อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ชี้แจงข่าวลือ การปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 100 บาท ไม่เป็นความจริง ! ย้ำยังจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเท่าเดิม
- อายุ 60-69 ปี ได้รับเงิน 600 บาท/เดือน
- อายุ 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาท/เดือน
- อายุ 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาท/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาท/เดือน
ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐนั้น จะได้รับเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ดังนี้
- รายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 50 บาท/คน/เดือน
- รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 100 บาท/คน/เดือน
วันที่ 8 ตุลาคม 2561 นางไพรวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีการส่งต่อข้อมูลเรื่องการปรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้น 100 บาท โดยอ้างว่าผู้ที่อายุ 60 ปี จะได้เงินเพิ่มเป็น 700 บาท, อายุ 70 ปี เพิ่มเป็น 800 บาท, อายุ 80 ปี เพิ่มเป็น 900 และอายุ 90 ปีขึ้นไป ได้เพิ่มเป็น 1,000 บาทนั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง
โดยปัจจุบันการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ยังยึดแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ซึ่งจ่ายแบบขั้นบันได ดังนี้
- อายุ 70-79 ปี ได้รับเงิน 700 บาท/เดือน
- อายุ 80-89 ปี ได้รับเงิน 800 บาท/เดือน
- อายุ 90 ปีขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาท/เดือน
ส่วนสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐนั้น จะได้รับเงินเพิ่มในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ดังนี้
- รายได้มากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 50 บาท/คน/เดือน
- รายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี ได้รับเพิ่ม 100 บาท/คน/เดือน
ทั้งนี้ ได้มีการจ่ายเงินงวดแรกลงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแล้วเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยผู้มีสิทธิสามารถถอนเงินที่โอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐออกมาเป็นเงินสดได้ผ่านตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์, สำนักข่าว INN
