x close

IMF เตือนไทย เลิกจำนำข้าว-ประชานิยม ลดภาระคลัง


IMF เตือนไทย เลิกจำนำข้าว-ประชานิยม ลดภาระคลัง


IMF เตือนไทย ยกเลิกจำนำข้าว ลดภาระคลัง (ไทยโพสต์)

            ไอเอ็มเอฟ เตือนรัฐบาลไทยเลิกจำนำข้าว ลดภาระทางการคลัง แนะจ่ายเงินเพื่อช่วยชาวนาที่ยากจนโดยตรงแทน ยรรยง สวนทันที เดินหน้าต่อ อ้างเทียบการช่วยเหลือสินค้าเกษตรกับประเทศอื่นแล้ว ไทยมีสัดส่วนช่วยเหลือไม่ได้สูงมาก

            เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ออกรายงานเศรษฐกิจไทยเสนอให้รัฐบาล ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต จาก 7% เป็นระดับใกล้เคียงประเทศเพื่อนบ้านที่ 10% ให้ขึ้นภาษีทรัพย์สิน และตัดค่าลดหย่อนทางการภาษีบุคคลธรรมดา เพื่อเพิ่มรายได้ภาษีให้มากขึ้น

            โดยรัฐบาลกลางจะขาดดุลงบประมาณเพิ่มเป็น 3.4 % ต่อจีดีพีในปีนี้ เพิ่มจาก 1.7% ต่อจีดีพี ในปี 2554 และหนี้สาธารณะจะเกิน 53% ของจีดีพี ภายในปี 2561 ในขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะรักษาหนี้สาธารณะไว้ไม่ให้เกิน 50% ต่อจีดีพี และทำให้งบประมาณสมดุลภายในปี 2560 ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของไทยปีนี้จะขยายตัวในระดับต่ำที่ 3.1% แต่เติบโตสูงขึ้นเป็น 5.2% ในปีหน้า

            ทั้งนี้ ข้อมูลจีดีพีที่จะเผยแพร่ออกมาในสัปดาห์หน้า คาดหมายว่า ชาติเศรษฐกิจหมายเลข 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ จะหลุดพ้นจากภาวะถดถอย แต่การส่งออกซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 60 ของเศรษฐกิจโทยและการบริโภคของเอกชน ยังคงอ่อนแอ ซึ่งเหล่านักวิเคราะห์คาดคะเนว่า รัฐบาลจำเป็นต้องใช้จ่ายเพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างเข้มแข็ง แม้ว่ารัฐบาลไทยบอกว่าที่มั่นทางการเงินยังคงแข็งแกร่ง แต่ไอเอ็มเอฟมองว่า การใช้จ่ายในโครงการประชานิยมต่าง ๆ นานา กำลังทำให้คำมั่นสัญญาสร้างสมดุลทางงบประมาณตกอยู่ในความเสี่ยง

            ไอเอ็มเอฟ ยังระบุว่า เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายงบประมาณสมดุล รัฐบาลจึงต้องหารายได้เพิ่มด้วยการขึ้นภาษีและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และให้รัฐบาลยกเลิกโครงการรับจำนำข้าว เพื่อลดภาระทางการคลัง โดยเสนอให้รัฐบาลจ่ายเงินโดยตรงเพื่อช่วยเหลือชาวนาที่ยากจนแทนการรับซื้อข้าวในราคาสูงกว่าตลาดดังเช่นที่รัฐบาลปฏิบัติอยู่ในขณะนี้ ไอเอ็มเอฟยังเสนอให้ยุติการอุดหนุนราคาพลังงาน

            นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับปกติ หากมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้น โดยดอกเบี้ยนโยบายของไทยขณะนี้อยู่ที่ 2.5% ซึ่งไอเอ็มเอฟและธนาคารแห่งประเทศเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติ

            แต่นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนกรานว่า การดำเนินโครงการรับจำนำยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และเมื่อเทียบสัดส่วนการช่วยเหลือสินค้าเกษตรของไทยกับประเทศอื่น ๆ จะพบว่าไทยมีสัดส่วนการช่วยเหลือที่ไม่ได้สูงมาก และเมื่อเทียบกับเงินสำรองที่ไทยมีอยู่ ไทยยังมีฐานะทางการคลังที่ดี

            อย่างไรก็ตาม การที่โครงการรับจำนำใช้เงินในการดำเนินโครงการแล้ว 6 แสนล้านบาทนั้น เป็นการดำเนินโครงการในช่วงเวลานาน 3 ปี ซึ่งยังเป็นไปตามกรอบการใช้เงินที่มติคณะรัฐมนตรีให้ไว้คือ ไม่เกิน 5 แสนล้านบาท ใน 2 ปี แบ่งเป็นเงินหมุนเวียนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 9 หมื่นล้านบาท และเงินกู้โดยรัฐบาลค้ำประกัน 4.1 แสนล้านบาท และกำหนดให้มีการขาดทุนจากการดำเนินโครงการไม่เกินปีละ 8 หมื่น-1 แสนล้านบาท

            นายยรรยง กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) เพื่อพิจารณาเรื่องการช่วยเหลือข้าวสารให้ประเทศฟิลิปปินส์ที่ได้ประสบภัยธรรมชาติ เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์อาจเสนอให้บริจาคข้าวที่มีคุณภาพในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อเป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ฟิลิปปินส์เป็นผู้ซื้อข้าวใหญ่อันดับสองของอาเซียนเฉลี่ยปีละหลายล้านตัน และประเทศอาเซียนด้วยกัน นอกจากนี้ ที่ประชุมจะหารือการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเรื่องต่าง ๆ หลังเปิดโครงการมาแล้วมากกว่า 1 เดือน
 




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
IMF เตือนไทย เลิกจำนำข้าว-ประชานิยม ลดภาระคลัง อัปเดตล่าสุด 13 พฤศจิกายน 2556 เวลา 15:40:07
TOP