x close

สภาหอการค้าฯ แถลง 4 ข้อ ค้านนิรโทษกรรม เหตุส่อเค้าฉุดเศษฐกิจล่ม


สภาหอการค้าฯ แถลง 4 ข้อ ค้านนิรโทษกรรม เหตุส่อเค้าฉุดเศษฐกิจล่ม


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

            สภาหอการค้าฯ แสดงจุดยืนค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หวั่นกระทบเครดิตประเทศ ฉุดเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่แล้วให้ตกต่ำลง โดยเฉพาะคดีคอร์รัปชั่นที่ไม่ควรนำมาเอี่ยวด้วย

            เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2556  หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศ และเครือข่าย ออกแถลงการณ์เพื่อแสดงความคิดเห็นและแสดงจุดยืนกรณี พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า หากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมีผลบังคับใช้ จะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ทั้งหมด 4 เรื่อง ดังนี้

            1. ส่งผลต่อการจัดอันดับความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์ในการส่งเสริมการลงทุนของประเทศ รวมทั้ง พ.ร.บ. ดังกล่าว มีเนื้อหาสุ่มเสี่ยงขัดแย้งกับอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติ เพื่อการต่อต้านทุจริต (UNCAC 2003) ที่รัฐบาลไทยได้ให้สัตยาบรรณในการเข้าเป็นภาคีเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2554 ซึ่งจะส่งผลให้ขาดการยอมรับและความน่าเชื่อถือจากนานาอารยประเทศ

            2. จะทำให้ประเทศขาดความเชื่อมั่น ทำให้การลงทุนและการขับเคลื่อนธุรกิจเป็นไปได้ยาก มีการย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น ส่งผลกระทบในระยะยาว เป็นการซ้ำเติมประเทศขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้สูญเสียศักยภาพในการแข่งขัน รวมถึงมีผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวที่เป็นแรงขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจประเทศขณะนี้

            3. การลบล้างความผิดตามมาตรา 3 ทั้งหมด ซึ่งครอบคลุมถึงผู้กระทำความผิดในทางอาญา และคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ตั้งแต่ปี 2547 ถึง 8 สิงหาคม 2556 รวมระยะเวลากว่า 9 ปี ซึ่งบางช่วงไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองนั้น จะทำให้ผลของคดีคอร์รัปชั่นทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึง 8 สิงหาคม 2556 ทั้งที่มีการตัดสินคดีแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีได้รับการนิรโทษกรรมทั้งหมด ซึ่งเป็นการล่วงละเมิดระบบกระบวนการยุติธรรมของประเทศและไม่เป็นธรรมกับคดียุติธรรมอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกรอบ พ.ร.บ.ฉบับนี้
       
            4. ส่งผลให้เกิดความแตกแยกขัดแย้งและเกิดการเผชิญหน้าในทางสังคมมากขึ้น รวมทั้งทำให้เกิดการทำลายระบบคุณธรรมของสังคมไทยอย่างร้ายแรง จึงควรปล่อยให้คดีทุจริตคอร์รัปชั่นดำเนินการไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นปกติ

            ทั้งนี้ หอการค้า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ สมาคมการค้า และหอการค้าต่างประเทศ ได้มีความห่วงใยในสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง อันจะส่งผลกระทบและซ้ำเติมสังคมและเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมที่กำลังประสบปัญหา ณ ขณะนี้ จึงขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติ รัฐบาล และฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเรื่องดังกล่าว โดยพิจารณาหาทางออกอย่างรอบคอบ และใช้ผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นที่ตั้ง

            ขณะเดียวกัน นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล. เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากหุ้นไทยดิ่งลงกว่า 40 จุด เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ ผ่านมา พบว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (5 พฤศจิกายน 2556) มีโอกาสรีบาวน์ เพราะเริ่มมีความหวังว่า ในชั้นวุฒิสภาที่อาจไม่โหวตรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้ ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะถูกพักไป 6 เดือน ซึ่งจะทำให้บรรยากาศผ่อนคลายไปอีกระยะหนึ่ง

            อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนต้องจับตาสถานการณ์การเมืองเป็นสำคัญ โดยแนะนำให้ชะลอการลงทุน ด้วยการประเมินแนวรับที่ 1,380 จุด และประเมินแนวต้านที่ 1,400 จุด





อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สภาหอการค้าฯ แถลง 4 ข้อ ค้านนิรโทษกรรม เหตุส่อเค้าฉุดเศษฐกิจล่ม อัปเดตล่าสุด 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา 18:37:53
TOP