จากกรณีที่มีการเขียนข้อความลงสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการถอดรหัสความรู้ของนายกรัฐมนตรีเรื่องพลังงาน บนเฟซบุ๊กของ นางสาวรสนา โตสิตระกูล ล่าสุด วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า การเขียนข้อความดังกล่าวเป็นการเขียนที่มีหลายประเด็นที่คลาดเคลื่อนและบิดเบือน ทั้งเรื่องราคาก๊าซธรรมชาติ ระยะเวลาที่จะสามารถนำมาใช้ได้ พร้อมตำหนิกรณีที่มีการรณรงค์ไม่ให้เชื่อข้อมูลของหน่วยงานรัฐ ซึ่งอาจสร้างความขัดแย้งในสังคมและกระทบต่อการปฏิรูปพลังงาน
นอกจากนี้ นายไพรินทร์ โตสิตระกูล ยังกล่าวต่ออีกว่า หากการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ล่าช้าเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงาน เพราะก๊าชธรรมชาติในอ่าวไทยกำลังจะหมดลงในอีก 7 ปีข้างหน้า และถ้าไม่สามารถลงทุนสำรวจก๊าชธรรมชาติเข้ามาเพิ่มเติมได้ ประเทศไทยอาจต้องนำเข้าก๊าชธรรมชาติเหลว หรือ แอลเอ็นจี จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยงด้านราคาในอนาคตและเห็นว่ารัฐบาลควรเดินหน้าระบบสัมปทานแทนการใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต หรือพีเอสซี ตามที่ภาคประชาชนเสนอ เพราะระบบดังกล่าวไม่เหมาะกับแหล่งก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยที่มีขนาดเล็ก โดยจากตัวอย่างที่เห็นของประเทศอินโดนีเซีย ได้เลือกใช้ระบบพีเอสซี แต่ตอนนี้กลับหันมาใช้ระบบสัมปทานแทน เพื่อลดภาระของรัฐบาลหลังปริมาณปิโตรเลียมที่ขุดพบน้อยลง
ทั้งนี้ในส่วนของการจัดเวทีกลางทำความเข้าใจการเปิดสัมปทานรอบที่ 21 ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ทาง ปตท. ยังไม่ได้รับการติดต่อให้เข้าร่วม แต่เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีการพูดคุยกัน ซึ่งต้องเป็นการแลกเปลี่ยนข้อสงสัยและรับฟังข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเรื่องของพลังงานมีรายละเอียดมากและเป็นเรื่องทางเทคนิคที่ไม่ควรรับรู้ข้อมูลแบบผิวเผิน
ภาพจาก Thai PBS News สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
