เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
วิธีช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตให้ประหยัดเงินที่สุด เชื่อว่าทุกคนคงต้องซื้อของใช้เข้าบ้านกันทุกเดือนอยู่แล้ว แต่จะช้อปปิ้งของใช้ในบ้านอย่างไรให้เซฟเงินสุด ๆ ลองมาดูเทคนิคกัน
ทุกวันนี้เราเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพงอย่างเต็มรูปแบบ และทำท่าว่าจะติดแหง็กอยู่กับสภาวะค่าครองชีพสูงอย่างนี้อีกไม่รู้นานเท่าไร แต่ตราบใดที่เรายังต้องใช้ชีวิตอยู่ ปัจจัยทั้ง 4 ก็ยังคงต้องกินต้องใช้จริงไหมคะ ซึ่งก็แน่นอนว่าทุกอย่างหมายถึงเงินทั้งนั้น แล้วอย่างนี้จะมีวิธีไหนสามารถช่วยประหยัดเงินเวลาออกไปจับจ่ายใช้สอยได้บ้าง เรามีวิธีมาฝากกันแล้วจ้า
1. เลือกตะกร้าดีกว่ารถเข็นคันใหญ่เชื่อไหมคะว่า ขนาดของอุปกรณ์เสริมเวลาช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เราช้อปปิ้งอย่าเพลิดเพลินไปกันใหญ่ได้เหมือนกัน เนื่องจากขนาดความกว้างและสูงของรถเข็นจะทำให้เราเห็นของที่อยู่ในนั้นมีจำนวนน้อยกว่าความเป็นจริง คราวนี้ก็เลยหยิบสินค้ามาเติมอีกเรื่อย ๆ รู้ตัวอีกทีก็ตอนจ่ายเงินโน่นล่ะ ดังนั้นคงดีกว่าหากเราจะใช้ตะกร้าช้อปปิ้งแทนรถเข็นคันใหญ่ แต่ถึงแม้จะเป็นตระกร้าใบเล็ก ก็ไม่จำเป็นต้องช้อปสินค้าให้เต็มตะกร้านะคะ ซื้อเท่าที่จำเป็นต้องกินต้องใช้ก็พอ
2. เปรียบเทียบราคาสินค้าจากไข่ไก่ เนื้อสัตว์ และผักก่อนในกรณีที่คุณต้องการสำรวจราคาสินค้า เปรียบเทียบราคากับห้างอื่น ๆ ว่าถูกหรือแพงกว่ากันมากน้อยแค่ไหน แนะนำให้ตรงดิ่งไปยังแผนกไข่ไก่ เนื้อสัตว์ และผัก เป็นอันดับแรก เนื่องจากปกติแล้วสินค้าเหล่านี้จะมีราคาขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา เพราะเป็นสินค้าอุปโภคที่ติดอันดับความนิยมสูงสุด และหากคุณมีเวลาอาจจะจดบันทึกราคาสินค้าแต่ละชนิดลงกระดาษ หรือสมาร์ทโฟน เพื่อเอาไปเปรียบเทียบราคากับห้างอื่น ๆ ด้วยก็ได้
3. เดินช้อปบริเวณโซนกลางก่อนดีกว่าบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าของห้างสรรพสินค้าเกือบทุกห้างจะมีการตกแต่งสีสันสดใส เป็นหลักทางจิตวิทยาช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้ผู้บริโภคเกิดความคึกคักในการช้อปปิ้งมากขึ้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้หลงกลทงจิตวิทยาเล็ก ๆ เหล่านี้ เราเดินเลี่ยงไปช้อปสินค้าในโซนกลางห้างก่อนดีกว่าเนอะ
4. พยายามอย่าสนใจสินค้าตรงเคาน์เตอร์คิดเงินเคยสังเกตไหมคะว่า บริเวณเคาน์เตอร์คิดเงินของซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งหลายมักจะเป็นช่องแคบ ๆ พร้อมกับมีชั้นวางสินค้ากระจุกกระจิก เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม ถ่านไฟฉาย น้ำอัดลม และไอศกรีมในตู้เรียงรายขนาบข้าง หรือตั้งเด่นอยู่ข้างหน้า ซึ่งจุดนี้ก็ไม่ต่างจากทริคการจูงใจด้วยสีสันนะคะ เพราะตามหลักจิตวิทยาแล้ว พื้นที่ขนาดแคบจะทำให้เรารู้สึกคิดวนไปวนมาเกี่ยวกับสินค้า โดยที่ตาก็เหลือบไปเห็นสินค้ากระจุกกระจิกวางยั่วอยู่ไม่ห่าง จนในที่สุดก็สะกดจิตตัวเองให้หยิบสินค้าเหล่านั้นติดมือกลับบ้านไปด้วยซะอย่างนั้น
5. ฟังเพลงจังหวะคึกคักระหว่างเดินช้อปปิ้งซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนมากจะเปิดเพลงจังหวะสบาย ๆ คลออยู่ตลอดเวลา นั่นก็เพราะว่าเสียงเพลงในจังหวะเบาสบายจะช่วยกระตุ้นให้ขาช้อปเดินเลือกสินค้าอย่างรื่นรมย์ยิ่งขึ้น ผลักดันให้มีอารมณ์พิจารณาสินค้าแต่ละส่วนอย่างละเอียดถี่ถ้วนกว่าเดิม สุดท้ายก็ต้องหลงกลหยิบจับสินค้าบางชนิดมาใส่ในตระกร้าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยก็ 1-2 อย่าง ซึ่งในเมื่อเป็นอย่างนี้ ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้คุณฟังเพลงจังหวะเร็ว ๆ ตลอดการเดินช้อปปิ้งไปเลยดีกว่า เพราะเสียงเพลงเร้าใจจะทำให้เราคึกคักและเดินช้อปสินค้าด้วยความรวดเร็วขึ้นนั่นเอง
6. อย่าหลงกลป้ายลดราคาในแต่ละเดือนทางซูเปอร์มาร์เก็ตจะจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าในบางหมวดหมู่ หรือไม่ก็จัดโปรซื้อ 1 แถม 1 ซื้อแพคคู่ถูกกว่า เป็นต้น ซึ่งบางครั้งขาช้อปทั้งหลายก็เห็นแก่ของถูก หยิบสินค้าลดราคาเหล่านั้นติดมือกลับบ้านมาด้วย ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วก็ไม่ค่อยมีความจำเป็นต้องใช้สินค้าเหล่านั้นเท่าไร ฉะนั้นอย่าหลงกลสินค้าลดราคาเลยนะคะ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้สินค้าลดราคาเหล่านั้นก็ถือว่าได้กำไรไป
7. เช็กสินค้าลดราคาดี ๆบางทีเราก็เจอจังหวะดี มีสินค้าที่ใช้ประจำจัดโปรโมชั่นลดราคาอยู่พอดี แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อควรตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างถี่ถ้วนด้วยนะคะ เพราะหากมีตำหนิหรือเป็นของสดที่ใกล้หมดอายุ ซื้อไปก็คงไม่คุ้มค่าเท่าไร สู้ซื้อสินค้าในราคาปกติไม่ได้แน่ ๆ
8. ใช้คูปองสมนาคุณอย่างเหมาะสมห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตก็มักจะมีคูปองสมนาคุณมาให้คุณลูกค้าได้จับจ่ายใช้สอย เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับผู้บริโภคกันบ้าง ซึ่งคูปองเหล่านี้บางทีก็ได้มาเป็นเงินสด สามารถซื้อสินค้าได้หลากหลายชนิด แต่บางครั้งก็มีเงื่อนไขการใช้งาน ซึ่งจุดนี้ก็ควรต้องตรวจสอบกันก่อนจะนำคูปองไปใช้ด้วย เพราะบางคูปองมีเงื่อนไขว่าต้องซื้อสินค้าครบ 300 บาทก่อน จึงจะใช้คูปองเงินสดได้ เป็นต้น
9. ของสดบางอย่าง ซื้อที่ตลาดถูกกว่าถ้าจะพูดถึงคุณภาพสินค้า บางครั้งก็ต้องยอมรับว่าของสดในห้างสรรพสินค้าดูสะอาด ปลอดภัย และน่าเชื่อถือมากกว่าตลาดสดทั่วไป แต่หากเป็นของสดบางประเภท เช่น เนื้อสัตว์ หรือผักบางอย่าง เชื่อเถอะค่ะว่าซื้อในตลาดจะได้ราคาถูกกว่าซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตหลายเท่าเลยทีเดียว
10. ซื้อชิ้นใหญ่ถูกกว่าผลไม้บางอย่าง เช่น แตงโม หรือทุเรียน มักจะถูกขายทั้งในแบบตัดแต่งใส่กล่อง ผ่านการซีลอย่างสวยงาม และแบบขายเป็นลูก ๆ โดยไม่ตัดแต่งใด ๆ เลย แต่ถ้าลองคำนวณดูแล้วจะเห็นได้เลยว่า ซื้อแบบเป็นลูกจะคุ้มกว่า แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี ถ้าอยู่คนเดียวและกลัวว่าจะกินผลไม้ไม่หมด ผลไม้แบบตัดแต่งมาแล้วอาจจะคุ้มค่ากว่า แต่หากเป็นครอบครัวใหญ่ ซื้อผลไม้เป็นลูกน่าจะคุ้มกว่านะคะ
ในเมื่อเราต้องออกไปซื้อสินค้า และอาหารเข้าบ้านกันเป็นประจำอยู่แล้ว ยังไงก็อย่าลืมนำเคล็ดลับประหยัดเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ไปทำตามกันด้วยนะจ๊ะ คราวนี้จะได้มีเงินเหลือในกระเป๋ากันมากยิ่งขึ้นเนอะ
