ใครว่าลูกหนี้ไม่มีสิทธิ์ อ่านสักนิดกู้เงินยังไงไม่ให้เจ็บตัว !

          ถึงเราจะเป็น "ลูกหนี้" ไป "กู้เงิน" ใครที่ไหน ก็ต้องรู้เท่าทันสิทธิ์ของตัวเอง จะได้ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยเฉพาะ "การกู้นอกระบบ" ที่ต้องเลี่ยงให้ไกล ถ้าไม่อยากเจ็บตัว !

          เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากเป็นหนี้ แต่บางครั้งด้วยเหตุจำเป็นหลาย ๆ อย่างทำให้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างผมเองเป็นพ่อค้าขายของในตลาดมาหลายปี เมื่อก่อนขายดีนับเงินมือเป็นระวิง แต่ช่วงหลัง ๆ ตลาดเงียบเหงา เฮ้อออออ มีของเต็มร้านแต่ขายไม่ออก ทำให้ผมตกอยู่ในภาวะเงินช็อต หมุนไม่ทัน ต้องหันหน้าพึ่งคนอื่นเพื่อกู้เงิน ว่าแต่ผมจะไป "กู้เงิน" ที่ไหนดีล่ะ ? 

          ครั้นจะให้ไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาทำทุนขายของ ผมก็ไม่กล้า ถึงจะได้เงินเร็วง่าย ไม่ต้องมีเอกสารอะไรเลยก็ตาม แต่ "อัตราดอกเบี้ย" จากการกู้นอกระบบก็โหดเอาเรื่อง แถมผมยังเคยเห็นเพื่อนโดนเจ้าหนี้นอกระบบทวงหนี้แบบรุนแรง ผมก็เลยกลัว สุดท้ายผมเลยหันไปพึ่งสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือดีกว่า เพราะมีหลักฐานการกู้ยืมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาการกู้ยืมเงินและใบเสร็จรับเงิน
          ในฐานะลูกหนี้เหมือนกัน ผมเลยอยากมาแชร์ให้ทุกคนรู้กันว่าถึงเราจะเป็นลูกหนี้ต้องกู้เงิน แต่เราก็ยังมีสิทธิ์ต่าง ๆ เหมือนกันนะ
 
   
          ก่อนจะไปกู้เงินจากสถาบันทางการเงินแห่งไหน ผมอยากให้ทุกคนทำความเข้าใจสิทธิ์ของลูกหนี้อย่างเรา ๆ ตรงนี้ก่อนครับ

1. สิทธิ์ที่ลูกหนี้จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง

          เพราะเรื่องการเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นถึงเราจะเป็น "ลูกหนี้" แต่เราก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจกู้ยืมครับ ซึ่งเจ้าพนักงานจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับเรา ไม่บิดเบือน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ย ค่าบริการ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับที่อาจเกิดขึ้น ข้อผูกพันตามสัญญา และสถาบันการเงินต้องนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ตามช่องทางให้บริการต่าง ๆ เช่น ช่องทางออนไลน์ สาขา หรือช่องทางลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วย

          แต่หากสถาบันการเงินให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน บังคับขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือคิดค่าบริการอื่น ๆ เพิ่มโดยไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามที่ระบุในสัญญา "ลูกหนี้" ก็สามารถแจ้งหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนของสถาบันการเงินนั้นให้ช่วยแก้ปัญหาได้ ซึ่งต้องมีหลักฐานที่แสดงว่าได้รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว พร้อมแจ้งผลดำเนินการให้ทราบในเวลาที่เหมาะสม ถ้าเรื่องที่เราร้องเรียนไปยังไม่ได้รับการติดตามแก้ไขปัญหา เราก็ยังสามารถร้องเรียนขอคำปรึกษาได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน หรือ ศคง. ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213 หรือช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนอื่น ๆ ได้เลย



          การกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ ลูกหนี้จะได้รับ "สัญญาการกู้ยืมเงิน" ที่เขียนไว้อย่างชัดเจนแบบตรงไปตรงมา เป็นสัญญาที่มีเนื้อหาตรงกัน 2 ฉบับ เพื่อให้ลูกหนี้และเจ้าหนี้เก็บไว้เป็นหลักฐานคนละฉบับ ซึ่งในสัญญาจะต้องมีข้อมูลเหล่านี้

          - ชื่อที่อยู่ของเรา (ลูกหนี้) กับสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ (เจ้าหนี้)
          - วันที่ขอกู้เงิน จำนวนเงินกู้ อัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ระยะเวลาการกู้ยืม
          - รายละเอียดค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมในการติดตามทวงหนี้

          แต่ถ้าเราหันไปพึ่ง "การกู้นอกระบบ" ก็มีความเสี่ยงเหมือนกันนะครับที่เนื้อหาในสัญญาการกู้เงินอาจไม่ชัดเจน หรือหมกเม็ดข้อมูลอะไรอยู่ โดยเฉพาะเรื่อง "อัตราดอกเบี้ยมหาโหด" อย่างที่เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อย ๆ ทำให้เราต้องแบกภาระหนี้เกินจากความเป็นจริง ดังนั้นแล้วถ้าใครจำเป็นต้องกู้เงินแนะนำให้ใช้บริการจากสถาบันทางการเงินที่น่าเชื่อถือดีกว่า
 


          บางครั้งลูกหนี้อาจมีปัญหาหมุนเงินไม่ทัน ไม่มีเงินมาผ่อนชำระ หรือจ่ายเกินเวลาบ้าง ซึ่งเจ้าหนี้ก็มีสิทธิ์ที่จะติดตามหนี้ได้เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่มีสิทธิ์ทำเหมือนในตัวอย่างแก๊งหนี้หมวกกันน็อกที่จะทวงหนี้โหดด้วยการทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ ทำลายข้าวของ หรือทำให้อับอาย ใช้คำพูดหยาบคาย รวมถึงทวงหนี้กับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกหนี้ สิทธิ์ข้อนี้เหล่าลูกหนี้ทั้งหลายจำไว้นะครับ

          และตอนนี้ได้มี พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ที่ให้ความคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลของลูกหนี้มากขึ้น เช่น ผู้ทวงหนี้ต้องแสดงตัวทุกครั้งในการไปทวงหนี้จากลูกหนี้ ห้ามเผยข้อมูลการเป็นหนี้ของลูกหนี้ หรือแม้กระทั่งห้ามทวงหนี้นอกเวลาที่สำคัญยังเขียนบทลงโทษเจ้าหนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า ถ้าทวงหนี้โหดจะต้องถูกจำคุกและปรับเงินเท่าไหร่บ้าง เพราะฉะนั้น หลังจากนี้ใครยังเจอแก๊งทวงหนี้สายโหดก็สามารถร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรมประจำจังหวัดให้มาจัดการได้เลยครับ


ขอบคุณข้อมูลดีๆ จากเงินติดล้อ สนใจข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่