เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
รสนา โตสิตระกูล โพสต์ facebook คนไทยใช้น้ำมันแพง เพราะแบกต้นทุนโรงกลั่น บวกกับขายต่างชาติในราคาต่ำ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2557 เฟซบุ๊ก รสนา โตสิตระกูล ของนางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ มีการเขียนข้อความถึงราคาน้ำมันในประเทศไทยว่า สาเหตุที่ประเทศไทยมีการใช้น้ำมันราคาสูง เนื่องจากมีโรงกลั่นคุณภาพดี มีการลงทุนสร้างในปริมาณเงินที่สูง ส่งผลให้ไม่สามารถนำเข้าน้ำมันราคาถูกจากต่างประเทศได้ ไม่เช่นนั้นน้ำมันที่ผลิตก็จะขายไม่ออก ไม่คุ้มค่าต้นทุนโรงกลั่น ขณะเดียวกัน น้ำมันจากโรงกลั่นไทยก็ส่งออกไปต่างประเทศในราคาต้นทุนต่ำอีกด้วย ฉะนั้น คนไทยจึงต้องแบกรับราคาน้ำมันแทน
สำหรับข้อความทั้งหมดของนางสาวรสนา มีดังนี้
คืนนี้ (29 กรกฎาคม 2557) บังเอิญได้ฟังการสัมภาษณ์ คุณปิยะสวัสดิ์ อัมระนันท์ในรายการเผชิญหน้า ของช่องสปริงนิวส์ มีประเด็นหนึ่งที่คุณปิยะสวัสดิ์พูดในรายการว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปในไทยไม่แพง เพราะถ้าน้ำมันในประเทศแพงผู้ค้าน้ำมันก็สามารถสั่งซื้อน้ำมันจากต่างประเทศนำเข้ามาได้
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดิฉันเคยเขียนประเด็นนี้โต้คุณไพรินทร์ไปแล้วว่า น้ำมันเกรดยูโร 4 คือวิธีการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ( Non Tariff Barrier ) ที่ทำให้การนำเข้าน้ำมันราคาถูกจากประเทศอื่นเป็นไปไม่ได้
สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวชเคยมีดำริจะนำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซีย ปรากฎว่ามีเสียงคัดค้านกันระงมจากโรงกลั่นน้ำมัน ยกตัวอย่างพาดหัวข่าวจาก นสพ.มติชนวันศุกร์ 18 กรกฎาคม 2551ว่า "วงการน้ำมันชี้ น้ำมันรัสเซีย แค่โจ๊ก นำเข้าเสี่ยงคุก"
เนื้อข่าวระบุว่า "สมัคร ฉุนถูกโวยขายน้ำมันถูก อัด บ.น้ำมันได้กำไรมามาก ต้องแข่งขันบ้างทำจะเป็นจะตาย วงการน้ำมันเผย น้ำมันรัสเซีย แค่โจ๊ก เหตุไม่เคยเป็นน้ำมันจริง นึกไม่ออกว่าจะถูกกว่าราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ได้ ต้องขนส่งข้ามทะเลมากว่าครึ่งโลก และรัสเซียไม่มีทางออกทางทะเล ชี้ ไซรัส นำมาขายไทยเป็นไปไม่ได้ แม้จะทำได้และถูกจริงแต่คุณภาพน้ำมันก็ไม่ตรงสเปคจะขัดกับ พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง มีโทษถึงขั้นจำคุก"
และอีกตอนหนึ่งนายสมัครกล่าวต่อว่า "เรื่องที่จะนำน้ำมันรัสเซียเข้ามาขาย ก็วิพากษ์วิจารณ์กันมาก ทั้งที่เมื่อ 5 ปีที่แล้วก็ใช้สเปคนี้ และปัจจุบัน จีน ฟิลิปปินส์ ลาว กัมพูชาและเวียดนาม ก็ใช้ ที่จะนำเข้าก็จะขายให้เฉพาะสหกรณ์ ขายให้น้ำมันเขียวน้ำมันม่วง ไม่ได้ขายในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ "
ขนาดคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีมีดำริว่าจะนำน้ำมันราคาถูกมาขายให้คนต่างจังหวัด ก็ยังถูกจวกเสียจนต้องเลิกล้มความคิดนำเข้าน้ำมันราคาถูกที่ไม่ใช่เกรดยูโร 4 เข้ามาขายในประเทศ แล้วใครหน้าไหนจะกล้านำเข้ามาแข่ง
คำพูดของอดีตนายกฯ สมัครได้บอก อย่างชัดเจนว่าบริษัทโรงกลั่นไม่ต้องการให้มีการนำเข้าน้ำมันมาแข่งกับโรงกลั่นในประเทศ และน้ำมันในประเทศแพงเพราะไม่มีการแข่งขัน
ประเด็นชัดเจนคือคำให้สัมภาษณ์ของนายชายน้อย เผื่อนโกสุมซึ่ง เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่นในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมในขณะนั้น ให้สัมภาษณ์ นสพ.ผู้จัดการ วันที่ 14 กรกฎาคม 2551 เนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญคือ โรงกลั่นน้ำมันได้ลงทุนปรับปรุงคุณภาพไปหลายพันล้าน ถ้าขืนปล่อยให้มีการนำเข้าน้ำมันราคาถูกเข้ามาแข่งกับโรงกลั่นในประเทศ ก็จะทำให้ปริมาณน้ำมันที่กลั่นในประเทศเหลือมากขึ้น ทำให้ต้องส่งออกน้ำมันคุณภาพสูงมากขึ้น
แต่สิ่งที่นายชายน้อยไม่ได้พูดให้ชัดก็คือ โรงกลั่นต้องส่งออกน้ำมันเกรดสูงคือ ยูโร 4 ในราคาเกรดต่ำคือยูโร 2 เท่านั้น ซึ่งเงินจากราคาส่งออกจะได้น้อยกว่าขายให้คนไทยในประเทศ เพราะประเทศเพื่อนบ้านแถบนี้รวมทั้งสิงคโปร์ใช้น้ำมันเกรดยูโร 2 กันทั้งนั้น
โรงกลั่นน้ำมันจึงอยากขายคนไทยให้มากที่สุดเพื่อเอากำไรไปชดเชยจากการที่ต้องส่งออกไปแข่งขันกับบริษัทอื่น ซึ่งต้องขายราคาถูกเพื่อแข่งขัน และยังต้องขายน้ำมันเกรดสูงในราคาเกรดต่ำ ดังที่อดีตอธิบดีกระทรวงพลังงานคนหนึ่งเคยชี้แจงต่อกรรมาธิการในวุฒิสภาว่า "ต้องส่งออกน้ำมันเกรดสูงของไทยไปขายแบบขายขยะ!!" กันเลยทีเดียว
ดังนั้นสิ่งที่ประธานบอร์ด ปตท. และ CEO ปตท. พูดนั้นจึงเป็นการให้ข้อมูลต่อสาธารณชนที่เป็นจริงแค่ทางทฤษฎีเท่านั้น แต่ไม่เคยปฏิบัติได้ในโลกความจริง ประชาชนคนไทยต้องแบกรับต้นทุนน้ำมันคุณภาพสูงแบบเสียเปล่า (Quality give away) เพื่อช่วยโรงกลั่นน้ำมันสามารถกีดกันน้ำมันราคาถูกเข้ามาแข่งกับตัวเอง และยังต้องช่วยทำประชานิยมอุดหนุนราคา (Cost Subsidy) ให้กับเพื่อนบ้านทั่วอาเซียนอีกด้วย