x close

คลังสะอื้นจีดีพีหดไม่ถึง 3% ชี้โครงสร้างภาษีใหม่ปลุกใช้จ่าย


คลังสะอื้นจีดีพีหดไม่ถึง 3% ชี้โครงสร้างภาษีใหม่ปลุกใช้จ่าย

คลังสะอื้นจีดีพีหดไม่ถึง3% ชี้โครงสร้างภาษีใหม่ปลุกใช้จ่าย (ไทยโพสต์)


           คลังสะอื้น จีดีพีปี 56 โตแผ่วไม่ถึง 3% ส่งออก 0% อ้างการเมืองแรงฉุดท่องเที่ยวสะดุด เบิกจ่ายต่ำเป้า คลังกุมขมับการเมืองร้อนกระทบรีดรายได้ มองภาษีมนุษย์เงินเดือนช่วยใช้จ่ายเพิ่ม 2.7 หมื่นล้านบาท

           วันนี้ (16 ธันวาคม 2556) นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ สศค. จะสรุปภาพรวมภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2556 รวมถึงปรับประมาณการเศรษฐกิจปีหน้าใหม่ โดยในเบื้องต้นคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้เติบโตต่ำกว่า 3% ส่วนการส่งออกคาดว่าไม่เติบโต ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินไว้ว่าอยู่ที่ 0%

           "ก่อนหน้านี้ สศค.ประเมินว่าเศรษฐกิจปีนี้จะโตได้ในระดับ 3.7% หรือมีช่วงคาดการณ์ที่ 3.5-4% ซึ่งการส่งออกทั้งปีต้องอยู่ที่ 1.8% แต่จากสถานการณ์การเมืองในช่วงปลายปีทำให้นักท่องเที่ยวปรับลดลง การเบิกจ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจต่ำกว่าที่คาดไว้" นายสมชัยกล่าว

           สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2557 นั้นคงต้องปรับเป้าหมายลงจากเดิมคาดว่าจะโต 5.1% ส่วนการส่งออกคาดว่าจะโตกว่าในปี 2556 แต่จะถึงเป้าหมายเดิม 7.5% หรือไม่นั้นคงต้องดูตัวเลขอีกครั้ง โดยเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2557 คือการลงทุนจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งหวังว่าการเมืองจะไม่ยืดเยื้อ โดยขณะนี้ต่างชาติก็ยังไม่ตื่นตระหนกกับปัญหาการเมือง เพราะไม่มีการปฏิวัติหรือนองเลือด

           ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุนภาครัฐนั้นเดิมทีหวังให้การลงทุนจากโครงการ 2 ล้านล้านบาท และลงทุนน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะมีเม็ดเงินจากโครงการลงทุน 2 ล้านล้านบาทออกมาในปี 2557 ประมาณ 1.2 แสนล้านบาท และลงทุนน้ำอีกหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งจะสร้างผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจถึง 1% แต่เมื่อทั้ง 2 โครงการชะลอย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่จะกระทบเท่าใดนั้นต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย ยังไม่อยากประเมินหรือให้ตัวเลขอะไรตอนนี้

           ด้าน นางเบญจา หลุยเจริญ รักษาการ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า ยอมรับว่าการชุมนุมทางการเมืองส่งผลให้การจัดเก็บภาษีในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาลดต่ำลง แต่ในฐานะรัฐบาลรักษาการคงดำเนินการเกี่ยวกับนโยบายด้านภาษีไม่ได้ คงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาดำเนินการ แม้ว่าฝ่ายการเมืองจะทำอะไรไม่ได้ในช่วงนี้ แต่ฝ่ายราชการทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กรมภาษีทั้ง 3 แห่ง คือ สรรพากร ศุลกากร สรรพสามิต ต้องเตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีในช่วงที่เหลือของปีงบ 2557 ไว้เสนอต่อรัฐบาลชุดใหม่

           สำหรับการปรับโครงร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น คาดว่าจะมีผลกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี เพราะภาษีลดลง และทำให้ผู้มีรายได้มีเงินในมือถึง 2.6-2.7 หมื่นล้านบาท ที่จะนำไปใช้จ่าย ซึ่งกระทรวงการคลังอยากให้บริษัทเอกชน หน่วยงานต่างๆ คำนวณอัตราภาษีใหม่ในเงินเดือนงวดเดือนธันวาคม 2556 ทันที เพื่อให้พนักงานมีเงินเหลือมากขึ้น และจะทำให้เงินเข้ามาหมุนในระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว

           ทางด้าน นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ตั้งแต่ต้นปีจนถึงต้นเดือนธันวาคม 2556 เบิกจ่ายเงินไปแล้ว จำนวน 527,336 ล้านบาท คิดเป็น 20.88% ของวงเงินงบประมาณ โดยรวมเงินที่รัฐวิสาหกิจขอเบิกไปแล้วจำนวน 109,000 ล้านบาท โดยคาดว่าสิ้นเดือนธันวาคม 2556 จะสามารถเบิกจ่ายได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดคือ 22% ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในปีนี้ได้ถึงประมาณ 700,000 ล้านบาท หรือ 27.72% ของวงเงินงบประมาณ 2,525,000 ล้านบาท


ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คลังสะอื้นจีดีพีหดไม่ถึง 3% ชี้โครงสร้างภาษีใหม่ปลุกใช้จ่าย อัปเดตล่าสุด 17 ธันวาคม 2556 เวลา 14:51:23
TOP