กรมสรรพากร ประกาศเตรียมเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับคนที่มีรายได้จากการปล่อยเช่าบ้าน คอนโด และเช่าที่ดิน เร่งประสานขอเชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศ ตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ของแต่ละคน ใครเลี่ยงเจอโทษ
วันที่ 2 มกราคม 2563 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เผยว่า ในปี 2563 สรรพากรจะเรียกเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคล สำหรับคนที่มีรายได้จากการปล่อยเช่าบ้าน คอนโดมิเนียม และเช่าที่ดิน โดยจะเร่งประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งเทศบาล อบต. กรุงเทพมหานคร และพัทยา เพื่อขอเชื่อมโยงข้อมูลที่มีการลงไปสำรวจทั่วประเทศตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มาใช้วิเคราะห์ตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ของแต่ละคน ว่ามีการนำรายได้จากการปล่อยเช่ามาคำนวณเป็นเงินได้ เสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้ โดยปกติผู้มีรายได้จากการปล่อยเช่า จะต้องนำค่าเช่ามาคำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีทุกปีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมายอมรับว่ามีบางส่วนยังหลบเลี่ยงอยู่ แต่ในขณะนี้ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อปท.) ได้ลงไปสำรวจข้อมูลอย่างละเอียด ก็จะรู้ว่าพื้นที่ไหนใช้ประโยชน์แบบใด ใครปล่อยให้เช่า ใครใช้พักอาศัยจริง หรือใช้ค้าขายเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากต่อกรมสรรพากร จึงจะขอเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้มาใช้วิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูลการเก็บภาษีอื่น ๆ
อาทิ หากใครมีเงินโอนเข้าบัญชีทุกต้นเดือน 5,000 บาท ซึ่งตรงกับข้อมูลของ อปท. ว่าบุคคลนี้มีบ้านให้เช่า 1 หลัง สรรพากรก็จะไปตรวจดูว่าเป็นเงินค่าเช่าจริงหรือไม่ และนำเงิน 5,000 บาท มาคิดเป็นรายได้เพื่อภาษีอยู่หรือเปล่า หากทำถูกต้องก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากหลบเลี่ยงก็ต้องถูกลงโทษเข้ามาเสียภาษีให้ถูกต้อง
ส่วนความคืบหน้า การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย ได้ยืนยันจะไม่ให้เจ้าของบ้านเช่า คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน ต้องเสียภาษีค่าเช่าในอัตราเชิงพาณิชย์ ที่เริ่มต้นที่ล้านละ 3,000 บาท แต่ให้เสียภาษีตามประโยชน์ที่ใช้จริง ซึ่งเสียภาษีถูกกว่า เช่น
- ปล่อยเช่าบ้านเพื่อพักอาศัย เสียภาษีล้านละ 200 บาท
- ปล่อยเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตร เสียล้านละ 100 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
วันที่ 2 มกราคม 2563 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เผยว่า ในปี 2563 สรรพากรจะเรียกเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคล สำหรับคนที่มีรายได้จากการปล่อยเช่าบ้าน คอนโดมิเนียม และเช่าที่ดิน โดยจะเร่งประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งเทศบาล อบต. กรุงเทพมหานคร และพัทยา เพื่อขอเชื่อมโยงข้อมูลที่มีการลงไปสำรวจทั่วประเทศตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มาใช้วิเคราะห์ตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ของแต่ละคน ว่ามีการนำรายได้จากการปล่อยเช่ามาคำนวณเป็นเงินได้ เสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้ โดยปกติผู้มีรายได้จากการปล่อยเช่า จะต้องนำค่าเช่ามาคำนวณเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีทุกปีอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมายอมรับว่ามีบางส่วนยังหลบเลี่ยงอยู่ แต่ในขณะนี้ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อปท.) ได้ลงไปสำรวจข้อมูลอย่างละเอียด ก็จะรู้ว่าพื้นที่ไหนใช้ประโยชน์แบบใด ใครปล่อยให้เช่า ใครใช้พักอาศัยจริง หรือใช้ค้าขายเชิงพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากต่อกรมสรรพากร จึงจะขอเชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้มาใช้วิเคราะห์ร่วมกับฐานข้อมูลการเก็บภาษีอื่น ๆ
อาทิ หากใครมีเงินโอนเข้าบัญชีทุกต้นเดือน 5,000 บาท ซึ่งตรงกับข้อมูลของ อปท. ว่าบุคคลนี้มีบ้านให้เช่า 1 หลัง สรรพากรก็จะไปตรวจดูว่าเป็นเงินค่าเช่าจริงหรือไม่ และนำเงิน 5,000 บาท มาคิดเป็นรายได้เพื่อภาษีอยู่หรือเปล่า หากทำถูกต้องก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่หากหลบเลี่ยงก็ต้องถูกลงโทษเข้ามาเสียภาษีให้ถูกต้อง
ส่วนความคืบหน้า การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย ได้ยืนยันจะไม่ให้เจ้าของบ้านเช่า คอนโดมิเนียม หรือที่ดิน ต้องเสียภาษีค่าเช่าในอัตราเชิงพาณิชย์ ที่เริ่มต้นที่ล้านละ 3,000 บาท แต่ให้เสียภาษีตามประโยชน์ที่ใช้จริง ซึ่งเสียภาษีถูกกว่า เช่น
- ปล่อยเช่าบ้านเพื่อพักอาศัย เสียภาษีล้านละ 200 บาท
- ปล่อยเช่าที่ดินเพื่อทำการเกษตร เสียล้านละ 100 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
