วันที่ 28 สิงหาคม 2560 หลังจากการประชุมแผนการบริหารจัดการหนี้สินขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั้น นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณา 3 แนวทางที่ ขสมก. เสนอ ในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน จำนวน 103,598 ล้านบาท ดังนี้
2. ให้รัฐรับภาระเฉพาะหนี้ที่เกิดจากนโยบายภาครัฐ จำนวน 84,898 ล้านบาท เช่น รถเมล์ฟรี ประมาณ 800 คัน จ่ายตามต้นทุนคันละประมาณ 10,000 บาท และเงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ (พีเอสโอ) คันละประมาณ 3,000 บาท
3. ให้รัฐรับผิดชอบส่วนต่างของต้นทุนกับรายได้ที่ ขสมก. เก็บได้จริง จำนวน 55,798 ล้านบาท
นายพิชิต ระบุว่า ที่ประชุมมีความเห็นว่า ขสมก. ควรกลับไปทำแผนฟื้นฟูเพื่อหยุดการขาดทุนให้ได้ก่อน โดยต้องทำให้ชัดเจนและสมบูรณ์กว่านี้ เพราะขณะนี้มีแต่กรอบใหญ่ แต่ยังไม่มีแผนปฏิบัติการ
ทั้งนี้ทาง ขสมก. รับที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน หรือประมาณเดือนตุลาคม 2560 ก่อนเสนอกลับมาให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา
ด้านนายยุกต์ จารุภูมิ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ตามแผนฟื้นฟูนั้นต้องปรับลดพนักงานเก็บค่าโดยสารรวม 2,000 คัน ในปี 2562 เพื่อให้สอดคล้องกับระบบตั๋วร่วม ซึ่งจะเสนอขอจัดสรรงบประมาณปี 2561 ในวงเงินรวม 2,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเออร์รี่พนักงานเก็บค่าโดยสารจำนวน 2,000 คน หรือเฉลี่ยคนละ 1 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นมีพนักงานแสดงความสมัครใจพร้อมเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก