สถานการณ์ทางการเมืองเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศ โดยผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หวั่นใจว่า หากการชุมนุมยืดเยื้อตัวเลขหนี้สาธารณะอาจพุ่งทะลุ 50 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี และกระทบต่อเครดิตประเทศ
วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2557 นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า หากการเลือกตั้งลากยาวไปถึงกลางปี 2557 ก็จะกระทบกับเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง เพราะที่ผ่านมาที่มีปัจจัยลบทำให้ขยายตัวได้ต่ำอยู่แล้ว ซึ่งประมาณการเดิม ตัวเลขจีดีพีทั้งปี 2557 คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี บนพื้นฐานว่าสามารถเกิดรัฐบาลชุดใหม่ได้ในเดือนมีนาคมหรือเมษายนนี้
การไม่มีรัฐบาลในกลางปี 2557 จะส่งผลให้การจัดทำงบประมาณปี 2558 ล่าช้าไปด้วย เพราะไม่มีเงินลงทุนใหม่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ จากปัจจุบันที่การเบิกจ่ายงบลงทุนของงบประมาณปี 2557 ล่าช้ามากอยู่แล้ว รวมถึงเม็ดเงินจาก พ.ร.ก.น้ำ 3.5 แสนล้านบาท และพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ก็ไม่สามารถเบิกจ่ายมากระตุ้นเศรษฐกิจได้
นอกจากนี้ การที่ไม่มีรัฐบาลใหม่ยังทำให้คลังไม่สามารถออกมาตรการภาษีและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ด้วย ส่วนการส่งออกของไทยก็ยังต้องลุ้นว่า จะสามารถฉวยโอกาสจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้มากน้อยขนาดไหน แต่ถ้าทำได้ไม่ดีเหมือนในปี 2556 ก็จะทำให้เศรษฐกิจแย่เพิ่มขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวในปีนี้ก็คงซบเซาเพราะปัญหาการเมือง
นายสมชัย กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยตอนนี้สุ่มเสี่ยงมาก เพราะกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ต้องรอถึงกลางปีหรือปลายปี ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปีแน่นอน และย่อมส่งผลกระทบกับการขยายตัวของเศรษฐกิจปีหน้าอีกด้วย
ซึ่งนอกจากปัญหาทางการเมืองแล้ว เศรษฐกิจไทยยังได้รับผลกระทบจากความผันผวนการไหลออกของเงินทุนจากที่ประเทศสหรัฐลดมาตรการคิวอีซึ่งเป็นแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนเรื่องเครดิตประเทศนั้น หากประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ยืดเยื้อและไม่มีความรุนแรง เครดิตของประเทศไทยก็จะอยู่ในระดับเดิม
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าเป้ามาก และถือเป็นปีที่สองต่อเนื่องจากปี 2556 ที่ขยายตัวได้ 2.8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี โดยจะส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยที่ปัจจุบันอยู่ที่ 45.34 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาการบริหารหนี้สาธารณะอยู่ภายใต้สมมุตฐานที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ดังนั้น สัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยในปีนี้น่าจะเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี
นอกจากนี้ นายสมชัย ยังเผยข้อมูลว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาระบุว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2557จะขยายตัวไม่ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จากปัญหาการเมืองยืดเยื้อ ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้แค่ 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เนื่องจากโครงการประชานิยมอ่อนแรง และคาดว่าปี 2558 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ 3.8 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จากเดิมที่ไว้ 4 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
