x close

ชี้ช่องทำเงิน ปลูกผักขายหารายได้เสริม ทุนน้อยก็สร้างอาชีพได้

           แนะนำ 5 ผักปลูกง่าย รายได้ดี ไว้เป็นช่องทางสร้างอาชีพ ถึงเป็นมนุษย์เงินเดือนทุนน้อย ก็ปลูกผักทำเงินได้ 
           ช่วงนี้เริ่มเห็นมนุษย์เงินเดือนหันมาเอาดีทำการเกษตรกันเยอะเลย โดยเฉพาะการปลูกผักขายเป็นรายได้เสริม บางคนก็ถึงขนาดออกมาเปิดฟาร์มทำแบบจริงจังกันเลยก็มี ส่วนใครที่สนใจแต่อาจจะยังลังเลไม่รู้จะปลูกอะไรดี วันนี้ กระปุกดอทคอม มีตัวเลือก 5 ผักปลูกง่าย กำไรดี สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นมาฝาก

1. เพาะเห็ดฟางในตะกร้า

ปลูกผักขาย

           คนไทยนิยมบริโภคกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยเฉพาะเห็ดฟาง ซึ่งตลาดมีความต้องการอยู่ตลอด ที่สำคัญเป็นเห็ดที่เพาะง่าย หากมีระบบจัดการดี ๆ ก็สามารถสร้างผลผลิตตลอดทั้งปีเลย

ต้นทุนอุปกรณ์ค่าใช้จ่าย  
           - ตะกร้าพลาสติก ใบละประมาณ 40 บาท
           - หัวเชื้อเห็ดฟาง 15 บาท (ใช้ได้ 2-3 ตะกร้า)
           - อาหารเสริม เช่น ฟางข้าว ผักตบชวา เลื่อย เปลือกมันสำปะหลัง หรือซื้อสำเร็จรูปถุงละประมาณ 30 บาท
           - สุ่มไก่ ใบละ 200-250 บาท หรือจะสร้างเป็นโรงเรือนแบบมาตรฐานก็ได้
 
การเก็บเกี่ยวผลผลิต
           เห็ดฟางจะเริ่มเก็บผลผลิตได้ในวันที่ 8-9 ของการเพาะ และเก็บต่อได้อีกประมาณ 5 วัน รวมผลผลิตต่อตะกร้าอยู่ที่ราว 2 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย โดยเห็ดฟางจะออกดีในอากาศร้อนชื้น  

ราคาและช่องทางจัดจำหน่าย  
           ราคาเห็ดฟางจะอยู่ในช่วง 50-100 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าเป็นฤดูหนาวเห็ดฟางมักมีราคาสูงขึ้นกว่าช่วงอื่น ๆ เนื่องจากผลผลิตออกมาน้อย แต่ความต้องการบริโภคมีตลอดทั้งปี  
           สำหรับช่องทางขาย โดยปกติจะมีคนมาติดต่อซื้อถึงหน้าฟาร์มทุกวันอยู่แล้ว แต่ราคาจะไม่ดีเท่ากับการนำไปขายส่งในตลาด หรือส่งตามห้างสรรพสินค้าด้วยตัวเอง นอกจากนี้หากนำเห็ดฟางไปแปรรูป เช่น อบแห้ง ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าขึ้นไปอีก

 

2. ต้นอ่อนทานตะวัน

ปลูกผักขาย

           เป็นผักที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง ด้วยรสชาติและประโยชน์ของต้นอ่อนทานตะวันที่เข้ากับเทรนด์สุขภาพของคนยุคนี้สุด ๆ ทำให้ธุรกิจปลูกต้นอ่อนทานตะวันกำลังเฟื่องฟู ขายดีมีกำไรกันไม่น้อยเลย  

ต้นทุนอุปกรณ์ค่าใช้จ่าย  
           - ถาดสำหรับปลูก ใบละ 30-40 บาท
           - ดินปลูก ถุงละ 10 บาท  
           - เมล็ดทานตะวัน กิโลกรัมละ 50-100 บาท (ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ซื้อ)  

การเก็บเกี่ยวผลผลิต
           ต้นอ่อนทานตะวันจะใช้เวลาโตเต็มที่พร้อมเก็บเกี่ยว 5-7 วัน นับจากวันที่ลงภาชนะปลูก โตได้ดีในที่อากาศเย็น โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่ผลผลิตจะมีคุณภาพมากที่สุด สำหรับเมล็ดทานตะวัน 1 กิโลกรัม จะได้ต้นอ่อน 4-5 กิโลกรัม
 
ราคาและช่องทางจัดจำหน่าย  
           ราคาขายส่งต้นอ่อนทานตะวันอยู่ที่ 80-100 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ดี หากมีลูกค้ากลุ่มร้านอาหารเพื่อสุขภาพและสามารถส่งขายตามออร์เดอร์ได้ ราคาก็จะสูงถึง 120 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นไป

 

3. ผักสลัดไฮโดรโปนิกส์

ปลูกผักขาย

            วิธีปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ แบบไม่ต้องใช้ดินแต่ใช้น้ำแทน กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ เพราะประหยัดเนื้อที่ แถมยังได้ผักปลอดสารพิษ ลดโอกาสปนเปื้อนของสารเคมีต่าง ๆ ที่อยู่ในดินอีกด้วย จึงทำให้ผักไฮโดรโปนิกส์มีราคาสูง น่าลงทุนทีเดียว

ต้นทุนอุปกรณ์ค่าใช้จ่าย  
            - โรงเรือนและรางปลูก ต้นทุนขึ้นอยู่กับวัสดุและขนาด หรือเลือกซื้อชุดปลูกสำเร็จรูป ราคาเริ่มต้น 500 บาท จนถึงหลักหมื่น

            - เมล็ดพันธุ์ผักสลัดถุงละ 15-20 บาท (300-500 เมล็ด)
            - ปุ๋ยลิตรละประมาณ 100 บาท

การเก็บเกี่ยวผลผลิต
            เริ่มเก็บขายได้หลังผักอายุ 45 วัน โดยผักสลัดทุกชนิดชอบอากาศเย็น ทำให้โตและมีน้ำหนักดีในช่วงหน้าหนาว ตรงกันข้ามหากอากาศร้อนจัด อาจจะไม่มีผลิตออกมาสู่ท้องตลอดเลยก็มี

ราคาและช่องทางจัดจำหน่าย  
            ราคาขึ้นอยู่กับผลผลิตที่ออกมาสู่ตลาด โดยหน้าร้อนราคาจะสูงมาก ส่วนหน้าหนาวราคาจะถูกลง อย่างผักกรีนโอ๊ค ราคาขายส่งหน้าฟาร์มเฉลี่ยอยู่ที่ 80-120 บาทต่อกิโลกรัม แต่หากส่งตามร้านอาหาร หรือโมเดิร์นเทรด ที่เน้นคุณภาพผักสดใหม่และปลอดสารพิษ ราคาขายก็จะสูงขึ้นอีก 20-30%

4. ผักชี

ปลูกผักขาย

           ผักสวนครัวที่ทุกบ้านต้องมี ใส่ในอาหารได้หลากหลายชนิด นอกจากนี้ ผักชีกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดต่างประเทศอีกด้วย   

ต้นทุนอุปกรณ์ค่าใช้จ่าย  
           - แปลงเพาะปลูก หรือทำโรงเรือนแบบครบวงจร  
           - เมล็ดพันธุ์ผักชี ประมาณ 500 บาทต่อกิโลกรัม
           - ปุ๋ย 20 บาทต่อกิโลกรัม

การเก็บเกี่ยวผลผลิต
           พออายุได้ 40-45 วัน ผักชีจะเริ่มเก็บเกี่ยวขายได้ โดยผักชีจะให้ผลผลิตดีที่สุดช่วงหน้าหนาว และออกน้อยช่วงหน้าฝน เพราะผักชีเป็นพืชบวมน้ำ จึงบอบช้ำง่ายเวลามีฝนตก

ราคาและช่องทางจัดจำหน่าย  
           ผักชีเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดทั้งปี แต่ก็เป็นผักที่ราคามีความผันผวนพอสมควร อย่างช่วงหน้าฝนราคาขึ้นไปถึง 300 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียว แต่ก็มีช่วงที่ราคาตกลงไปเหลือ 30 บาท ก็มี อย่างไรก็ตาม ผักชีมีข้อดีตรงที่ให้ผลผลิตมากและขายง่ายนั่นเอง 

5. ปลูกมะนาวในน้ำ

ปลูกผักขาย

           ยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่เสมอสำหรับมะนาว ไม่ว่าจะเป็นตามตลาดสด ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ทำให้ไม่แปลกเลยที่จะมีคนผันตัวมาปลูกมะนาวสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งการปลูกมะนาวในน้ำดีตรงที่ใช้พื้นที่น้อย และสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี

ต้นทุนอุปกรณ์ค่าใช้จ่าย  
           - ถังน้ำ ขนาด 100 ลิตร ราคาเริ่มต้น 400 บาท
           - กระถางต้นไม้ 14 นิ้ว ราคา 100-300 บาท
           - ปุ๋ยคอก 20 บาทต่อกิโลกรัม
           - ขุยมะพร้าว 60-65 บาทต่อกิโลกรัม

การเก็บเกี่ยวผลผลิต
           หลังเพาะปลูกเสร็จมะนาวจะเริ่มให้ผลผลิตหลังผ่าน 3 เดือนแรก และให้ผลผลิตต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพียงเติมน้ำ เติมปุ๋ยทุก ๆ 3 เดือนเป็นประจำ ซึ่งจะให้ผลผลิตดีที่สุดในช่วงหน้าฝน  

ราคาและช่องทางจัดจำหน่าย  
           มะนาวแป้นราคาเฉลี่ยลูกละ 3-7 บาท แต่หากในช่วงที่แล้งมาก ๆ ราคาอาจพุ่งเกินลูกละ 10 บาท ก็มีให้เห็นมาแล้ว อีกทั้งถ้ามีลูกค้าประจำที่เป็นร้านอาหาร หรือส่งให้แม่ค้าในตลาดโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ก็จะได้ราคาที่ดีกว่าราคาขายส่งหน้าฟาร์ม

 

           การปลูกผักไว้ขายเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเริ่มต้นกันได้ไม่ยาก และไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนสูง สามารถค่อย ๆ เรียนรู้ ลองผิดลองถูก จึงเหมาะเลยสำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางเพิ่มรายได้ใหม่ ๆ ให้ตัวเอง
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ชี้ช่องทำเงิน ปลูกผักขายหารายได้เสริม ทุนน้อยก็สร้างอาชีพได้ อัปเดตล่าสุด 18 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14:18:30 248,482 อ่าน
TOP