โดยลูกค้าที่มีสิทธิ์ขอใช้มาตรการต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น สงครามการค้า ภัยแล้ง จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยแสดงหลักฐานหรือเอกสาร หรือข้อมูลอื่นที่เชื่อมโยงผลกระทบที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งครอบคลุมทั้งลูกค้าที่ยังมีสถานะปกติ และลูกค้าที่มีสถานะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL แบ่งเป็น 3 กรณี ประกอบด้วย...
- กรณีอยู่ระหว่างการใช้อัตราดอกเบี้ยตาม Promotion (ยื่นคำร้องได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563) ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน (ยกเว้นลูกค้าโครงการสินเชื่อตามที่ธนาคารกำหนด) และเมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไข สามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของสัญญาเดิม
- กรณีพ้นระยะเวลาการใช้อัตราดอกเบี้ยตาม Promotion (ยื่นคำร้องได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563) ให้ผ่อนชำระ ดังนี้
(1) ลูกค้ารายย่อย/สวัสดิการ ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MRR -1.25% ต่อปี ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และให้พักชำระดอกเบี้ยค้างเดิมไว้ก่อน (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.375% ต่อปี) เมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไข ให้กลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของสัญญาเดิม
(2) ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อซื้อ/ปลูกสร้างแฟลต ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR -1.25% ต่อปี ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน และให้พักชำระดอกเบี้ยค้างเดิมไว้ก่อน (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MLR ธอส. เท่ากับ 5.875% ต่อปี) เมื่อผ่อนชำระครบตามเงื่อนไข สามารถกลับไปใช้อัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไขของสัญญาเดิม
-
กรณีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่รายได้ได้รับผลกระทบจากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เหลือ 1.00% ต่อปี และให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน เปิดให้ยื่นคำขอใช้มาตรการได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563