x close

ธุรกิจลีสซิ่งขยับขึ้นดอกเบี้ยเช่าซื้อรถ หลัง NPL พุ่งต่อเนื่อง


ธุรกิจลีสซิ่งขยับขึ้นดอกเบี้ยเช่าซื้อรถ หลัง NPL พุ่งต่อเนื่อง
ธุรกิจลีสซิ่งขยับขึ้นดอกเบี้ยเช่าซื้อรถ หลัง NPL พุ่งต่อเนื่อง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

            ธุรกิจลีสซิ่งขยับขึ้นดอกเบี้ยเช่าซื้อรถ 10-25 สตางค์ หลังต้นทุนบริหารหนี้พุ่งขึ้นตาม NPL ลีสซิ่งกสิกรไทยจ่อขยับขึ้นอีก 15 สตางค์ ขณะที่ยอดขายรถ 9 เดือน ลดลงกว่า 37%

            เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ในระยะข้างหน้าไม่น่าจะเห็นระดับการแข่งขันที่รุนแรงมากนัก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้ประกอบการมีการปรับตัวจากปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เร่งตัวสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการบริหารจัดการขยับตัวขึ้นตามมา เริ่มเห็นการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่ในตลาดประมาณ 10-25 สตางค์ ตามสภาพตลาดที่ NPL ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลีสซิ่งกสิกรไทยเองก็ได้ขยับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อขึ้นประมาณ 15 สตางค์เช่นกัน

            นายสุรัตน์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้เป็นโหมดที่ทุกคนจะต้องบริหารจัดการความเสี่ยงจาก NPL ที่เร่งตัวสูงขึ้น เป็นภาวะที่ผู้ประกอบการเริ่มทนไม่ไหว ก็ต้องถึงเวลาที่ควรต้องปรับ โดยต้นทุนการเงินขยับขึ้นไม่มากนัก แต่ต้นทุนในการบริหารจัดการ NPL ขยับตัวสูงขึ้นมาก ขณะที่แนวโน้มการเกิด NPL ก็ยังไม่ผ่านจุดสูงสุด โดยเชื่อว่าน่าจะเห็นเข้าสู่ระดับสูงสุดในช่วงต้นปี 2558

            ขณะที่อีกด้านแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยตลาดโลกก็อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าต้นทุนการปล่อยกู้ในอนาคตจะปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ปีหน้ามีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อจะขยับขึ้นได้อีกประมาณ 15 สตางค์ เพื่อรักษาระดับการบริหารจัดการด้านอัตราผลตอบแทนขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ

            อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่ทำให้ลูกค้าได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยมีผลค่อนข้างน้อยมาก หากเทียบกับสัดส่วนเงินดาวน์ โดยคำถามแรกของคนซื้อรถยนต์ส่วนใหญ่จะถามว่าเงินดาวน์ต่ำสุดอยู่ที่เท่าไร และจากผลตอบแทนที่ได้จากการให้สินเชื่อรถยนต์ขนาดเล็ก 1 คัน ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่บริษัทไฟแนนซ์จะได้รับอยู่ที่ประมาณ 10,000 กว่าบาท หากอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นอีก 25 สตางค์ NIM ก็จะขยับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทเท่านั้น

            ปัจจุบัน NIM ของลีสซิ่งกสิกรไทยอยู่ที่ระดับมากกว่า 1% ขยับขึ้นจากสิ้นปีก่อนประมาณ 10 สตางค์ เนื่องจากบริษัทหันไปให้ความสำคัญกับโปรดักส์ที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งสินเชื่อรีไฟแนนซ์ (รถช่วยได้) สินเชื่อเช่าซื้อรถเพื่อการพาณิชย์ และสินเชื่อเช่าซื้อเพื่อตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ (ดีลเลอร์) มากกว่าสินเชื่อรถยนต์ใหม่

            ทั้งนี้ปัจจุบันค่าเฉลี่ยเงินดาวน์ในตลาดอยู่ที่ประมาณ 20-25% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานอยู่ที่ 2.65% (ดาวน์ 25% ผ่อนชำระ 4 ปี) สำหรับการเข้าไปกระตุ้นตลาดผ่านแคมเปญดอกเบี้ย 0% ยอมรับว่าพอมีบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มากกว่า

            ด้าน นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารทิสโก้ กล่าวยอมรับว่า ช่วงที่ผ่านมาธุรกิจเช่าซื้อมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรถยนต์ใหม่ประมาณ 0.15-0.20% ต่อปี เป็นผลจากการเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของปริมาณหนี้เสีย และการเสื่อมค่าของหลักประกันที่ลดลงค่อนข้างมาก โดยทิสโก้ก็มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรถใหม่เช่นเดียวกัน ในระดับใกล้เคียงกับตลาด เพราะแม้ทางจะมีการพยายามควบคุมต้นทุนบริหารจัดการข้างใน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ

            โดยเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.15-0.20% ต่อปี ส่งผลกระทบต่อลูกค้าไม่มาก ค่างวดที่ชำระจะปรับขึ้นประมาณ 50-100 บาทต่อเดือนเท่านั้น หรือเพิ่มขึ้นไม่กี่พันบาทตลอดระยะสัญญา 4-5 ปี ขณะที่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการซื้อรถของลูกค้า น่าจะเป็นความสามารถของลูกค้าเองที่ปรับลดลงจากปัญหาเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนมากกว่า เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมา แม้ในบางครั้งจะทำแคมเปญดอกเบี้ยต่ำ ลูกค้าก็ไม่สามารถซื้อรถได้ เพราะไม่มีเงินดาวน์

            ด้าน นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย กล่าวว่า NPL ที่ปรับสูงขึ้น เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อเท่านั้น แต่ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของลูกค้า ผลกระทบหลักคือความกังวลต่อการชำระหนี้ในอนาคตมากกว่า ที่สำคัญอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อก็อยู่ในระดับต่ำมานานแล้ว และบางจังหวะดีลเลอร์ทำแคมเปญ 0% ก็ยังไม่มีคนซื้อ

            สำหรับยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 648,000 คัน ลดลง 37.3% จากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดสินเชื่อเช่าซื้อหดตัวในระดับใกล้เคียงกัน ขณะที่ปัจจุบัน NPL ในระบบสินเชื่อเช่าซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3% ของยอดสินเชื่อ

            ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานของฮอนด้า ลีสซิ่ง ซึ่งเป็นแคปทีฟไฟแนนซ์ของบริษัทตัวเลข NPL ไม่สูง ดังนั้น แม้ว่าลีสซิ่งหลายรายจะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นบ้างแล้ว แต่สำหรับฮอนด้า ลีสซิ่งมองว่ายังไม่มีความจำเป็น และน่าจะคงอัตรานี้ไปจนถึงสิ้นปี จนกว่าสถานการณ์ตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงในปีหน้า ส่วนการจัดแคมเปญและโปรโมชั่นด้านการเงินต่าง ๆ ก็มีอย่างสม่ำเสมอ แต่อาจไม่รุนแรงเหมือนลีสซิ่งทั่วไป

            ขณะที่แหล่งข่าวบริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์อยู่ในระดับที่ต่ำอยู่แล้ว หากลีสซิ่งจะปรับดอกเบี้ยขึ้นบ้าง ก็ถือว่ายังมีอัตราที่ต่ำอยู่ และการปรับขึ้นจะส่งผลกระทบกับลูกค้าแค่ในระยะแรกเท่านั้น แต่ประเด็นที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ชัดเจนกว่า นั่นคือความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อมากขึ้น ทำให้มีลูกค้าไม่ผ่านเงื่อนไขเบื้องต้นสูง ดีลเลอร์รถยนต์ก็จะต้องสร้างความเข้าใจ และขอความร่วมมือให้ลูกค้าเพิ่มเงินดาวน์มากขึ้น หรือเพิ่มผู้ค้ำประกัน

            อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินบางแห่งคาดว่าตัวเลข NPL จะปรับเพิ่มขึ้นนั้น บริษัทประเมินว่าขึ้นอยู่กับสถาบันการเงินแต่ละราย เพราะหลายแห่งก็เพิ่มความเข้มงวดตั้งแต่เริ่มต้นโครงการรถยนต์คันแรก ถึงปัจจุบันก็กว่า 2 ปีแล้ว สถานการณ์ที่ตกต่ำที่สุดน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้แล้ว ส่วนปีหน้าบริษัทมองว่าน่าจะเป็นช่วงที่ตัวเลข เอ็นพีแอล ลดต่ำลง และเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มเติบโตอีกครั้ง


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ธุรกิจลีสซิ่งขยับขึ้นดอกเบี้ยเช่าซื้อรถ หลัง NPL พุ่งต่อเนื่อง อัปเดตล่าสุด 31 ตุลาคม 2557 เวลา 09:16:00 1,789 อ่าน
TOP