เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
กรมสรรพสามิต เร่งพิจารณาการยกเว้นภาษีในสินค้าประเภทเครื่องดื่ม โดยเครื่องดื่มที่ได้รับยกเว้นภาษี จะต้องเป็นเครื่องดื่มที่ใช้วัตถุดิบการเกษตรที่ปลูกในประเทศ และไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพผู้ดื่ม
วันที่ 14 สิงหาคม 2557 นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต กำลังพิจารณาการยกเว้นภาษีในสินค้าประเภทเครื่องดื่ม โดยสินค้าเครื่องดื่มที่เข้าข่ายได้รับยกเว้นภาษี จะต้องเป็นเครื่องดื่มที่ใช้วัตถุดิบการเกษตรที่ปลูกและผลิตในประเทศ และจะต้องไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพผู้ดื่มด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีเครื่องดื่มที่ได้รับการยกเว้นภาษีอยู่ประมาณ 111 รายการ โดยจะต้องผ่านเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งตามที่กรมสรรพสามิตกำหนด คือ
เป็นเครื่องดื่มที่มีการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบการเกษตรภายในประเทศ โดยจะต้องมีสัดส่วนของวัตถุดิบการเกษตรภายในประเทศ ตามที่กรมกำหนด
จะต้องเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ โดยผู้ผลิตต้องยื่นเรื่องให้กรมสรรพสามิตเป็นผู้พิจารณา
ส่วนเครื่องดื่มชาเขียวนั้น จะได้รับการยกเว้นภาษี เนื่องจากอยากให้คนไทยส่งเสริมอาชีพให้กับคนที่อยู่บนดอยสูง และส่งเสริมการปลูกป่า ดังนั้น เครื่องดื่มชาเขียวที่มีส่วนผสมของใบชาจึงได้รับการยกเว้นภาษี ส่วนเกณฑ์ด้านสุขภาพ กรมสรรพสามิตจำเป็นต้องไปตรวจสอบว่าชาเขียวแต่ละยี่ห้อมีความหวานสูงจนมีผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่
ทั้งนี้ ปัจจุบันภาษีกรมสรรพสามิต ได้แบ่งเครื่องดื่มออกเป็น 3 รายการ คือ
เครื่องดื่มประเภทโซดา จัดเก็บภาษีในอัตรา 25% หรือ 077 บาท/440 ซีซี
เครื่องดื่มทั่วไป เก็บภาษีในอัตรา 20% หรือ 0.37 บาท/440 ซีซี
น้ำผลไม้ แบ่งเป็นน้ำผลไม้ทั่วไป เก็บภาษีในอัตรา 20% หรือ 0.37 บาท/440 ซีซี ส่วนน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมตามเกณฑ์ที่กำหนดข้างต้น ได้รับการยกเว้นภาษี
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก