุ้มครองสุขภาพ มาย เฮลธ์ พลัส เน้นจุดขายปลดล็อคข้อจำกัดของประกันสุขภาพแบบเดิม ๆ คุ้มครองค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายได้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
สุขภาพแบบเหมาจ่ายจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวก ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด อย่างไรก็ตามแบบประกันสุขภาพในวันนี้ถือว่ามีหลากหลายมาก ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้า เช่น มนุษย์เงินเดือนที่มีสวัสดิการอยู่แล้ว ก็อาจเลือกซื้อแบบแยกค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุ้มครองเพิ่มเติมขึ้นจากสวัสดิการที่มีอยู่ ส่วนกลุ่มที่ไม่มีรายได้ประจำก็อาจจะชอบแบบเหมาจ่าย เพื่อให้ครอบคลุมทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของลูกค้าเป็นหลัก
ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) คือการเดินทางท่องเที่ยวเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยสดงดงามในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและพักผ่อนหย่อนใจ โดยแบ่งเวลาจากการท่องเที่ยวเพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เช่น การนวดประคบสมุนไพร การบริการสุคนธบำบัด และวารีบำบัด ซึ่งปัจจุบันการท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ได้รับการนิยมแพร่หลายเป็นอย่างมาก
อีกรูปแบบหนึ่งก็คือ การท่องเที่ยวเชิงบำบัดรักษาสุขภาพ เป็นการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติเช่นกัน แต่แบ่งเวลาส่วนหนึ่งจากการท่องเที่ยวไปรับบริการบำบัดรักษาสุขภาพ และการฟื้นฟูสุขภาพในโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐาน เช่น การตรวจร่างกาย การรักษาโรคต่าง ๆ การทำฟันและการรักษาสุขภาพฟัน การผ่าตัดเสริมความงาม การผ่าตัดแปลงเพศ และอื่น ๆ เป็นต้น การท่องเที่ยวเชิงบำบัดรักษาสุขภาพจึงเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่มุ่งประโยชน์ต่อการรักษาฟื้นฟูสุขภาพนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ
สำหรับประเทศไทยนับว่ามีการเติบโตในด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีความได้เปรียบในบริการด้านสุขภาพหลายประการ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน โดยเฉพาะความพร้อมในด้านบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญโรคเฉพาะทางและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า รวมทั้งยังมีความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวและบริการรองรับด้านการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล ซึ่งเกื้อหนุนต่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
จะเห็นได้ว่ากระแสสุขภาพและความงามยังคงแรงไม่เลิก ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวการณ์ใด ๆ ผู้คนยังคงใส่ใจในเรื่องของสุขภาพและความงามอยู่ อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีสีสัน และสร้างความสุขเสมอ แม้จะอยู่ท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือดของผู้ประกอบการก็ตาม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
