แชร์ประสบการณ์ทำงานต่างประเทศของอดีตสาวแบงก์คนหนึ่ง ที่โผบินไปไกลถึงเนเธอร์แลนด์ ทำให้เธอได้สัมผัสการทำงานของเมืองนอกอย่างจริงจัง และเธอก็คิดว่ามันช่างต่างจากการทำงานของบ้านเรามากโข !
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่กำลังหางานต่างประเทศอยู่ และคิดไว้ว่าชีวิตนี้จะต้องลองไปสมัครงานและทำงานที่ต่างประเทศให้จงได้ เคยลองจินตนาการชีวิตการทำงาน ณ เมืองนอกดูบ้างไหมคะว่าไปแล้วจะเป็นยังไง ความแตกต่างทั้งทางวัฒนธรรมและภาษาของประเทศที่ไม่ใช่แผ่นดินเกิดจะให้ประสบการณ์ใหม่ ๆ อะไรกับเราบ้าง ที่สำคัญการทำงานต่างประเทศนั้นจะมอบชีวิตดี๊ดีให้เราได้จริงเท็จแค่ไหน วันนี้ คุณสมาชิกหมายเลข 1642517 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จะมาบอกเล่าประสบการณ์หางานและทำงานต่างประเทศให้เราได้ศึกษาเป็นไกด์ไว้ก่อน
ประสบการณ์ การหางาน และทำงานบริษัทที่เนเธอร์แลนด์ ที่เราคิดว่าต่างจากเมืองไทยมาก ๆ โดยคุณสมาชิกหมายเลข 1642517 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เราคิดว่าความฝันของหลาย ๆ คนคือการได้ทำงานที่ต่างประเทศสักครั้งในชีวิต ซึ่งเราก็เป็นคนหนึ่งที่มีความฝันอย่างนั้น แต่การที่เราจะลงมือทำตามความฝัน เราต้องมีการวางแผนว่าเราจะลงมือทำอย่างไร
ตอนเราเรียนจบปริญญาตรีที่เมืองไทย เราก็ทำงานธนาคารอยู่ 2 ปี เก็บเงินเองจนได้มาเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เราเป็นคนที่วางแผนล่วงหน้าเสมอ จะรู้ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต เราเห็นหลาย ๆ คนโพสต์ว่า จะเรียนอันนี้ดีไหม จะเรียนที่นั่นดีไหม ความเห็นของเรานะ (อย่าโกรธนะคะ) เราว่าคุณต้องรู้ตัวเอง และวางแผนชีวิตตัวเองแล้ว ว่าต้องการอะไร อยากเรียนอะไร ถ้าคุณรู้ตัวเอง การเรียนจบ ได้งานทำที่ต่างประเทศก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
ทำไมถึงเลือกเนเธอร์แลนด์ ?
เราวางแผนอยู่แล้วว่าอยากทำงานต่อต่างประเทศหลังเรียนจบ เราเสิร์ชหาหลายประเทศมาก ๆ ว่าเขาให้โอกาสเด็กเรียนจบที่ประเทศนั้น ๆ หางานหลังจากเรียนจบหรือไม่ ตลาดงานบ้านเขาเป็นยังไง งานที่พูดภาษาอังกฤษมีเยอะไหม และถ้าเราเรียนจบจะหางานด้านไหนได้บ้าง
เรามองอยู่ 2-3 ประเทศนะ ก็มีเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และอังกฤษ แต่เรามาเลือกเนเธอร์แลนด์เพราะเรื่องคนการันตี ทางบ้านเราไม่มีเงินพอที่จะรับรองมา เลยให้เพื่อนคุณพ่อที่เป็นคนดัตช์รับรองมา เราเลยมาเรียนที่เนเธอร์แลนด์ และด้วยความโชคดี ที่นี่เขามีวีซ่าให้ 1 ปี ให้นักเรียนที่เรียนจบที่นี่หางานได้ ซึ่งเราว่าดีมาก ๆ ลองดูลิงค์นี้นะคะ hollandalumni.nl
หางานทำอย่างไร ?
หลังจากเรียนจบ เราเริ่มเขียนจดหมายสมัครงาน เราก็เสิร์ชหาว่า CV (Curriculum Vitae) ที่นี่เขาทำอย่างไร ตรงไหนสำคัญ เรามารู้ว่าตรง summary น่ะสำคัญที่สุด ต้องอยู่หน้าแรกต่อจาก personal details เลย คราวนี้เราก็เข้าหาเว็บสมัครงานที่ไม่ต้องใช้ภาษาดัตช์ แต่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก โพสต์ CV เอาไว้ในเว็บต่าง ๆ สมัครงานตรงไปที่บริษัท และอื่น ๆ อีกมากเลย
สุดท้ายได้รับเข้าทำงานที่ธนาคาร The Royal Bank of Scotland (RBS) ที่อัมส์เตอร์ดัม หลังจากถูกปฎิเสธทางอีเมล ไม่ต่ำกว่า 50 งาน สอบสัมภาษณ์ไม่ผ่าน (แบบโชว์โง่ด้วย) ไปประมาณ 10 กว่าที่ รายละเอียดการสัมภาษณ์งาน และการหางานลองดูโพสต์เก่า ๆ เรานะคะ
ประสบการณ์ทำงานที่นี่ ต่างกับเมืองไทยอย่างไร ?
เข้าเรื่องตามหัวข้อเลยนะคะ คือเราว่ามันเป็น culture shock สำหรับเราเลยค่ะ ตอนเข้าไปทำงานแรก ๆ อย่างที่บอกเราเคยทำงานที่เมืองไทยมา 2 ปีก็ไม่ถือว่ามาก ประสบการณ์ก็ไม่เยอะ นิสัยเป็นเด็กไทยแท้ ๆ เลยค่ะ ไม่กล้าเถียง ไม่กล้าพูด มีอะไรเงียบ กลัวทุกอย่างในโลกนี้ แต่พอมาทำงานที่นี่ทำให้เรารู้ว่า เราต้องสลัดความกลัว เอาความเป็นคนไทยผสมกับวัฒนธรรมยุโรปไปด้วยถึงจะอยู่รอด นั่นคือเราต้องพูด ต้องบอก
เราทำงานที่เนเธอร์แลนด์มาเกือบ 8 ปี เปลี่ยนงานมา 2 ครั้ง แต่ทุกครั้งเราจะได้สัญญาถาวรตลอดทุกครั้ง (ที่นี่ถือว่าใครได้สัญญาถาวรคือคุณเก่งมาก คนดัตช์เองยังไม่ค่อยได้เลยค่ะ) เคล็ดลับการทำงานและสิ่งที่เราว่าการทำงานที่นี่มันแปลกและน่าสนใจดี มีดังนี้
1. ที่นี่เขาตรงต่อเวลามาก มาทำงานตรงเวลา เลิกก็ตรงเวลาค่ะ ที่นี่เข้างาน 09.00 น. เลิก 18.00 น. พอสัก 18.30 น. ออกเกือบหมดออฟฟิศเลยค่ะ มีวันหนึ่งเราเลิก 19.30 น. คือยามมาไล่กลับบ้านอ่ะจริง ๆ
2. ที่นี่เขาไม่มีเรื่องระดับอาวุโสเหมือนเมืองไทยค่ะ เราว่ามันก็ดี แต่อีกมุมหนึ่งเราก็ยังรักษาความเป็นไทยอยู่บ้าง ในเรื่องการให้เกียรติผู้ใหญ่กว่าเสมอ ที่นี่เขาเถึยงกับหัวหน้ากลางที่ประชุม เล่นเรางง ถ้าเป็นเมืองไทยโดนไล่ออกไปแล้วนะ แต่พอออกจากห้องประชุม ทุกคนก็คุยเล่นกันเหมือนเดิม
3. การทำงานของที่นี่วัดกันที่ผลงาน ไม่ใช่การอยู่ทำงานจนดึก ถ้าเลิกดึกบ่อย ๆ จริง ๆ โดนเพ่งเล็งนะ เขาจะว่าคุณทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ทำงานในเวลางานไม่ทัน ซะงั้น !
คือที่นี่ทำงานคือทำจริง ๆ แบบเดินลงไปซื้อสตาร์บัค กาแฟเย็นอะไรอย่างนี้ไม่มีอ่ะค่ะ ทำ ๆๆ แล้วก็เลิกงานไปออกกำลังกาย อยู่กับครอบครัวค่ะ
4. ที่นี่มีอะไรพูดกันตรง ๆ ตอนแรกเรารับไม่ได้นะ ตอนหลังเริ่มชิน เถียงกลับบ้าง คราวนี้เป็นแบบใครสั่งงาน ถ้าแบบอ้อมไปอ้อมมาจะไม่ชอบมาก อยากได้อะไร สั่งมาตรง ๆ ไม่ต้องอ้อม เราว่าเสียเวลานะ จริง ๆ เราเริ่มเป็นดัตช์มากก็ตรงนี้แหละเราว่า
5. การทำงานที่นี่คุณต้องกล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแย้งถ้าไม่เห็นด้วย เราเรียนรู้กับการเงียบไม่พูด เราจะโดนเพื่อนร่วมงานที่ไม่ดีคอยเอาเปรียบเสมอ แต่ถ้าเราแสดงให้เห็นว่าอย่ามาล้ำเส้นเรา เราก็จะอยู่รอดกับการทำงานที่นี่ได้ เราว่าการแข่งขันที่นี่ไม่สูงมากถ้าเทียบกับเมืองไทย แต่การเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดกับผู้ร่วมงานแย่ ๆ บางคน มันก็สำคัญนะ
6. ปกติที่เมืองไทยพอถึงวันเกิดเรา เราจะได้ของขวัญจากเพื่อนร่วมงานใช่ไหมค่ะ แต่ที่นี่ไม่ใช่ค่ะ เราต้องเอาเค้กหรือขนมอะไรก็ได้มาแจกเพื่อนร่วมงานค่ะ แจกนี่คือไม่ใช่เฉพาะในทีมนะคะ ทั้งชั้นค่ะ
ตอนแรกเรางงมาก ทำไมได้ทานเค้กบ่อยจัง พอวันเกิดเราเพื่อนร่วมงานก็จะมาหอมแก้ม 3 ที ถ้าสนิท ถ้าไม่สนิทก็แค่จับมือนะคะ ตอนแรกก็ไม่ชิน ตอนหลังชินละ
7. อันนี้เราชอบมาก ที่นี่มีเงินพักร้อนให้ค่ะ ตามกฎหมายทุกคนที่ทำงานต้องได้ เขาเรียก vacation money จะได้ทุกเดือนพฤษภาคม ก็ 7% ของเงินเดือนทั้งปีเรา ก็เหมือนได้เงินเดือนเพิ่มมาอีก 1 เดือนนะคะ
8. ที่นี่ถ้าอากาศดี ๆ ไม่ว่าคุณจะใส่สูทหล่อแค่ไหน กระโปรงสั้นฉีกสูง ส้นสูงปรี๊ด เขาก็ปั่นจักรยานค่ะ คือมันเท่มากจริง ๆ แบบอินเทรนด์สุด ถ้าคุณแต่งตัวดี ๆ ปั่นจักรยาน จริง ๆ นะ ฮ่า ๆ
หวังว่าทุกคนคงสนุกกับการอ่านประสบการณ์ทำงาน และการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศของเรานะคะ เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้าทุกคนมีความฝัน การเตรียมตัวเพื่อลงมือทำสำคัญมาก เราต้องรู้ว่าเราต้องการอะไร และต้องตั้งใจ อดทนและไม่ย่อท้อค่ะ เราเชื่อว่าทุกคนต้องทำได้ สู้ ๆ นะคะ ;)
ใครฝันอยากทำงานต่างประเทศและกำลังตามรอยฝันตัวเองอยู่ ประสบการณ์ของคุณสมาชิกหมายเลข 1642517 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม น่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ดี ทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลชั้นเลิศที่ทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานในต่างประเทศ หลาย ๆ อย่าง ซึ่งก่อนจะกล่าวลากันไป คุณเจ้าของกระทู้ยังแนะนำกฎหมายการทำงานที่ฮอลแลนด์มาให้ดูพร้อมกับลิงก์นี้ด้วย hollandalumni.nl
ทั้งยังช่วยตอบคำถามในประเด็นที่ว่า ไม่ว่าคุณจะจบการศึกษาที่ฮอลแลนด์หรือไม่ คุณจะได้สิทธิ์วีซ่าหางาน search year 1 ปี แต่ทั้งนี้คุณต้องจบมหาวิทยาลัยท็อป 200 ของโลกให้ได้ก่อน
ส่วนเรื่องอายุไม่ได้ระบุ เและเงินเดือนที่คุณต้องหาได้ขั้นต่ำก็ไม่สูงมาก ซึ่งเขากำลังปรับกฎหมายหลาย ๆ เรื่องเพื่อให้คนที่มาจากนอกยุโรปหางานทำในฮอลแลนด์ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง อีกทั้งยังกระซิบมาด้วยว่า กฎหมายการทำงานที่ฮอลแลนด์กำลังจะถูกปรับใช้ใหม่ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2016 นี้แล้วด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
คุณสมาชิกหมายเลข 1642517 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
