x close

ใช้รถยนต์อย่างไรให้ประหยัดสุด ๆ

ใช้รถยนต์อย่างไรให้ประหยัด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองข้าวของขึ้นราคาสูง แต่เงินเดือนกลับไม่เพิ่มตามนั้น สิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำเพื่อบรรเทาความลำบากก็คือการประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และหนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักของครอบครัวทุกวันนี้คงหนีไม่พ้นรถยนต์นั่นเอง ซึ่งหลายคนลืมคิดไปว่า นอกจากค่าน้ำมันที่ใช้แล้ว รถยนต์ยังมีการซ่อมบำรุงอื่น ๆ ที่ต้องจ่ายเงินออกไปมากทีเดียว แต่รู้หรือไม่ เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากรถยนต์ได้มากด้วยวิธีการทั้ง 9 ข้อที่กระปุกคาร์ขอแนะนำให้ได้ลองทำดูกัน

เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

          1. ยืดเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

          ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมักบอกว่าเพื่อสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ดีเยี่ยมและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุก 5,000 กิโลเมตรหรือทุก 3 เดือน ซึ่งนั่นจะเพิ่มรายจ่ายให้คุณมากทีเดียว ดังนั้น คุณสามารถยืดระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องออกไปเป็น 10,000 กิโลเมตรหรือทุก 6 เดือนก็ยังได้ และหากใครที่ใช้งานรถยนต์เบา ๆ เช่น ขับรถทำงานในเมืองเท่านั้น ก็สามารถใช้น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์ซึ่งมีราคาถูกก็ได้ครับ

ยืดอายุแบตเตอรี่

          2. ดูแลความสะอาด ยืดอายุแบตเตอรี่

          แบตเตอรี่รถยนต์นั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีอายุการใช้งานไม่เท่ากัน โดยหลัก ๆ อยู่ที่การดูแลของเรานั่นเอง ซึ่งหากเราดูแลดี ไม่ปล่อยให้ขั้วปลายสายไฟมีสนิมเกาะ ความแน่นหนาของขั้วปลายสาย และดูระดับน้ำกลั่น โดยมากแล้ว แบตเตอรี่จะมีอายุการใช้งานที่ประมาณ 2 ปี แต่หากดูแลให้ดีก็จะสามารถใช้ได้ถึง 4 ปีเลยทีเดียว

สีรถยนต์

          3. เลือกสีรถยนต์ให้ดี

          สีรถยนต์มีผลต่อราคาของรถ รวมถึงค่าซ่อมบำรุงอย่างชัดเจน เช่น รถยนต์สีขาวของบางค่ายนั้นจะมีราคาสูงกว่าสีอื่น ๆ รวมถึงเวลาซ่อมสีรถที่ไม่ได้รับความนิยมจะมีปัญหาเรื่องสีสำรองซึ่งทำให้เมื่อต้องซ่อมตัวถังจะไม่มีสีสำหรับซ่อมอย่างเพียงพอ ทำให้มีราคาค่าซ่อมสูงกว่าปกติ ดังนั้น หากไม่มั่นใจว่าจะดูแลให้ไร้ร่องรอยได้หรือไม่ ก็ควรเลือกสีตัวถังที่เป็นที่นิยมสักหน่อย

ลมยาง

          4. ลมยางที่เหมาะ ก็ช่วยประหยัดน้ำมัน

          ปริมาณลมยางที่เหมาะสมจะช่วยให้สมรรถนะการขับขี่ดีขึ้น รวมถึงลดการสิ้นเปลืองน้ำมันได้เป็นอย่างดี โดยหลัก ๆ แล้วเราควรเติมลมยางให้เหมาะสมกับประเภทของรถยนต์ที่เราใช้ เช่น รถเก๋งจะอยู่ที่ประมาณ 28-30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และรถกระบะจะอยู่ที่ 35-40 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว แต่หากในฤดูฝนที่มักมีน้ำเจิ่งนองบนพื้นถนน ควรเพิ่มแรงดันลมยางขึ้นสัก 2 ปอนด์ต่อนิ้วเพื่อเพิ่มความแข็งและความสามารถในการรีดน้ำนั่นเองครับ

อย่ารีบเปลี่ยนรถ

          5. อย่ารีบเปลี่ยนรถ

          ถ้าคุณมีเงินเหลือเฟือนั่นอาจไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณต้องการจะประหยัดและคิดว่าการซื้อรถใหม่แทนรถยนต์ที่ใช้ไปเพียง 100,000 กิโลเมตรนั้นเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์เลย เพราะจริง ๆ แล้ว รถยนต์สมัยนี้ หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม เช่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะ ใช้งานตามปกติอย่างไม่สมบุกสมบัน รถยนต์คันนั้นก็สามารถพาคุณไปได้ไกลถึง 300,000 กิโลเมตรเลยทีเดียวด้วยตัวรถเดิม ๆ นี่แหละ ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบขาย ใช้ต่อไปรับรองว่าประหยัดกว่าซื้อใหม่แน่นอนครับ

ประกันภัย

          6. เลือกประกันให้ดี

          ประกันภัยนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับรถยนต์เลยทีเดียว โดยประกันภัยส่วนใหญ่นั้นจะมีค่าเบี้ยประกันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับเงินประกัน ระดับชั้น รวมทั้งรุ่นของรถและจำนวนปีด้วย แต่เราสามารถขอลดหย่อนค่าเบี้ยประกันได้ด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ลดหย่อยเบี้ยขับรถดีไม่มีอุบัติเหตุ เป็นต้น ก็จะช่วยให้เราได้รับความคุ้มครองเต็ม ๆ  แต่ประหยัดเงินให้เราได้ไม่น้อย

ขับไปที่หมายไกลก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมา

          7. ขับไปที่หมายไกลก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมา

          เป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการขับรถแต่ได้ผลจริงในการประหยัดน้ำมัน โดยหากคุณเริ่มต้นธุระด้วยการขับรถไปยังที่หมายที่ไกลที่สุดนั้น จะทำให้รถของคุณได้วอร์มเครื่องยนต์ไปและประหยัดน้ำมันได้จากการวิ่งต่อเนื่อง ซึ่งดีกว่าการเริ่มต้นจากใกล้ไปหาไกลซึ่งทำให้ต้องหยุดจอดรถเป็นพัก ๆ ในขณะที่เครื่องยนต์ยังทำงานไม่เต็มที่จึงส่งผลให้เปลืองน้ำมันนั่นเอง

สะสมแต้มกับปั๊มน้ำมัน

          8. สะสมแต้มกับปั๊มน้ำมัน

          หากคุณเป็นลูกค้าประจำปั๊มน้ำมันใดแล้วล่ะก็ ลองสำรวจดูว่าปั๊มเหล่านั้นมีโปรโมชั่นอะไรบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นการสะสมแต้มเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินเติมน้ำมัน หรือบัตรเครดิตบางธนาคารจะคืนเงินเล็กน้อยให้เมื่อคุณเติมน้ำมัน เพราะน้ำมันเป็นสิ่งที่รถยนต์ทุกคันต้องใช้อยู่แล้ว ดังนั้นการได้คืนมาบ้างก็ถือเป็นเรื่องดีมากทีเดียว

ซื้ออะไหล่ข้างนอกให้ช่างซ่อม

          9. ซื้ออะไหล่ข้างนอกให้ช่างซ่อม

          การใช้รถยนต์นั้นจำเป็นต้องได้รับการซ่อมบำรุงเป็นเรื่องปกติธรรมดา คุณจึงควรหาความรู้เรื่องอะไหล่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ด้วย และเมื่อเกิดเหตุจำเป็นให้ต้องซ่อม ให้พยายามหาซื้ออะไหล่เอง คุณจะได้อะไหล่ที่มีราคาถูกกว่าของร้านซ่อม และคุณควรตกลงกับร้านซ่อมให้ดีว่าคุณจะนำอะไหล่มาเอง เพราะมีบางร้านที่ไม่รับติดตั้งอะไหล่จากภายนอกร้านครับ

          เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ ง่ายเหลือเชื่อเลยละสิ ทั้งนี้เราก็ไม่ควรละเลยการดูแลรถยนต์ของเราด้วยการเช็คอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมเสมอ รวมถึงไม่ควรใช้งานรถยนต์ของเราหนักจนเกินไปด้วยการขับซิ่ง เหยียบคันเร่งแรงจนเป็นนิสัย หรือใช้งานรถยนต์ผิดประเภทเช่น เอารถเก๋งมาบรรทุกของ เป็นต้น และหากใช้วิธีตามที่ได้แนะนำไปในวันนี้ รับรองว่าคุณจะมีรถสภาพยอดใช้งานและเหลือเงินเก็บไปอีกนานเลยล่ะครับ





ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sevacall , carinsurancebag , reviews cnet เเละ cardealersinamerica





เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ใช้รถยนต์อย่างไรให้ประหยัดสุด ๆ อัปเดตล่าสุด 22 พฤษภาคม 2561 เวลา 18:06:48 1,086 อ่าน
TOP