แรงงานไทยอ่วม !! แบกหนี้ท่วม สูงสุดในรอบ 10 ปี

          หอการค้า เผยผลสำรวจแรงงานไทย พบมีหนี้สูงสุดในรอบ 10 ปี เฉลี่ยครัวเรือนละ 1.37 แสนบาท หลังรายได้ไม่พอใช้ สินค้าแพง ดันค่าครองชีพพุ่ง

          วันที่ 26 เมษายน 2561 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจภาระหนี้สินครัวเรือน ในปี 2561 ของแรงงานไทยที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน พบว่า มีภาระหนี้ครัวเรือนเฉลี่ยสูงถึง 1.37 แสนบาท/ครัวเรือน ทำให้ต้องผ่อนชำระเดือนละประมาณ 5,326 บาท เพิ่มขึ้น 4.95% จากปีก่อน และสูงสุดในรอบ 10 ปี แบ่งเป็นหนี้ในระบบ จำนวน 65.40% ดอกเบี้ยประมาณ 10.60% ต่อปี และเป็นหนี้นอกระบบ 34.60% ซึ่งคิดดอกเบี้ยประมาณ 20.10% ต่อปี

          อีกทั้งยังพบว่า มีแรงงานมากถึง 96% ที่มีภาระหนี้ โดยมีสาเหตุหลัก คือ เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 36.10% รองลงมาเป็นการผ่อนชำระยานพาหนะ 24.90% หนี้จากการลงทุน 13.60% หนี้ที่เกิดจากที่อยู่อาศัย 10.8% ใช้คืนเงินกู้ 7.2% ค่ารักษาพยาบาล 6.70% และอื่น ๆ อีก 0.70%
          ส่วนปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ 85.40% เคยผิดนัดชำระหนี้ มีสาเหตุสำคัญจากรายได้ที่ลดลง และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น รวมถึงราคาสินค้าแพงขึ้น ภาระหนี้สินมากขึ้น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น และเศรษฐกิจไม่ดี ขณะที่การออมของแรงงานไทยในปัจจุบัน พบว่า 58.60% ไม่มีการออมเงิน ส่วนกลุ่มที่ออม จำนวน 41.40% ก็เฉลี่ยออมได้เพียง 8.30% ของรายได้ จึงทำให้ภาพรวมแรงงานไทยในปีนี้ เป็นปีของการใช้เงิน ไม่มีเงินเก็บ เน้นใช้เงินแบบเดือนชนเดือน

          นายธนวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากให้รัฐบาลมีมาตรการกระจายการลงทุน การจ้างงาน ออกไปยังส่วนภูมิภาคมากขึ้น เพราะเม็ดเงินยังกระจุกอยู่ในบริษัทขนาดใหญ่ที่รับงานจากภาครัฐ จึงอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าหากการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ก็น่าจะมีเม็ดเงินที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้โตต่อไปได้ โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะโตได้อยู่ที่ประมาณ 4.20-4.60%


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก