เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กิตติรัตน์ ณ ระนอง แจงการใช้จ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวแก่ ครม. พร้อมเผยว่า ขณะนี้เหลือเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในโครงการเพียง 36,195 ล้านบาทเท่านั้น
วันนี้ (8 มกราคม 2557) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายงานผลการจัดหาเงินกู้โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 10 มิถุนายน 2556 ต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีวงเงินเหลือ ประมาณ 36,195 ล้านบาท ขณะที่ยังมีปัญหาการจ่ายเงินจำนำข้าวในฤดูผลิต 2556/57 ซึ่งรับจำนำข้าวแล้วกว่า 10 ล้านตัน มีรายละเอียดดังนี้
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 กำหนดเงื่อนไขให้กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการให้มีการใช้เงินในกรอบวงเงินทุนหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 ภายใต้กรอบวงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 90,000 ล้านบาท และเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหาให้จำนวน 410,000 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว ขอเรียนมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. วันที่ 2 ตุลาคม 2556 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 เฉพาะในส่วนของข้าวเปลือก จำนวน 15 ล้านตัน โดยเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป และอนุมัติวงเงินเพื่อการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นเงินจำนวน 240,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของวงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมจำนวนไม่เกิน 150,000 ล้านบาท ซึ่งมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงบประมาณ ดำเนินการจัดทำบัญชีหมุนเวียนและกรอบวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินโครงการ โดยให้นำเงินที่ได้จากการระบายข้าวไปประกอบการจัดทำบัญชีหมุนเวียนด้วย
ทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อเพื่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในครั้งนี้จำนวน 150,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน2554 อนุมัติไปแล้ว จำนวน 269,160 ล้านบาท จะต้องไม่เกินกรอบวงเงินจำนวน 410,000 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2554 อนุมัติไว้สำหรับการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 และให้กระทรวงพาณิชย์รายงานข้อมูลการเงินและการระบายข้าวให้คณะรัฐมนตรีรับทราบเป็นรายไตรมาสด้วย
2. วันที่ 10 มิถุนายน 2556 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กรณีมีความจำเป็นให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายไปก่อนระหว่างรอเงินจากการระบายผลิตผล หรือเงินจากแหล่งอื่น ๆ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ตกลงกับ ธ.ก.ส. เป็นคราว ๆ ไป โดย ธ.ก.ส. จะได้รับอัตราชดเชยต้นทุนเงินและค่าบริหารโครงการในอัตราเดิมตามมติ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการให้มีการใช้เงินในกรอบวงเงินหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 ไม่เกินจำนวน 500,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินทุนของ ธ.ก.ส. จำนวน 90,000 ล้านบาท และเงินกู้ที่กระทรวงการคลังจัดหาให้ จำนวน 410,000 ล้านบาท
3. วันที่ 3 กันยายน 2556 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินโครงการจำนำข้าวเปลือก (นาปี) ภายใต้กรอบวงเงินของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 จำนวน 270,000 ล้านบาท ให้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบไว้ เพื่อให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการอย่างทั่วถึง และได้รับราคาจำนำอย่างเป็นธรรมตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้ประสานงานกับ ธ.ก.ส. แล้ว ขอรายงานผลการดำเนินโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลทางการเกษตรตามนโยบายรัฐบาล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 ว่า ได้มีการใช้เงินในกรอบวงเงินหมุนเวียนของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 เป็นจำนวนรวม 463,805 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. เงินกู้ที่กระทรวงการคลังได้จัดหาเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน ภายใต้กรอบวงเงินกู้ ไม่เกิน 410,000 ล้านบาท มีหนี้คงค้างสำหรับโครงการดังกล่าว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 เป็นจำนวนรวม 396,756 ล้านบาท ยังคงเหลือกรอบวงเงินกู้ จำนวน 13,244 ล้านบาท (410,000-396,756 ล้านบาท)
2. ธ.ก.ส. ได้ใช้เงินทุนหมุนเวียนของ ธ.ก.ส. ภายใต้กรอบวงเงิน 90,000 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ธ.ก.ส. ได้ใช้เงินทุนไปแล้ว สำหรับปีการผลิต 2554/55 และ 2555/56 จำนวนรวม 37,994 ล้านบาท และปีการผลิต 256/57 จำนวน 29,055 ล้านบาท คงเหลือวงเงินอีก จำนวน 22,951 ล้านบาท (90,000-37,994-29,055 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม เมื่อนำยอดคงเหลือของกรอบวงเงินกู้ที่กระทรวงการคลังสามารถจัดหาเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการจำนำข้าว มารวมกับยอดคงเหลือจากเงินทุนหมุนเวียนของ ธ.ก.ส. พบว่า ขณะนี้มีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการจำนำข้าวอีกเพียง 36,195 ล้านบาทเท่านั้น
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก