บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบเพิ่มเติม กำหนดวันรับบัตรแล้ว ผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านคุณสมบัติ รีบเช็กเลยจะไปรับบัตรได้ที่ไหน วันที่เท่าไหร่บ้าง
สำหรับการรับบัตรคนจน ให้ผู้มีรายได้น้อยที่มีรายชื่อประกาศ เดินทางไปรับบัตรตามวันและสถานที่ ดังนี้
• วันที่ 21-28 ธันวาคม 2561 รับบัตรจากทีมไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล/ชุมชน (จะมีการแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบอีกครั้ง)
สามารถเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562
• วันที่ 29 ธันวาคม 2561 - 31 มกราคม 2562 รับบัตรจากทีมไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล/ชุมชน (จะมีการแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบอีกครั้ง)
สามารถเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ
• วันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2562 รับบัตร ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร ตามที่อยู่ปัจจุบันที่ลงทะเบียนไว้
สามารถเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ
ทั้งนี้ ผู้มีรายได้น้อยสามารถเลือกไปรับบัตรในช่วงไหนก็ได้ แต่หากพ้นระยะเวลาข้างต้นไปแล้ว จะต้องไปรับบัตรที่สำนักงานคลังจังหวัด หรือศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในจังหวัดที่ผู้มีสิทธิได้ลงทะเบียนไว้ และจะเริ่มใช้บัตรได้หลังจากรับไปแล้ว 2 วันทำการ
ขั้นตอนและเอกสารในการรับบัตรคนจน
วิธีการรับบัตรคนจนนั้น ผู้มีสิทธิสามารถเดินทางมารับบัตรด้วยตัวเอง โดยเตรียมเพียงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง เพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดรับบัตร
อย่างไรก็ดี หากไม่สะดวกมารับด้วยตัวเอง สามารถให้ผู้อื่นมารับแทนได้ โดยจะต้องแนบหลักฐาน ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้มีสิทธิ
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้รับมอบอำนาจ
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจที่ได้ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว
บัตรคนจน รอบเพิ่มเติม มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
2. บัตรแบบ Smart Card แจกให้กับผู้มีสิทธิในจังหวัดอื่น ๆ นอกเหนือจาก 7 จังหวัดข้างต้น
สำหรับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับ สามารถแยกออกมาได้ทั้งหมด ดังนี้
• ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
- วงเงินค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก./รถไฟฟ้า จำนวน 500 บาทต่อเดือน (ใช้ได้เฉพาะบัตรแบบ Contactless)
- วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
- วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
• ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น
- รายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี ได้วงเงินเป็น 300 บาทต่อเดือน (ได้เพิ่มเป็น 500 บาท เมื่อร่วมฝึกอาชีพ)
• มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปลายปี คนละ 500 บาท (จ่ายครั้งเดียว) จะโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
• มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
- ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 230 บาท/เดือน หากใช้เกินจะไม่ได้รับสิทธิ์)
* วิธีลงทะเบียนบัตรคนจน รับเงินช่วยเหลือค่าน้ำ-ค่าไฟ ทำอย่างไร ถึงได้รับสิทธิ์
• มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 1,000 บาท (จ่ายครั้งเดียว) จะเริ่มโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
• ผู้มีสิทธิที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์เพื่อยังชีพ
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อคนต่อเดือน
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาทต่อคนต่อเดือน
ใครที่รู้ตัวว่ามีสิทธิรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบเพิ่มเติม ครั้งนี้แล้ว ก็อย่าลืมเช็กวันและสถานที่ข้างต้น แล้วเดินทางไปรับบัตรกันได้เลย ส่วนใครที่เคยลงทะเบียนไว้ แต่ยังไม่ได้เช็กว่าตัวเองมีสิทธิรับบัตรหรือเปล่า สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิรับบัตรคนจนได้ที่นี่ > เช็กเลย ! รายชื่อผู้ได้รับบัตรคนจน
จากที่ก่อนหน้านี้กรมบัญชีกลางได้ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งมีผู้ผ่านคุณสมบัติจำนวน 3,042,741 ราย โดยล่าสุดกรมบัญชีกลางจึงได้กำหนดวันรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกมาแล้ว กระปุกดอทคอม จึงทำการรวบรวมข้อมูลของการแจกบัตรคนจน 2561 รอบเพิ่มเติม มาให้เช็กรายละเอียดกัน
บัตรคนจน รอบเพิ่มเติม รับได้ที่ไหน เมื่อไหร่
• วันที่ 21-28 ธันวาคม 2561 รับบัตรจากทีมไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล/ชุมชน (จะมีการแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบอีกครั้ง)
สามารถเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562
• วันที่ 29 ธันวาคม 2561 - 31 มกราคม 2562 รับบัตรจากทีมไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล/ชุมชน (จะมีการแจ้งจุดรับบัตรให้ทราบอีกครั้ง)
สามารถเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ
• วันที่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2562 รับบัตร ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร ตามที่อยู่ปัจจุบันที่ลงทะเบียนไว้
สามารถเริ่มใช้สิทธิในบัตรได้หลังจากรับบัตรไปแล้ว 2 วันทำการ
ทั้งนี้ ผู้มีรายได้น้อยสามารถเลือกไปรับบัตรในช่วงไหนก็ได้ แต่หากพ้นระยะเวลาข้างต้นไปแล้ว จะต้องไปรับบัตรที่สำนักงานคลังจังหวัด หรือศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในจังหวัดที่ผู้มีสิทธิได้ลงทะเบียนไว้ และจะเริ่มใช้บัตรได้หลังจากรับไปแล้ว 2 วันทำการ
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีชื่อเข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในรอบนี้ และได้ยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว ทางกรมบัญชีกลางจะตรวจสอบและประกาศรายชื่ออีกครั้ง พร้อมกับนัดวันรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในภายหลัง
ขั้นตอนและเอกสารในการรับบัตรคนจน
วิธีการรับบัตรคนจนนั้น ผู้มีสิทธิสามารถเดินทางมารับบัตรด้วยตัวเอง โดยเตรียมเพียงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง เพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดรับบัตร
อย่างไรก็ดี หากไม่สะดวกมารับด้วยตัวเอง สามารถให้ผู้อื่นมารับแทนได้ โดยจะต้องแนบหลักฐาน ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้มีสิทธิ
- บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้รับมอบอำนาจ
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจที่ได้ลงนามรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว
สำหรับผู้ที่มารับบัตรทุกกรณีจะต้องลงชื่อเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันด้วย
บัตรคนจน รอบเพิ่มเติม มีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
การแจกบัตรคนจนในรอบนี้ จะบัตรอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
1. บัตรแบบ Contactless ที่สามารถใช้ได้กับเครื่องรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยการนำบัตรแตะชำระค่าใช้จ่ายได้ โดยแจกให้กับผู้มีสิทธิ 7 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร และนครปฐม
สำหรับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับ สามารถแยกออกมาได้ทั้งหมด ดังนี้
• ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
- วงเงินค่าโดยสารรถเมล์ ขสมก./รถไฟฟ้า จำนวน 500 บาทต่อเดือน (ใช้ได้เฉพาะบัตรแบบ Contactless)
- วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
- วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
• ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน สำหรับซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น
- รายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี ได้วงเงินเป็น 300 บาทต่อเดือน (ได้เพิ่มเป็น 500 บาท เมื่อร่วมฝึกอาชีพ)
- รายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ได้วงเงิน 200 บาทต่อเดือน (ได้เพิ่มเป็น 300 บาท เมื่อร่วมฝึกอาชีพ)
• วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 กระทรวงการคลังได้ขยายเวลาจ่ายเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ในส่วนที่เป็นค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน ได้แก่ วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม และวงเงินค่าโดยสารรถสาธารณะ ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 จากเดิมถึงเดือนกันยายน 2562
• มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายปลายปี คนละ 500 บาท (จ่ายครั้งเดียว) จะโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
• มาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
- ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 230 บาท/เดือน หากใช้เกินจะไม่ได้รับสิทธิ์)
- ค่าน้ำประปา ไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สำหรับครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่ถึง 100 บาท/เดือน หากใช้เกินจะไม่ได้รับสิทธิ์)
• มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 400 บาทต่อคนต่อเดือน
• มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป จำนวน 1,000 บาท (จ่ายครั้งเดียว) จะเริ่มโอนเงินเข้าบัตรให้ในวันที่ 1 มกราคม 2562
• ผู้มีสิทธิที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินสงเคราะห์เพื่อยังชีพ
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อคนต่อเดือน
- ผู้สูงอายุที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาทต่อคนต่อเดือน
• เข้าสวนสัตว์ 6 แห่งฟรี ตั้งแต่มกราคม - กรกฎาคม 2562 ได้แก่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว สวนสัตว์เชียงใหม่ สวนสัตว์นครราชสีมา สวนสัตว์สงขลา สวนสัตว์อุบลราชธานี สวนสัตว์ขอนแก่น
• เพิ่มวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเป็น 500 บาทต่อเดือน ระหว่างเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2562
• เงินช่วยเหลือพ่อแม่ช่วงเปิดเทอม 500 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2562
• เงินช่วยเหลือเกษตรกร 1,000 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2562
• เพิ่มเบี้ยผู้พิการ 200 บาท ระหว่างเดือนพฤษภาคม - กันยายน 2562
วงเงินในบัตรสวัสดิการแห้งรัฐที่กดเป็นเงินสดได้ในปัจจุบัน (ณ เดือนมิถุนายน 2562)
อัปเดตข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562
ขอขอบคุณข้อมูลจาก