เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Kittiratt Na-Ranong (กิตติรัตน์ ณ ระนอง)
กิตติรัตน์ เตรียมชง ครม. ออกพระราชกฤษฎีกาปรับโครงสร้างภาษีใหม่ให้ทันภายใน พ.ย. นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในปีภาษี 56 เผยโครงสร้างใหม่เก็บภาษีลดลงจากเดิม
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แก้ไขอัตราโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาฉบับใหม่ ให้มีผลบังคับใช้ได้ทันในปีภาษี 56 นี้ หลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ตามมาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ที่ผ่านการเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ยังไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจากรัฐสภาได้ทัน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่า การปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีเงินได้ครั้งนี้ จะมีผลกระทบต่อรายได้ภาษีอากรในปีงบ 56 ประมาณ 27,000 ล้านบาท แต่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภค และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว โดยร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว ได้กำหนดให้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิในจำนวนต่าง ๆ เสียภาษีตามอัตราต่อไปนี้
ไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี
ตั้งแต่ 150,001-300,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 5%
ตั้งแต่ 300,001-500,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 10%
ตั้งแต่ 500,001-750,000 เสียภาษีในอัตรา 15%
ตั้งแต่ 750,001-1,000,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 20%
ตั้งแต่ 1,000,000-2,000,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 25%
ตั้งแต่ 2,000,000-4,000,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 30%
ตั้งแต่ 4,000,000 บาทขึ้นไป เดิมเสียในอัตรา 37%
สำหรับห้างหุ้นส่วนสามัญเสียในอัตรา 20% ขณะที่คณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ให้เสียภาษีจากรายได้พึงประเมิน 20% เช่นกัน โดยให้มีผลบังคับใช้ในปีภาษี 56 ที่จะยื่นในปี 57 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวว่า ในส่วนของข้อเสนอให้เพิ่มวงเงินรายจ่ายเพื่อหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิมที่หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็น 120,000 บาทต่อปี เพื่อใช้หักจากรายได้ประจำปีนั้น ยังไม่ได้เสนอให้ ครม. พิจารณา เพราะต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก