การเป็นหนี้บัตรเครดิตเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนต้องพบเจอ อาจจะด้วยความจำเป็น มีเหตุด่วนเลยต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน แต่บางคนก็เป็นหนี้บัตรเพราะขาดวินัยในการใช้บัตร
เวลาเป็นหนี้บัตร ถ้าหากมีการวางแผนการเงินดี ๆ และมีความตั้งใจจริง ก็สามารถปลดหนี้ได้ในเวลาไม่นานนัก แต่ถ้าใครที่มีข้อจำกัด เช่น มีภาระด้านการเงินมากอยู่แล้ว หรือไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยการใช้บัตรและการใช้เงิน แบบนี้ก็ทำให้มีหนี้สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนแต่ละเดือนหมุนเงินแทบไม่ทัน
ถ้าจะให้พูดถึงข้อดีที่เป็นดาบสองคมของบัตรเครดิตอย่างหนึ่งนั่นก็คือ การจ่ายขั้นต่ำ ซึ่งไม่ใช่วิธีที่เราแนะนำสำหรับคนที่ใช้บัตรเครดิต แต่บางคนวางแผนว่าจะจ่ายขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าหนี้จะหมด ถามว่าวิธีนี้เวิร์กไหม เรามาลองคิดตามกันดูนะคะ
เราสามารถเลือกชำระเงินขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ ได้จนกว่าหนี้จะหมด แต่ปัญหาคือ ระยะเวลากว่าที่มันจะหมดอาจใช้เวลานานมากหลายปี และที่เสียไปก็จะเป็นดอกเบี้ยเสียมาก จนบางทีอาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงกว่าหนี้ที่ก่อไว้ก็ได้
เช่น ถ้ามีหนี้บัตรเครดิต 50,000 บาท ดอกเบี้ย 28% ต่อปี แล้วเลือกชำระขั้นต่ำทุกเดือน เดือนละ 5,000 บาท เราจะต้องใช้เวลาถึง 12 เดือนในการจ่ายหนี้ให้หมด เพราะดอกเบี้ยรวมแล้วสูงถึงเกือบ 10,000 บาท
ตัวอย่างนี้คือจำนวนหนี้ที่ไม่ได้สูงมากนัก แล้วลองนึกดูสิคะว่าถ้าใครที่ก่อหนี้ไว้หลาย ๆ หมื่น กับบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ จะต้องจมอยู่กับหนี้นานเท่าไรกว่าจะจ่ายหนี้หมด แค่คิดก็สยองแล้ว
จะเห็นได้ว่าวิธีการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำไปเรื่อย ๆ จนเคลียร์หนี้หมด เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเท่ากับเป็นการยืดระยะเวลาการเป็นหนี้ให้กับตนเอง เป็นการเสียเงินให้กับดอกเบี้ยโดยใช่เหตุ (จากตัวอย่างเงินเกือบหมื่นเอาไปทำอย่างอื่นได้ตั้งเยอะ)
กรณีมีความจำเป็นต้องจ่ายขั้นต่ำจะทำยังไงดี ?
แต่ถ้าเกิดจำเป็นต้องจ่ายขั้นต่ำจริง ๆ ก็ทำได้ แต่ขอแค่อย่าทำทุกเดือนก็พอ ถ้าเดือนไหนมีเงินเหลือเก็บเยอะหน่อย รายได้เสริมพุ่ง ก็เอามาโปะหนี้ซะนะคะ จะได้ลดหนี้ ลดจำนวนเงินที่ต้องเสียเป็นดอกเบี้ยด้วย
และที่สำคัญ อย่าใช้บัตรอีกจนกว่าจะเคลียร์หนี้ให้ได้ครบหมด เพราะค่าบัตรตรงนี้ที่เราค้างมันจะไปคำนวณร่วมกับยอดหนี้เดิมของเราด้วย ทำให้ดอกเบี้ยเรายิ่งเพิ่มขึ้น จะยิ่งลำบากกว่าเดิมภายหลัง
ฉะนั้น ถ้าเรายังอยากจะใช้บัตรต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ให้ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของตนเองและไม่ให้เป็นหนี้ เราต้องชำระค่าบัตรเครดิตในแต่ละงวดให้ครบ ตรงตามเวลาชำระ
โดยเราจะชำระให้ครบได้ก็ต่อเมื่อเราใช้บัตรอย่างมีสติ รู้ว่าเท่าไรที่ตัวเองจะมีเงินพอจ่ายเมื่อถึงเวลาชำระ ถ้าใครกลัวตัวเองจะเผลอใช้เงินเกินตัวอีก เราขอแนะนำเลยค่ะว่า ทุกครั้งที่จะใช้บัตรเครดิตต้องมีเงินสดเป็นจำนวนเท่านั้นก่อน จากนั้นก็เอาใส่กระปุกหรือบัญชีธนาคารที่เอาไว้ชำระค่าบัตรเครดิตได้เลย
นอกจากนี้ เราก็ควรมีเงินออมไว้เผื่อฉุกเฉินบ้าง จะได้ไม่ต้องคอยพึ่งแต่บัตรเครดิต หรือถ้าเกิดเหตุที่ต้องใช้บัตรจริง ๆ เพราะไม่ได้พกเงินติดตัวไว้ อย่างน้อยเราก็ยังอุ่นใจที่รู้ว่า ที่รูดไป เรามีเงินพอไว้ชำระให้หมดในงวดนี้แน่ ๆ
อย่าลืมว่าบัตรเครดิตมีช่วงปลอดดอกเบี้ยอยู่แล้ว ซึ่งก็แล้วแต่ผู้ออกบัตรว่ามีระยะปลอดดอกเบี้ยนานเท่าไร จากนั้นเราก็จ่ายให้ตรงเวลา เราจะได้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยนะคะ แถมยังได้ประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิตอย่างการได้สะสมแต้มแลกของ หรือได้แคชแบ็ค และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายด้วย
จะใช้บัตรเครดิตทั้งที ต้องใช้อย่างมีแบบแผนนะคะ จำไว้ว่าเราต้องได้รับประโยชน์จากมัน ไม่ใช่มันมาหาประโยชน์จากเรา ควรศึกษาข้อมูลการใช้บัตรเครดิตให้เข้าใจ และจัดการการเงินของตัวเองให้ดี รวมถึงใช้บัตรอย่างระมัดระวังและมีสติ ไม่ใช้เกินกว่าที่จะหามาชำระได้ และเมื่อถึงเวลาที่ต้องชำระก็จ่ายให้ครบ
ถ้าทำแบบนี้ได้ รับรองว่าไม่ต้องจ่ายขั้นต่ำ ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ไม่มีหนี้มากวนใจ แน่นอนค่ะ !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Masii.co.th
