แท็กซี่ เล็งขอขึ้นราคา หากก๊าซปรับขึ้น-รถเมล์ ยังตรึง

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สปริงนิวส์

            แท็กซี่ ขนส่ง เตรียมขึ้นราคาค่าบริการ หากก๊าซ LPG NGV ขึ้นราคาในเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่ ขสมก. ย้ำ ยังไม่ขึ้นค่าโดยสาร หวั่นภาระตกที่ประชาชน

            จากกรณีที่กระทรวงพลังงานเตรียมปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG และ NGV ในภาคขนส่ง เพื่อให้ราคาพลังงานมีความเหมาะสมทุกผลิตภัณฑ์ โดยจะทยอยปรับตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไปนั้น

            เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2557 นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หากราคาก๊าซทั้งสองชนิดปรับราคาขึ้นจริง ทางผู้ให้บริการแท็กซี่ก็จะต้องปรับขึ้นราคาค่าโดยสารเช่นกัน เพราะปัจจุบันรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย

            ทั้งนี้หากราคาเชื้อเพลิงปรับขึ้น 1 บาท จะทำให้ต้นทุนราคาค่าบริการที่จะต้องปรับขึ้นจะอยู่ที่ 5% หากราคาเชื้อเพลิง LPG ปรับขึ้น 2-3 บาท ต้นทุนราคาค่าบริการที่จะต้องปรับขึ้นจะอยู่ที่ 10% ซึ่งต้นทุนในส่วนนี้จะต้องนำไปรวมกับต้นทุนการให้บริการที่ทางสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอีก 10% อย่างไรก็ตาม รถแท็กซี่ที่ใช้ก๊าซ NGV อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะ ปตท. ได้ออกบัตรที่สามารถช่วยลดการเติมก๊าซ NGV ถึง 2 บาท

            ด้าน นายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ก็ระบุเช่นกันว่า จำเป็นต้องปรับขึ้นค่าขนส่ง หากจะมีการปรับขึ้นราคาพลังงานจริง เพราะราคาพลังงานคิดเป็นต้นทุนถึง 45-50% ของผู้ประกอบการรถบรรทุก อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการปรับขึ้นค่าขนส่งผลกระทบจะไปตกอยู่ที่เกษตรกร เพราะเป็นผู้จ่ายค่าขนส่งทั้งหมด ดังนั้นจึงอยากให้กระทรวงพลังงานพิจารณาใน 2 เรื่อง คือ ขอให้เพิ่มจำนวนปั๊มก๊าซ NGV ให้มากขึ้น และควรนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากก๊าซ NGV เพราะส่งผลต่อต้นทุนถึง 10% ของราคาพลังงานที่ผู้ประกอบการต้องจ่าย

            อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่และภาคขนส่งมีแผนจะปรับขึ้นราคาตามราคาเชื้อเพลิง แต่ฝั่ง ขสมก. ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารในช่วงนี้

            โดย นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ระบุว่า ขสมก. ยังไม่มีนโยบายที่จะขึ้นราคาค่าโดยสารถึงแม้จะมีการปรับราคาค่าเชื้อเพลิงทั้ง NGV และดีเซลในอนาคต เนื่องจากหากมีการปรับราคาค่าโดยสารจะกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการ อีกทั้งการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารนั้นเป็นเรื่องของนโยบาย ที่ต้องพิจารณาถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นนั้นมีผลต่อต้นทุนค่าใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด พร้อมทั้งจะต้องรับความคิดเห็นของหน่วยงานต่าง ๆ และนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารกิจการว่ามีความเห็นอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องของนโยบายที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียด

            นายนเรศ ยังได้กล่าวถึงผลประกอบการของ ขสมก. ว่า ขสมก. มีผลประกอบการที่ขาดทุนประมาณ 420 ล้านบาทต่อเดือน เป็นรายจ่ายรวมที่เทียบกับรายได้รวม ซึ่งในส่วนของเชื้อเพลิงนั้นมีรายจ่าย 200 ล้านบาทต่อเดือน แต่ทางรัฐบาลก็ได้มีมาตรการในการช่วยเหลือมาตลอด


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก