เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เป็นปัญหาที่สร้างความวิตกกังวลให้คนหนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว...ทั้ง ๆ ที่มีเรื่องหนี้สินที่ต้องเคลียร์โดยด่วนแล้ว แต่ก็ยังต้องมานั่งปวดหัว เพราะโดนบริษัทเจ้าหนี้โทรตามไม่เว้นแต่ละวัน หนำซ้ำบางวันยังโดนโทรตามหลายรอบด้วย เฮ้อ... งานก็เยอะ หนี้ก็แยะ แถมเจ้าหนี้ยังโทรไปขู่ยึดทรัพย์ญาติพี่น้องของลูกหนี้อีก
เอ... จะมีวิธีรับมือกับปัญหานี้อย่างไรนะ แล้วการที่เจ้าหนี้โทรทวงเช้า ทวงเย็น ทุกวันเช่นนี้ ทำถูกต้องแล้วหรือ อีกทั้งโทรไปขู่ยึดทรัพย์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกหนี้ แล้วเรื่องนี้จะมีแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร ... วันนี้ กระปุกดอทคอม ขอนำเสนอบทความดี ๆ จาก อาจารย์ณัฐ ซึ่งได้แนะนำและให้คำปรึกษากับผู้ที่เจอเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ และได้เผยแพร่เรื่องราวเพื่อเป็นสาธารณะประโยชน์ให้ได้ทราบกันดังนี้ ...
"ผมได้รับ อีเมลปรึกษาจากท่านหนึ่ง เห็นว่าอาจจะเป็นประโยชน์กับประชาชนท่านอื่น ๆ จึงขออนุญาตนำมาเสนอเป็นวิทยาทานอีกกรณีศึกษาครับ
เรียน ท่านด้วยความเคารพ
ผมมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ต้องการรบกวนถามท่าน ดังนี้
1. ทางเจ้าหนี้ขายหนี้ให้กับ สนง.กฎหมาย เค้าโทรตามทุกที่ ทุกเวลา และแจ้งมายังบริษัทฯ เพื่อให้หักเงินเดือนให้กับทางเค้า ผม ???
2. ทางเค้าแจ้งจะมายึดทรัพย์ และก็จะมายึดประกันจากลูกสาวผม ทางเค้าทำได้หรือครับ ???
รบกวนช่วยตอบและอธิบายรายละเอียดให้ด้วยครับ ผมจะแย่อยู่แล้วครับ
ขอแสดงความนับถือ
XXXX
เรียน คุณXXXX
ขอบคุณสำหรับคำถามครับ และยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมขออนุญาตตอบให้เป็นข้อ ๆ ตามที่ถามมานะครับ
1. จริง ๆ แล้วการโทรติดตามหนี้ลูกค้า มีประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงกฎหมายควบคุมอยู่แล้วครับ ช่วงเวลาที่โทรติดตามทวงถามหนี้
วันธรรมดา 08.00-20.00 น. วันหยุดราชการ 08.00-18.00 น. และมีข้อกำหนดว่าต้องทวงถามในจำนวนครั้งที่เหมาะควร เช่น ตอนเช้าโทรมาติดตามแล้วลูกหนี้บอกไม่มีและสนทนาจบสิ้น ก็ไม่ควรโทรอีก ณ วันนั้น ๆ
ประกาศดังกล่าวสามารถหาอ่านได้ที่เว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย และการจะยึดทรัพย์สินใด ๆ ของลูกหนี้ การอายัดเงินเดือน ต้องมีคำสั่งศาล เท่านั้น
2. การจะยึดทรัพย์ใด ๆ จากบุคคลหรือลูกหนี้ ต้องมีคำพิพากษาศาลให้ลูกหนี้ชำระหนี้ภายในเวลาที่ศาลสั่ง หากลูกหนี้ไม่ชำระตามวันเวลาที่ศาลสั่ง ทางเจ้าหนี้จะยื่นต่อศาลเพื่อขอแต่งตั้งพนักงานบังคับคดี สืบทรัพย์ และนำทรัพย์ของลูกหนี้ มาขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ หรือทำการออกหมายบังคับคดีแจ้งไปยังนายจ้างของลูกหนี้ ในการนำสงเงินเดือนส่วนหนึ่งเพื่อชำระหนี้ (อายัดเงินเดือน) ผิดจากนี้ ไม่สามารถอายัดทรัพย์สินลูกหนี้ได้ หากมีการข่มขู่ยึดทรัพย์โดยพลการนั้นมีความผิดทางอาญา และทางแพ่ง ทางอาญาคือ ขู่ กรรโชก ทางแพ่งคือ ละเมิด
ในส่วนของทรัพย์สินของลูกสาวกับเรื่องหนี้สินของบิดา เป็นคนละเรื่องกันภาษาทางกฎหมายเรียกว่า ไม่มีนิติสัมพันธ์กัน ดังนั้น เจ้าหนี้ไม่สามารถยึดทรัพย์ของบุตรสาวได้ ยกเว้นศาลมีคำสั่ง(โดยการที่เจ้าหนี้สามารถนำสืบให้ศาลเห็นได้ว่า เป็นทรัพย์สินของบิดา แล้วมีเจตนายักย้าย ถ่ายเท ไปให้บุตรสาว)
คำแนะนำเพิ่มเติม : เป็นหนี้เยอะเท่าไร ยิ่งต้องใช้สติ (Sense) และหลักตรรกศาสตร์ (Logical) ในการดำรงชีวิตให้มากนะครับ จะได้ไม่ถูกรังแกและไม่ตกเป็นเหยื่อ รวมถึงมีสติสัมปชัญญะ ในการดำรงชีพให้มาก เพื่อนำพาตนเองและครอบครัว ให้ผ่านพ้นวิกฤตดังกล่าวไปได้"
ขอแสดงความนับถือ
ณัฐ-People Tribune