ธ.ก.ส. แจงมีระบบกันสวมสิทธิ์ชาวนา คาดเริ่มจ่ายเงิน 20 ต.ค.

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล

         ธ.ก.ส. ยันมีระบบตรวจสอบการขึ้นทะเบียนชาวนา กันชาวนาปลอมสวมสิทธิ์-ซอยไร่นาไม่ให้เกิน 15 ไร่ คาดเริ่มจ่ายเงินได้ตั้งแต่ 20 ต.ค.นี้

         วันนี้ (9 ตุลาคม 2557) นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงแนวทางการป้องกันชาวนาสวมสิทธิ์รับเงินไร่ละ 1,000 บาท โดยระบุว่า กระบวนการตรวจสอบมีทั้งในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตรและการตรวจสอบของ ธ.ก.ส. โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จะทำหน้าที่ในการขึ้นทะเบียนชาวนาที่ปลูกข้าวนาปี 2557/2558

         สำหรับการปลูกข้าวนั้นเริ่มมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และได้มีการขึ้นทะเบียนชาวนาก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ล่าสุดมีชาวนามาขึ้นทะเบียนแล้ว 2.9 ล้านครัวเรือน โดยตัวเลขที่ทางรัฐบาลจะช่วยเหลือ 3.4 ล้านครัวเรือนนั้นมาจากสถิติในปีที่ผ่าน ๆ มาว่ามีชาวนามาขึ้นทะเบียนเท่าไหร่ ซึ่งในการขึ้นทะเบียนนั้นจะดูตั้งแต่พื้นที่ปลูกว่าเป็นของชาวนาเองหรือเป็นที่เช่า หากเช่าต้องมีสัญญาการเช่า พร้อมกันนี้ยังมีการให้ชุมชนเข้ามาช่วยตรวจสอบด้วยว่าผู้ที่มีชื่อเป็นชาวนาในชุมชนนั้น ๆ เป็นชาวนาตัวจริงหรือไม่
 
         และการตรวจสอบในส่วนที่ 2 จาก ธ.ก.ส. เอง ขณะนี้ ธ.ก.ส. กำลังจัดทำระบบตรวจสอบทั้งจากระบบคอมพิวเตอร์และตรวจสอบด้วยการสุ่มโดยบุคคลและเอกสาร โดยการมาเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. นั้นข้อกำหนดว่า 1 ครัวเรือนต่อ 1 บัญชีเท่านั้น และต้องระบุชัดเจนว่าทำอาชีพอะไร พื้นที่ในการทำการเกษตรเท่าไหร่ อยู่บ้านเลขที่เท่าไหร่ ดังนั้นจะมีสถิติย้อนหลังนำมาเปรียบเทียบได้ว่าในปีที่ผ่านมานั้นมีการปลูกข้าวจำนวนเท่าไหร่ และลูกค้าที่มีพื้นที่น้อยกว่า 15 ไร่มีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อดูว่ามีการซอยพื้นที่ไม่ให้เกิน 15 ไร่หรือไม่ เพราะรัฐบาลกำหนดว่าหากพื้นที่เกิน 15 ไร่ จะให้แค่ 15,000 บาท ดังนั้นมีข้อกังวลว่าจะมีการซอยพื้นที่ที่เกิน 15 ไร่ เพื่อมารับเงินเพิ่ม
 
         นายสมศักดิ์  กล่าวต่อว่า การตรวจสอบมีระบบอยู่แล้ว ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. เคยดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนาในหลายโครงการ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ส่วนการนำพื้นที่ปลูกข้าวมาซอยไม่ให้เกิน 15 ไร่นั้นมองว่าทำได้ยาก เพราะในการตรวจสอบจะไปดูว่าบ้านเลขที่นี้มีการมาขอใช้สิทธิ์หรือยัง ถ้ามาขอใช้สิทธิ์แล้วจะไม่ได้ ซึ่งทั้ง ธ.ก.ส. และกรมส่งเสริมการเกษตรจะมีการตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด หากมีการแจ้งข้อมูลเท็จทางกรมส่งเสริมการเกษตรมีบทลงโทษถึงขั้นดำเนินคดี ซึ่งถือว่ารุนแรงมาก
 
         ทั้งนี้หลังจากมีการขึ้นทะเบียนแล้ว ชาวนาต้องรอหนังสือรับรองจากกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งล่าสุดมีออกหนังสือให้กับชาวนาแล้ว 8 แสนราย เมื่อได้หนังสือแล้วชาวนาต้องมายื่นความประสงค์เพื่อขอรับความช่วยเหลือกับ ธ.ก.ส. ซึ่ง ธ.ก.ส. เปิดให้ยื่นความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่การจ่ายเงินน่าจะเริ่มได้ในวันที่ 20 ตุลาคม เนื่องจากธนาคารต้องเตรียมพร้อมระบบจ่ายเงิน ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับการจ่ายเงิน และต้องซักซ้อมความเข้าใจกับพนักงานก่อน ซึ่งล่าสุดได้มีการซักซ้อมพนักงานแล้ว ยังรอระบบคอมพิวเตอร์ว่าจะพร้อมก่อนวันที่ 20 ตุลาคมหรือไม่ ถ้าพร้อมก่อนจะเริ่มจ่ายให้ชาวนาทันที โดยคาดว่าไม่เกิน 1 เดือนจะจ่ายเงิน 4 หมื่นล้านบาทให้ชาวนา 3.4 ล้านครัวเรือนได้หมด

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก