ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ktbleasing
กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง ผวาหนี้ครัวเรือนพุ่ง เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ตั้งเป้าติดท็อป 3 ของยอดปล่อยสินเชื่อ ในปี 2560
วันที่ 2 เมษายน 2557 นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทย และประธานกรรมการ บริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง กล่าวว่า เนื่องจากภาวะทางด้านเศรษฐกิจไม่ดี หนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การทำงานใหม่ โดยระมัดระวังการให้สินเชื่อ ซึ่งจะเน้นการคัดเลือกลูกค้ามากขึ้น และเตรียมออกผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มที่มีเงินเดือนผ่านธนาคาร เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำ
โดย นายภิญญาวัฒน์ จันทรกานตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง กล่าวว่า นโยบายของบริษัทอีก 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2560 บริษัทต้องติด Top 3 ของยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยต้องมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่ประมาณ 1.5 แสนล้าน/ปี เพื่อให้มียอดสินเชื่อคงค้างประมาณ 2 แสนล้านบาท บนพื้นฐานที่ยังไม่ได้ไปซื้อกิจการของรายอื่นเข้ามา
นายภิญญาวัฒน์ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์เล็กปีนี้ อาจต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้คือ 3 หมื่นล้านบาท ด้วยปัจจัยหลายด้านคือ
1. ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อหนุน
2. ยอดขายรถยนต์ใหม่ที่หายไป 40% ใน 2 เดือนแรก
3. ยอดขายรถใหม่ที่ประเมินเอาไว้ก่อนหน้าที่ 1 ล้านคัน อาจจะมียอดการขอใช้สินเชื่อแค่ 4-5 แสนล้านบาทเท่านั้น บริษัทจึงต้องเน้นการคัดเลือกลูกค้าก่อน
ขณะที่ สินเชื่ออุปโภคที่ตั้งเป้าในปีนี้อยู่ที่ 2 พันล้านบาท สินเชื่อรถหมุนเงิน 5 พันล้านบาท สินเชื่อรถยนต์ใหม่ 2.5-3 หมื่นล้านบาท รวมถึงสินเชื่อผู้ประกอบการและเครื่องจักร 2.5-3 หมื่นล้านบาท
ทางด้าน บริษัท จัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้ง กล่าวถึงกรณีหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มมากขึ้นว่า อาจจะส่งผลให้หนี้เสียธนาคารมีแนวโน้มพิ่มขึ้นตาม หากผู้บริโภคไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้ได้
ซึ่ง ฟิทช์ เรทติ้ง ได้อ้างถึงตัวเลขหนี้ครัวเรือนของไทยเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ว่าอยู่ในระดับสูงที่ 82.3% ของจีดีพี ซึ่งอัตราการเพิ่มของหนี้สินครัวเรือนมีแนวโน้มชะลอตัวเมื่อปีที่ผ่านมา โดยขยายตัว 11.4% และคาดว่าปีนี้การขยายตัวของหนี้สินส่วนนี้จะชะลอลงอีก เนื่องจากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลสิ้นสุดลง การขยายตัวของเศรษฐกิจช้าลง รวมถึงการปล่อยกู้ของธนาคารมีการระมัดระวังมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่า ธนาคารจะสามารถบริหารจัดการสิ้นทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพลงได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก