เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ธนาคารกสิกรไทย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ ญี่ปุ่นยังมาแรง ชี้ปี 2557 คนไทยบินเที่ยวไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน แถมเงินรั่วไหวกว่า 2 หมื่นล้านบาท แนะผู้ประกอบการปรับปรุงรูปแบบบริการให้สอดคล้องกับตลาด
วันที่ 8 เมษายน 2557 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า ประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นปลายทางท่องเที่ยวของคนไทยที่มาแรงในปี 2557 ว่า หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวจากประเทศเป้าหมายรวมถึงไทย โดยมีการยกเว้นวีซ่าระยะสั้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ส่งผลกระตุ้นให้คนไทยเดินทางด้วยตนเองโดยไม่พึ่งบริษัททัวร์มากขึ้น และยังทำให้การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศของไทย ต่างนำกลยุทธ์นำเสนอโปรโมชั่นทั้งในส่วนแพ็กเกจทัวร์และบริการ จากเดิมที่เน้นการท่องเที่ยวในเมือง โดยปรับลดจำนวนวัน เส้นทางให้มีความหลากหลายมากขึ้น ในราคาพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
จากสถิติชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นขององค์การส่ง เสริมการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization : JNTO) พบว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2556 หลังจากที่ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้นให้แก่คนไทย มีคนไทยรวม 251,826 คนตบเท้าเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 96.1 โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม มีคนไทยถึง 61,306 คน ที่เดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้งเนื่องจากการที่ญี่ปุ่นเป็นปลายการทางท่องเที่ยวระยะใกล้ และการเดินทางมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ถูกลง ยังรวมไปถึงการเสนอโปรโมชั่นด้านท่องเที่ยวของกลุ่มผู้ประกอบการต่าง ๆ ในด้านราคาที่หลากหลาย เพื่อออกมากระตุ้นยอดขาย จึงส่งผลให้คนไทยนิยมเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นตลอดในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ส่งผลต่อเนื่องมายังปี 2557
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2557 ได้แก่ ทางการญี่ปุ่นได้ปรับขึ้นภาษีการ บริโภค (Consumption Tax) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 เป็นร้อยละ 8 จากเดิมร้อยละ 5 ภายในเดือนตุลาคม 2558 จะปรับขึ้นเป็นร้อยละ 10 ซึ่งอาจส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น ฯลฯ ปรับตัวมีราคาสูงขึ้นตามลำดับ
โดยในปี พ.ศ. 2557 คาดการณ์ว่า จะมีคนไทยไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ที่มีกำลังซื้อเลือกเดินทางไปท่อง เที่ยวญี่ปุ่น หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ในส่วนของการใช้จ่ายต่าง ๆ จะสะพัดไปยังธุรกิจด้านที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีแนวโน้มคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตกว่าการที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทย ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และเหตุการณ์ความไม่สงบในบางพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ส่งผลให้การท่องเที่ยวในไทยซบเซาอย่างเด่นชัดในช่วงปีแรก
อีกทั้ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังระบุว่า การปรับปรุงรูปแบบบริการให้สอดคล้องกับตลาดของเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึง โดยการขยายตลาดนำคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทดแทนตลาดนำนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาเที่ยวประเทศไทยซบเซาลง รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนต้องเร่งหามาตรการ กระตุ้นให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยที่ถดถอยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 สามารถฟื้นกลับมาเติบโตได้โดยเร็ว และควรเร่งทำความเข้าใจกับนานาประเทศ หลังจากที่มีการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในตลาดต่างประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายของไทยควบคู่ด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ ญี่ปุ่นยังมาแรง ชี้ปี 2557 คนไทยบินเที่ยวไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน แถมเงินรั่วไหวกว่า 2 หมื่นล้านบาท แนะผู้ประกอบการปรับปรุงรูปแบบบริการให้สอดคล้องกับตลาด
วันที่ 8 เมษายน 2557 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า ประเทศญี่ปุ่นยังคงเป็นปลายทางท่องเที่ยวของคนไทยที่มาแรงในปี 2557 ว่า หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและยกเลิกวีซ่าท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวจากประเทศเป้าหมายรวมถึงไทย โดยมีการยกเว้นวีซ่าระยะสั้นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2556 ส่งผลกระตุ้นให้คนไทยเดินทางด้วยตนเองโดยไม่พึ่งบริษัททัวร์มากขึ้น และยังทำให้การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวต่างประเทศของไทย ต่างนำกลยุทธ์นำเสนอโปรโมชั่นทั้งในส่วนแพ็กเกจทัวร์และบริการ จากเดิมที่เน้นการท่องเที่ยวในเมือง โดยปรับลดจำนวนวัน เส้นทางให้มีความหลากหลายมากขึ้น ในราคาพิเศษเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
จากสถิติชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นขององค์การส่ง เสริมการท่องเที่ยวแห่งญี่ปุ่น (Japan National Tourism Organization : JNTO) พบว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2556 หลังจากที่ญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวระยะสั้นให้แก่คนไทย มีคนไทยรวม 251,826 คนตบเท้าเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 96.1 โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม มีคนไทยถึง 61,306 คน ที่เดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้งเนื่องจากการที่ญี่ปุ่นเป็นปลายการทางท่องเที่ยวระยะใกล้ และการเดินทางมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ถูกลง ยังรวมไปถึงการเสนอโปรโมชั่นด้านท่องเที่ยวของกลุ่มผู้ประกอบการต่าง ๆ ในด้านราคาที่หลากหลาย เพื่อออกมากระตุ้นยอดขาย จึงส่งผลให้คนไทยนิยมเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่นตลอดในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 ส่งผลต่อเนื่องมายังปี 2557
ภาพจาก Gritsana P / Shutterstock.com
สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2557 ได้แก่ ทางการญี่ปุ่นได้ปรับขึ้นภาษีการ บริโภค (Consumption Tax) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 เป็นร้อยละ 8 จากเดิมร้อยละ 5 ภายในเดือนตุลาคม 2558 จะปรับขึ้นเป็นร้อยละ 10 ซึ่งอาจส่งผลทำให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาทิ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น ฯลฯ ปรับตัวมีราคาสูงขึ้นตามลำดับ
โดยในปี พ.ศ. 2557 คาดการณ์ว่า จะมีคนไทยไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ที่มีกำลังซื้อเลือกเดินทางไปท่อง เที่ยวญี่ปุ่น หรือเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ในส่วนของการใช้จ่ายต่าง ๆ จะสะพัดไปยังธุรกิจด้านที่พัก อาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีแนวโน้มคิดเป็นมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายด้านการเดินทางระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางไปญี่ปุ่นมีแนวโน้มเติบโตกว่าการที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางมาไทย ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) และเหตุการณ์ความไม่สงบในบางพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ส่งผลให้การท่องเที่ยวในไทยซบเซาอย่างเด่นชัดในช่วงปีแรก
อีกทั้ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังระบุว่า การปรับปรุงรูปแบบบริการให้สอดคล้องกับตลาดของเหล่าผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึง โดยการขยายตลาดนำคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทดแทนตลาดนำนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาเที่ยวประเทศไทยซบเซาลง รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนต้องเร่งหามาตรการ กระตุ้นให้ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยที่ถดถอยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 สามารถฟื้นกลับมาเติบโตได้โดยเร็ว และควรเร่งทำความเข้าใจกับนานาประเทศ หลังจากที่มีการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในตลาดต่างประเทศที่เป็นตลาดเป้าหมายของไทยควบคู่ด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก