x close

ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร ถ้าตั้งครรภ์ หรือคลอดลูกในปี 2566 เรื่องที่คุณแม่ต้องรู้ !

          ลดหย่อนภาษี ตั้งครรภ์หรือคลอดลูกได้เท่าไร คุณพ่อคุณแม่รีบเคลียร์ให้เข้าใจ ว่าในปี 2566 จะใช้หักลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง 
          ก่อนจะยื่นภาษี 2566 ในช่วงต้นปี 2567 อย่าลืมตรวจสอบด้วยนะคะว่าเรามีสิทธิ์ลดหย่อนภาษีอะไรบ้าง โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์ หรือคลอดบุตรภายในปี 2566 เพราะสามารถลดหย่อนภาษีได้ทั้งค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร รวมทั้งค่าลดหย่อนสำหรับบุตรคนที่ 2 เป็นต้นไปด้วย เอาเป็นว่าเรามาไล่เรียงกันดีกว่า
ลดหย่อนภาษ๊

ลดหย่อนภาษีการตั้งครรภ์และคลอดบุตรได้เท่าไร

สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ หรือคลอดบุตรในปี 2566 สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 รายการ คือ

1. ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร

2. ค่าลดหย่อนบุตร

   - กรณีคลอดบุตรคนแรก หักลดหย่อนได้ 30,000 บาท
   - กรณีคลอดบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป หักลดหย่อนได้ 60,000 บาท
          ทีนี้มาดูรายละเอียดและไขข้อสงสัยแต่ละคำถามให้เคลียร์กันชัด ๆ

ตั้งครรภ์ในปี 2566 ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร ?

          หากฝ่ายหญิง หรือคู่สมรสของฝ่ายชายผู้เสียภาษีเงินได้ ตั้งครรภ์ในปี 2566 ตรงนี้สามารถนำค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการรักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากการตั้งครรภ์และคลอดบุตร มาหักค่าใช้จ่ายได้ตามจริงเลย แต่ไม่เกิน 60,000 บาท โดยต้องเป็นการฝากครรภ์หรือคลอดบุตรในสถานพยาบาลของทางราชการและสถานพยาบาลของเอกชน

ค่าใช้จ่ายอะไรบ้างที่นำมาหักลดหย่อนภาษีค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรได้ ?

          - ค่าตรวจครรภ์
          - ค่ารับฝากครรภ์
          - คำบำบัดทางการแพทย์
          - ค่ายาและค่าเวชภัณฑ์
          - ค่าทำคลอด
          - ค่ากินอยู่ในสถานพยาบาล
          - ค่าขูดมดลูก (ถือเป็นค่าบำบัดทางการแพทย์กรณีแท้งบุตร)

หากคลอดแล้วเด็กเสียชีวิต สามารถลดหย่อนภาษีได้ไหม ?

          ไม่ว่าเด็กจะมีชีวิตรอด หรือเสียชีวิตหลังจากคลอด คุณพ่อ คุณแม่ ก็สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร มาลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 60,000 บาท

หากจ่ายค่าฝากครรภ์เป็นเงิน 30,000 บาท ต่อมาแท้งบุตรต้องขูดมดลูก 40,000 บาท สามารถใช้สิทธิ์ได้เท่าไร ?

          คุณแม่จะได้รับสิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งค่าฝากครรภ์และค่าขูดมดลูก แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 60,000 บาท

ถ้าตั้งครรภ์ปี 2566 แต่คลอดปี 2567 จะใช้สิทธิ์ยังไง ?

          ถ้าเป็นค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรที่ไม่ได้เกิดขึ้นในปีภาษีเดียวกันแบบนี้ จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริงในปีที่ใช้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 60,000 บาท (เพราะถือว่าเป็นการตั้งครรภ์และคลอดบุตรในคราวเดียวกัน)

          เช่น ในปี 2566 จ่ายค่าฝากครรภ์ไปจำนวน 10,000 บาท ก็จะสามารถหักลดหย่อนภาษีปี 2566 ได้ 10,000 บาท ส่วนอีก 50,000 บาท สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเมื่อคลอดบุตรในปี 2567 ได้

         หรือกรณี ปี 2565 จ่ายค่าฝากครรภ์ไปจำนวน 25,000 บาทแล้ว พอมาปีนี้ (2566) จ่ายค่าคลอดบุตรไป 45,000 บาท แต่เราจะสามารถนำค่าคลอดบุตรมาลดหย่อนภาษีปี 2566 ได้เพียง 35,000 บาทเท่านั้น เพราะการตั้งครรภ์ในแต่ละคราวจะลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 60,000 บาท

ลดหย่อนภาษ๊

ถ้าตั้งครรภ์หลายครั้งในปีภาษีเดียวกัน จะลดหย่อนได้เท่าไร ?

          หากจ่ายค่าฝากครรภ์หรือคลอดบุตรหลายคราวในปีภาษีเดียวกัน สามารถลดหย่อนภาษีได้คราวละไม่เกิน 60,000 บาท

          เช่น จ่ายค่าคลอดบุตรคนแรกในเดือนมกราคม 2566 จะสามารถนำค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 60,000 บาท และถ้าหากในเดือนธันวาคม 2566 มีการตั้งครรภ์และฝากครรภ์บุตรคนที่ 2 อีก ก็จะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มเติมอีกตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 60,000 บาท รวมแล้วในปี 2566 สามารถลดหย่อนภาษีได้ 120,000 บาท

คลอดบุตรแฝด สามารถลดหย่อนได้เท่าไร ?

          ถ้าคุณแม่คลอดบุตรแฝด กรณีนี้ถือว่าเป็นการตั้งครรภ์คราวเดียว ก็จะใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้เพียง 60,000 บาทเท่านั้น ไม่ใช่ 120,000 บาทนะคะ

คุณพ่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรได้ไหม

          สำหรับประเด็นนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กรณี คือ

          - หากคุณแม่ไม่มีเงินได้ ไม่ได้ยื่นภาษี : กรณีนี้คุณพ่อสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการฝากครรภ์และคลอดบุตร มายื่นหักลดหย่อนภาษีได้เลย แต่ไม่เกิน 60,000 บาท  

          - ถ้าคุณแม่มีเงินได้ แต่ยื่นเสียภาษีรวมกับคุณพ่อ : กรณีนี้ก็สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการฝากครรภ์และคลอดบุตร ไม่เกิน 60,000 บาท มายื่นหักลดหย่อนภาษีได้  

          - ถ้าคุณแม่มีเงินได้ แต่แยกยื่นภาษีกับคุณพ่อ : กรณีนี้คุณแม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร ไม่เกิน 60,000 บาท ได้เพียงฝ่ายเดียวค่ะ ส่วนคุณพ่อจะไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้

ลดหย่อนภาษ๊

มีสวัสดิการเบิกค่าฝากครรภ์และคลอดบุตรอยู่แล้ว จะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ไหม ?

          หากใครใช้สิทธิ์เบิกค่าคลอดบุตรจากสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ / สิทธิประกันสังคม / สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่ได้รับจากนายจ้างภาคเอกชนแล้ว จะสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้แค่ส่วนที่ยังไม่เกิน 60,000 บาทเท่านั้น

          เช่น นายจ้างภาคเอกชนให้สวัสดิการค่าคลอดบุตร 30,000 บาท แต่คุณแม่จ่ายค่าคลอดบุตรไปจำนวน 80,000 บาท ดังนั้นคุณแม่จะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีค่าคลอดบุตรได้เพียง 30,000 บาทเท่านั้น เนื่องจากเมื่อนำไปรวมกับสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ แล้วต้องไม่เกิน 60,000 บาท

หากบิดา-มารดา ไม่ได้จดทะเบียนสมรส มารดาสามารถใช้สิทธิ์ค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรได้หรือไม่ ?

          สามารถใช้สิทธิ์ได้ เนื่องจากมารดาเป็นมารดาที่ชอบด้วยกฎหมายของบุตรเสมอ โดยไม่ต้องจดทะเบียนสมรส

ใช้เอกสารอะไรขอลดหย่อนภาษีค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร ?

          สำหรับเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นภาษี คือ
          - ใบรับรองแพทย์
          - ใบเสร็จรับเงิน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าได้จ่ายค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรให้สถานพยาบาล

หากบุตรที่คลอดในปี 2566 เป็นบุตรคนแรก จะลดหย่อนภาษีรวมได้เท่าไร ?

          สามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 ส่วน คือ

          1. ค่าเลี้ยงดูบุตร 30,000 บาท
          2. ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร 60,000 บาท

          รวมแล้วสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 90,000 บาท
ลดหย่อนภาษ๊

หากบุตรที่คลอดในปี 2566 เป็นบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป รวมแล้วลดหย่อนภาษีได้เท่าไร ?

          กรณีบุตรที่คลอดในปีนี้เป็นคนที่ 2 ขึ้นไป รัฐบาลไฟเขียวเพิ่มค่าลดหย่อนการเลี้ยงดูบุตรให้เป็น 2 เท่า ดังนั้นจะสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 120,000 บาท แบ่งเป็น

          1. ค่าเลี้ยงดูบุตรคนที่ 2 ขึ้นไป จำนวน 60,000 บาท
          2. ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร จำนวน 60,000 บาท

หลักเกณฑ์การใช้สิทธิ์ลดหย่อนบุตรคนที่ 2 มีอะไรบ้าง ?

          - ต้องเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย
          - ต้องเป็นบุตรตั้งแต่คนที่ 2 เป็นต้นไป และเกิดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป ดังนั้น ถ้าเกิดปี 2566 ก็ใช้สิทธิ์ได้
          - นับลำดับของบุตรทุกคน ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม

          ทราบข้อมูลชัดเจนแล้ว ใครที่ตั้งครรภ์และคลอดบุตรในปีนี้ ก็อย่าลืมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีทั้ง 2 รายการที่เพิ่มเข้ามาด้วยนะคะ

          ส่วนใครที่อยากทราบว่า นอกจากค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร และค่าเลี้ยงดูบุตรแล้ว เรายังสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีประเภทไหนได้อีก ตามมาอ่านสรุปค่าลดหย่อนภาษีทั้งหมด พร้อมวิธีคำนวณภาษี กันต่อเลย

บทความที่เกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดวันที่ 19 ตุลาคม 2566


ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมสรรพากร, กรมสรรพากร, ราชกิจจานุเบกษา  

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร ถ้าตั้งครรภ์ หรือคลอดลูกในปี 2566 เรื่องที่คุณแม่ต้องรู้ ! อัปเดตล่าสุด 19 ตุลาคม 2566 เวลา 14:45:15 86,611 อ่าน
TOP