คมนาคม จ่อชงรถไฟฟ้าสาย สีส้ม-เหลือง-ชมพู เข้า ครม. ม.ค.นี้
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก BMCL
ปลัดคมนาคม เผย เตรียมเสนอโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สายสีเหลืองลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพูแคราย-มีนบุรี เข้า ครม. ในเดือนมกราคมนี้ พร้อมเร่งเสนอเห็นชอบโครงการพัฒนาด้านคมนาคมอื่น ๆ อีกหลายโครงการก่อนสิ้นปี เหตุต้นทุนก่อสร้างต่ำตามราคาน้ำมัน
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าถึงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าว่า ปัจจุบันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่เปิดให้มีการประกวดราคาก่อสร้างที่แน่นอนแล้วประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ซึ่งปัจจุบันได้มีการส่งเรื่องมารอที่กระทรวงคมนาคมแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะส่งให้ พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม พิจารณา และเสนอให้ ครม. อนุมัติภายในเดือนมกราคมนี้
ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง บางซื่อ-พญาไท-หัวหมาก และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ช่วงพญาไท-ดอนเมือง การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะต้องให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. พิจารณาให้เสร็จสิ้นก่อนในวันที่ 13 มกราคม จากนั้นจะส่งมาที่กระทรวงคมนาคม พร้อมกับมีการเสนอให้ ครม. เห็นชอบภายในเดือนมกราคม เช่นกัน ส่วนการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) เส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารูปแบบการลงทุนคาด โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างทางพิเศษระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ ที่มีความพร้อมในการดำเนินการมากที่สุดในตอนนี้ คือ เส้นทางพัทยา-มาบตาพุด ของกรมทางหลวง เพราะได้รับการเห็นชอบจาก ครม. ในเรื่องของค่าเวนคืนที่ดินแล้ว ส่วนเงินลงทุนนั้นจะใช้จากกองทุนมอเตอร์เวย์มาดำเนินการ จึงสามารถเปิดประกวดราคาได้ทันที แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
สำหรับโครงการรถไฟทางคู่ เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือนมีนาคม ส่วนเส้นทางชุมทางจิระ-ขอนแก่น จะเสนอ ครม. ในเดือนมกราคมนี้ ก่อนเปิดประกวดราคาเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ และเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางจิระ คาดว่าจะเสนอเข้าสู่ ครม. ได้เดือนช่วงเดือนมีนาคม และก่อสร้างได้เดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้หากทุกโครงการสามารถเปิดประกวดราคาได้ภายในปีนี้ คาดว่าต้นทุนการก่อสร้างโครงการจะต่ำกว่ากำหนด เนื่องจากราคาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างต่างจะมีการปรับลดลงตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงด้วย ซึ่งจะช่วยให้รัฐประหยัดเงินได้เป็นจำนวนมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
