ธ.ก.ส. เร่งแก้ข้าวราคาตก พร้อมลุยสางหนี้นอกระบบ
ธ.ก.ส. เด้งรับนโยบาย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จ่อถกหามาตรการอุ้มราคาข้าว หลังราคาตกต่ำกว่าที่คาดการณ์ ด้าน รมว.การคลัง สั่งลุยเชิงรุกแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ ธ.ก.ส. ส่งข้อมูลเรื่องราคาข้าวเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจากราคาข้าวที่ตกต่ำโดยเฉพาะราคาข้าวเปลือกเจ้าที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วงนี้ จากผลผลิตข้าวเปลือกเจ้าทั้งหมด 10-11 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาขายข้าวที่มีความชื้น 15% อยู่ที่ 7-7.5 พันบาทต่อตัน ขณะที่ข้าวที่มีความชื้น 30% ถูกกดราคาเหลือ 6-6.2 พันบาทต่อตัน ซึ่งความเดือดร้อนดังกล่าวเชื่อว่า ทาง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จะประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ดูแลเรื่องการลดต้นทุนปัจจัยการผลิต และกระทรวงพาณิชย์ที่ดูแลทางด้านราคาและกระทรวงการคลัง ธ.ก.ส. เข้าหารือ
"หลักการที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรให้มาคือต้องทำงานตามกรอบนโยบายรัฐ คือต้องใช้กลไกตลาด โดยยังไม่เข้าแทรกแซงเพื่อหวังบิดเบือนราคา โดยยังคงมุ่งเรื่องการลดต้นทุนการผลิต เช่น ให้กระทรวงมหาดไทยดูเรื่องลดค่าเช่า ให้ ธ.ก.ส.ดูเรื่องการลดดอกเบี้ยเพื่อลดต้นทุนไปก่อน แต่ตอนนี้ราคาข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ 6 พันบาทต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าที่เคยคุยกันในกรอบแรกว่า ราคาที่เกษตรกรจะอยู่ได้ต้องอยู่ที่ 8.5-9 พันบาทต่อตัน ซึ่งต้องรอดูว่าจะมีมาตรการอะไรออกมาเพิ่มเติมอีก" นายลักษณ์ กล่าว
สำหรับราคาข้าวหอมมะลิ ความชื้น 15% ราคา 1.4-1.5 หมื่นบาทต่อตัน และข้าวเหนียว ราคา 1.3 หมื่นบาทต่อตัน ข้าวหอมประทุม ราคา 9,000-9,500 บาทต่อตัน ถือว่ายังไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องราคาข้าวเปลือกเจ้าที่ตกต่ำ เห็นว่าควรเร่งหารือไม่เกินเดือนนี้ เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตออกมามากที่สุด
นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลัง นายสมหมาย ภาษี รมว.การคลัง ได้มอบนโยบายให้ ธ.ก.ส.หามาตรการเชิงรุกในเรื่องการแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งอยากให้ทำให้เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าช่วยเหลือเกษตรกร ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงิน รวมทั้งได้ให้นโยบายเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่อ่อนตัวลงว่า ให้ทำงานบนพื้นฐานความจริง ที่ต้องช่วยวางโครงสร้างระยะยาว ส่วนปัญหาระยะสั้นขอให้ทุกคนมีความอดทนต่อปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้ชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องมาตรการแก้หนี้นอกระบบ วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2557- 30 ก.ย.2558 ซึ่งจะปล่อยกู้ไม่เกินรายละ 1 แสนบาท ดอกเบี้ย 12% ต่อปี
นอกจากนี้ยังมีโครงการ "สินเชื่ออุ่นใจคนไกลบ้าน" วงเงิน 1 พันล้านบาท ปล่อยกู้ให้บุตรของลูกค้าชั้นดีของธนาคารที่เข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ และปริมณฑล วงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 12% เพื่อป้องกันบุตรของเกษตรกรไม่ให้มีการกู้นอกระบบเพื่อมาประกอบอาชีพ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก