x close

ต้องดูอะไรก่อนลดหย่อนภาษีด้วย LTF


ต้องดูอะไรก่อนลดหย่อนภาษีด้วย LTF


ต้องดูอะไรก่อนลดหย่อนภาษีด้วย LTF (Investing LTF for Beginner) (ธนาคารกสิกรไทย)

            เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปี หลายคนที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีคงเริ่มมองหาสิทธิลดหย่อนภาษีต่าง ๆ โดยสิทธิลดหย่อนภาษีทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก คือ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ทั้งนี้ ก่อนจะลงทุนในกองทุน LTF สักกองทุนหนึ่ง ก็มีปัจจัยสำคัญที่เราต้องคำนึงถึง ดังนี้

ดูเงื่อนไขการลงทุน

            LTF เป็นกองทุนที่ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยผู้ลงทุนสามารถนำเงินที่ลงทุนในกองทุน LTF ไปลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้น ผู้ที่ลงทุนในกองทุน LTF ต้องเป็นผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ประจำปี ซึ่งมีเงื่อนไขในการลงทุนดังนี้

            ลงทุนได้ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้ และไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

            ถือลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน

            ซื้อปีไหนได้รับการลดหย่อนภาษีในปีนั้น โดยไม่จำเป็นจะต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี

            ยกตัวอย่างเช่น สมมติว่าปี 2556 มีเงินได้รวมทั้งปี 1,000,000 บาท จะสามารถลงทุนในกองทุนรวม LTF ได้สูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท x 15% = 150,000 บาท และเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขการลงทุน ยอดเงินลงทุนของปี 2556 ต้องถือลงทุนไปจนถึงปี 2560 (นับปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่ลงทุน เป็นปีที่ 1) จึงจะมีสิทธิขายคืนหน่วยลงทุนได้โดยไม่ผิดเงื่อนไข

            ดังนั้น ก่อนลงทุนในกองทุนรวม LTF เพื่อลดหย่อนภาษี ผู้ลงทุนควรประเมินเงินได้รวมทั้งปี เพื่อคำนวณสิทธิซื้อหน่วยลงทุน LTF จะได้ไม่ซื้อเกินสิทธิสูงสุดที่สามารถซื้อได้ค่ะ


ดูระดับความเสี่ยง

            กองทุน LTF ทุกกองมีนโยบายลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผู้ลงทุนจึงควรรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นได้ ทั้งนี้ กองทุน LTF มีทั้งประเภทที่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น และประเภทที่ไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น

            หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากหุ้นมากนัก อาจเลือกกองทุน LTF ที่มีการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น เช่น กองทุน LTF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกินร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

            หากรับความเสี่ยงได้สูง สามารถเลือกกองทุน LTF ที่ไม่มีการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น ซึ่งมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่ต้องยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันค่ะ


ดูนโยบายจ่ายเงินปันผล

            ผู้ลงทุนในกองทุน LTF มีโอกาสได้รับผลตอบแทน 2 ทางคือ กำไรส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุน (Capital Gain) ในกรณีที่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในราคาสูงกว่าราคาที่ซื้อมา และเงินปันผล (Dividend) โดยผลตอบแทนในรูปเงินปันผลขึ้นอยู่กับกองทุน LTF ว่ามีนโยบายจ่ายเงินปันผลหรือไม่ ซึ่งมีข้อดีแตกต่างกันคือ

            กองทุน LTF ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล นอกจากผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับกำไรจากส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุนแล้ว ยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เป็นเงินปันผลระหว่างที่ต้องถือหน่วยลงทุนเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน

            สำหรับกองทุน LTF ที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเพียงอย่างเดียวในรูปของกำไรจากส่วนต่างมูลค่าหน่วยลงทุน แต่มีข้อดีคือ ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับทั้งหมดไม่ต้องเสียภาษี ในขณะที่ผลตอบแทนในรูปเงินปันผล จะต้องเสียภาษี โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะให้หักภาษี ณ ที่จ่ายร้อยละ 10 หรือเลือกนำไปรวมกับเงินได้ประจำปีเพื่อเสียภาษีตามฐานภาษีค่ะ

            ผู้ที่ต้องเสียภาษีสามารถลงทุนในกองทุน LTF เพื่อลดหย่อนภาษีได้ แต่อย่าลืมว่ากองทุน LTF มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้น ดังนั้น ควรรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นได้ และอย่าลืมตรวจสอบสิทธิที่สามารถลงทุนได้ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของการลงทุนนะคะ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับที่ปรึกษาส่วนบุคคล ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com และ เว็บบอร์ด K-Expert ซึ่งจัดทำขึ้นผ่านทางเว็บไซต์ www.askKBank.com/K-Expert และติดตามข่าวสารการเงินได้ที่ Twitter @KBank_Expert



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก






เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ต้องดูอะไรก่อนลดหย่อนภาษีด้วย LTF อัปเดตล่าสุด 25 ธันวาคม 2556 เวลา 17:14:41
TOP