x close

ประกันชีวิต ปกป้องทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุด

ประกันชีวิต

ประกันชีวิต ปกป้องทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุด (Life & Family)
เรื่อง : สุวภา เจริญยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน ผู้บริหารหลักทรัพย์ธนชาติ

          ในบรรดาการบริหารจัดการเกี่ยวกับการวางแผนการเงินนั้น เรามักจะได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับการเอาเงินไปฝากหรือเอาไปลงทุน ทำให้เงินเพิ่มพูน แต่แท้จริงนอกเหนือจากการหาเพิ่ม หรือที่เรียกว่า Wealth Creation แล้ว ยังมีประเด็นปกป้องทรัพย์สิน Wealth Protection ที่ดีคู่มากับการหาเพิ่ม คือ การปกป้องทรัพย์สินเดิมที่เรามีอยู่ เช่น บ้าน หากบ้านเกิดเหตุร้าย ไฟไหม้ น้ำท่วม ขโมยขึ้นบ้าน การมีประกันก็สามารถทำให้เราได้รับค่าชดเชยบรรเทาจากเหตุไม่คาดฝันเหล่านั้น

          หรือ รถ หากไปเกิดอุบติเหตุโดนขโมย เราก็สามารถทำให้ความเสียหายลดน้อยลงหรือหมดไป ด้วยการใช้การประกันภัยมาช่วย หลายคนและหลายครอบครัวก็คิดว่าเท่านี้ก็พอแล้ว แต่เราคงหลงลืมทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดของเรานั่นก็คือ ชีวิตของเรา และการปกป้องมันให้ดีที่สุดนั่นก็คือ การประกันชีวิต!

          ป้องกันความเสี่ยงแถมลดภาษีได้

          การประกันชีวิตเป็นเรื่องที่ดีและจำเป็นมากสำหรับทุกคน แต่บางทีลักษณะการขายประกันในอดีตอาจจะทำให้อึดอัด และมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่การวางแผนและเตรียมพร้อมในปัจจุบัน มันไม่ใช่กรณีล้มหายตายจากกันแบบเดียวเช่นในอดีต

          ตอนนี้มีการประกันใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น การประกันสุขภาพเมื่อเจอกับโรคร้าย และที่มาใหม่ก็คือ ประกันแบบบำนาญสำหรับการอายุยืน หรือถึงถ้าคุณกลัวอายุสั้นเป็นอะไรก่อนวัยอันควรคุณก็ประกันชีวิต แต่ถ้าคุณคิดว่าอายุจะยืนซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นแน่ ๆ เพราะปัจจุบันคนเราอายุยืนมากขึ้นทุกปี คุณก็ควรซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ

          และในวันนี้คุณรู้หรือไม่...ว่าเบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปใช้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีเงินได้ สูงสุดถึง 300,000 บาท โดยสูงถึง 100,000 บาท สำหรับประกันชีวิต และ 200,000 บาท สำหรับประกันแบบบำนาญ และอีก 15,000 บาท สำหรับการประกันสุขภาพแก่บิดาและมารดา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของกรมสรรพากร เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับคุณในการใช้สิทธิ์นี้อย่างถูกต้อง เรามาดูรายละเอียดกันค่ะ

          กรณีทำประกันทำให้พ่อแม่ ลดหย่อนได้ 15,000 บาท

          การประกันให้พ่อแม่ เงื่อนไขเดียวกับการลดหย่อนภาษีพ่อแม่ คือ ท่านต้องอายุ 60 ขึ้นไป มีรายได้ไม่เกินปีละ 30,000 บาท โดยสามารถลดหย่อนได้เฉพาะในส่วนความคุ้มครอง สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทค่ะ แบบไหนหรือคะก็ที่เขาบอกว่าประกันวัยเก๋านั่นเองค่ะ แต่ให้ดีก็เช็กที่บริษัทประกันอีกครั้งนะคะ กรณีท่านหกล้มบาดเจ็บก็จะได้รักษาได้ทันท่วงที และส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ที่เป็นทุกบ้าน คือ ไม่อยากไปหาหมอ ด้วยกลัวว่าแพงไปบ้าง หรือกลัวหมด เปลือง พอบอกไม่ต้องห่วงประกันจ่าย ท่านยอมไปแต่โดยดีเลยค่ะ

ประกันชีวิติ

          กรณีประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ 200,0000 บาท

          เป็นผลมาจากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2553 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเพิ่มวงเงินการให้หักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิมไม่เกิน 100,000 บาท เป็นไม่เกิน 300,000 บาท โดยจำนวนค่าเบี้ยประกันภัยในวงเงินส่วนที่เพิ่มขึ้น 200,000 บาทนี้ เฉพาะสำหรับค่าเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญเท่านั้น โดยรายละเอียดคือ ..

          ค่าเบี้ยประกันในส่วนนี้จะต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมิน และเมื่อรวมค่าเบี้ยประกันดังกล่าวกับเงินที่จ่ายเข้ากองทุนประเภทต่าง ๆ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.), กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท

          กรณีคิดแบบเต็มที่ คือ มีรายได้ทั้งปี 4,000,000 บาท 15 %  คือ เงิน 600,000 บาทนั้น เขาระบุว่า เงินส่วนที่เอามาซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญ + เงิน กบข. (กรณีข้าราชการที่หลวงหักไว้) + เงินสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) และ + RMF รวมกันต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

          เราก็ตั้งเอาส่วนที่โดนหักไปแล้วมาพิจารณาก่อนว่า ปัจจุบันเรามีเงินหักในสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กบข. เท่าไร ที่เหลือจากนั้นไม่เกิน 15% รายได้รวมก็เลือกระหว่าง RMF กับประกันบำนาญค่ะ

          ประกันชีวิตแบบบำนาญพิเศษ สังเกตง่าย ๆ คือ จะจ่ายเมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป กรมธรรม์แบบไหนสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ก็ถามได้ที่บริษัทประกันเลย และการทำประกันเนี่ยบางคนก็มองเป็นเรื่องดวง เช่น พอประกันรถไม่ชน พอซื้อประกันสุขภาพก็ไม่ป่วย พอซื้อประกันชีวิตก็ไม่ตาย อย่างนี้เป็นต้นค่ะ

          กรณีทำประกันชีวิตลดหย่อนได้ 100,000 บาท

          คือ การซื้อกรมธรรม์ที่จ่ายค่าเบี้ย 100,000 บาท หรือมากกว่าต่อปี และมีรายละเอียด คือ

          ต้องเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกำหนดระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป

          ต้องเป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีเงิน หรือผลประโยชน์ตอบแทนคืนไม่เกินร้อยละ 20 ของเบี้ยประกันชีวิตสะสม (ไม่รวมเงินปันผลตามกรมธรรม์ หรือผลประโยชน์ตอบแทนที่จ่ายเมื่อสิ้นสุดการชำระเบี้ยประกันชีวิต หรือผลประโยชน์ตอบแทนที่จ่ายเมื่อสิ้นสุดอายุกรมธรรม์)

          เบี้ยประกันชีวิตที่นำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ ต้องเป็นเบี้ยประกันชีวิตของกรมธรรม์ประกันชีวิตหลักเท่านั้น

          .เบี้ยประกันชีวิตสำหรับสัญญาเพิ่มเติม (เช่น อุบัติเหตุ/สุขภาพ เป็นต้น) ไม่สามารถนำไปใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้

          วันหลังถ้ามีเวลาจะมาคุยยาว ๆ เกี่ยวกับประกันชีวิตแบบอื่นให้อีกนะคะ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับบุตร ถึงแม้หักลดหย่อนทางภาษีไม่ได้แต่ก็ดีมาก เพียงแต่วันนี้อยากจะบอกท่านที่ยังไม่มีหรือไม่ได้เริ่มคิดเกี่ยวกับการประกันชีวิต ว่า นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก นอกจากความคุ้มครองที่คุณได้รับแล้วคุณยังได้ภาษีคืนกลับ และยังเป็นการปกป้องทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด คือ "ชีวิตคุณเอง" อีกด้วยค่ะ







ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสาร Life & Family
Vol.1 No.2 มีนาคม 2557







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ประกันชีวิต ปกป้องทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุด อัปเดตล่าสุด 23 เมษายน 2557 เวลา 10:23:20 1,055 อ่าน
TOP