ช่อง 3 ประกาศงบไตรมาสแรก ปี 2561 ขาดทุนหนัก 126 ล้านบาท เหตุรายได้โฆษณาลดฮวบ แม้มีกระแส "บุพเพสันนิวาส" ก็ยังช่วยไม่ได้
วันที่ 11 พฤษภาคม 2561 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2561 โดยบริษัทมีผลพลิกขาดทุน 125.98 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 249 ล้านบาท เนื่องจากรายได้สื่อโฆษณาที่ลดลงเหลือ 2,157 ล้านบาท ลดลงจากช่วงปีก่อนถึง 21.2% แม้ในช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา บริษัทจะมีรายได้จากกระแสของละครบุพเพสันนิวาสเข้ามาก็ตาม
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,420 ล้านบาท ปรับลดลง 18.9% จากช่วงปีก่อน ที่มีรายได้ 2,983 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นรายได้จากโฆษณากว่า 90% และที่เหลือจะเป็นรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ จัดคอนเสิร์ต แสดงโชว์ และรายได้จากการขายสินค้า ซึ่งบริษัทมีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้น 46.6% จากไตรมาส 4 ปี 2560 เพราะกระแสบุพเพสันนิวาส ที่ส่งผลบวกต่อแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Mello และ LINE TV เป็นอย่างมาก
ส่วนค่าใช้จ่ายในไตรมาสแรก ปี 2561 อยู่ที่ 2,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 ที่มีค่าใช้จ่าย 2,040 ล้านบาท เป็นผลมาจากต้นทุนผลิตรายการ และต้นทุนการจัดคอนเสิร์ตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป บริษัทจึงวางแผนขยายธุรกิจใหม่ ๆ มากขึ้น โดยเน้นด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการเติบโต ให้ผลตอบแทนดี เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างกำไรให้บริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากช่อง 3 ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 ก็ทำให้ราคาหุ้น BEC ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ร่วงแรงลงมาต่ำสุดที่ 9.15 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 9.35 บาท ลดลงถึง 6.5% ภายในวันเดียว ขณะที่ล่าสุด (14 พฤษภาคม 2561) ราคาหุ้น BEC ยังลงต่อเนื่องทำราคาต่ำสุดไปถึง 8.85 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
วันที่ 11 พฤษภาคม 2561 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2561 โดยบริษัทมีผลพลิกขาดทุน 125.98 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 249 ล้านบาท เนื่องจากรายได้สื่อโฆษณาที่ลดลงเหลือ 2,157 ล้านบาท ลดลงจากช่วงปีก่อนถึง 21.2% แม้ในช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา บริษัทจะมีรายได้จากกระแสของละครบุพเพสันนิวาสเข้ามาก็ตาม
ส่วนค่าใช้จ่ายในไตรมาสแรก ปี 2561 อยู่ที่ 2,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากช่วงไตรมาส 4 ปี 2560 ที่มีค่าใช้จ่าย 2,040 ล้านบาท เป็นผลมาจากต้นทุนผลิตรายการ และต้นทุนการจัดคอนเสิร์ตที่สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป บริษัทจึงวางแผนขยายธุรกิจใหม่ ๆ มากขึ้น โดยเน้นด้านดิจิทัลและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการเติบโต ให้ผลตอบแทนดี เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างกำไรให้บริษัทในอนาคต
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากช่อง 3 ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2561 ก็ทำให้ราคาหุ้น BEC ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 ร่วงแรงลงมาต่ำสุดที่ 9.15 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 9.35 บาท ลดลงถึง 6.5% ภายในวันเดียว ขณะที่ล่าสุด (14 พฤษภาคม 2561) ราคาหุ้น BEC ยังลงต่อเนื่องทำราคาต่ำสุดไปถึง 8.85 บาท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
