x close

รู้จัก 5 สกุลเงินดิจิทัลมาแรง ที่มีโอกาสแซงบิทคอยน์

เงินดิจิทัล

          บิทคอยน์ (Bitcoin) ไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัลเดียวในโลกนี้ ยังมีสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ อีกมากมาย มาลองทำความรู้จักกับ 5 สกุลเงินดิจิทัลมาแรงและน่าจับตามองในขณะนี้กันเถอะ 

          ช่วงที่ผ่านมา บิทคอยน์ (Bitcoin) กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก จากราคาที่พุ่งทำลายสถิติอย่างต่อเนื่อง และมีความผันผวนสุด ๆ จนหลายคนกังวัลว่าด้วยกระแสที่ร้อนแรงแบบนี้ จะเกิดภาวะฟองสบู่กับบิทคอยน์หรือเปล่า อย่างไรก็ดี รู้ไหมว่า นอกจากบิทคอยน์แล้ว ยังมีสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ หรือที่เราเรียกกันในชื่อ "Crypto Currency" บนโลกนี้กว่าพันสกุล ซึ่งก็มีหลายสกุลที่น่าสนใจไม่แพ้บิทคอยน์เลย อย่างเช่น 5 สกุลเงินดิจิทัลต่อไปนี้ที่กำลังมาแรงและอยากแนะนำให้รู้จักกัน เพราะไม่แน่ว่า ในอนาคตสกุลเงินเหล่านี้อาจก้าวกระโดดขึ้นมาแทนที่บิทคอยน์ก็เป็นได้


1. Ripple (XRP)


          Ripple เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เปิดตัวได้เพียงไม่นานเมื่อปี 2557 แต่กลับได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จากนักลงทุนและสถาบันการเงินต่าง ๆ ด้วยการที่ Ripple ใช้เทคโนโลยีที่ต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ทำให้ไม่สามารถขุดได้ แต่จะมีบริษัท Ripple ทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมปริมาณเงินในระบบ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อมั่นในเสถียรภาพของสกุลเงินดิจิทัลนี้ ซึ่งจะเห็นว่ามีบริษัทชั้นนำระดับโลกหลายแห่งที่ให้การยอมรับ Ripple เช่น Google, SBI Group, Standard Chartered และ Seagate เป็นต้น ขณะเดียวกัน Ripple ก็ได้นำเทคโนโลยี Blockchain มาพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาการโอนเงินระหว่างประเทศ ให้ธนาคารทั่วโลกสามารถเชื่อมถึงกันได้โดยตรงอีกด้วย

เงินดิจิทัล

          ทำให้สถาบันการเงินในไทย อย่างธนาคารไทยพาณิชย์ ได้มีการเข้าไปลงทุนกับ Ripple ศึกษาการใช้เทคโนโลยีทางการเงิน (Fintech) เพื่อพัฒนาการโอนเงินข้ามประเทศผ่านระบบออนไลน์ให้สะดวก รวดเร็ว และลดค่าใช้จ่ายให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการทดลองโอนเงินจากญี่ปุ่นมาไทย พบว่าใช้เวลาแค่ 20 นาทีเท่านั้น จากเดิมที่ต้องใช้เวลามากกว่า 1 วัน ทั้งหมดยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Ripple เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกับวงการเงินทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย

 เงินดิจิทัล

2. Ethereum (ETH)

          ปัจจุบัน (เดือนธันวาคม พ.ศ. 2560) Ethereum เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าถึง 7.4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 2.5 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Bitcoin เท่านั้น โดย Ethereum ถูกพัฒนาโดย Vitalik Buterin เด็กหนุ่มชาวรัสเซียที่เริ่มสร้าง Ethereum เมื่อปี 2556 ซึ่งตอนนั้นเขามีอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ โดย Vitalik Buterin เคยเป็นหนึ่งในทีมพัฒนา Bitcoin มาก่อน จึงได้นำข้อบกพร่องของ Bitcoin มาช่วยให้ Ethereum สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายธุรกรรมมากขึ้น

          ขณะเดียวกันก็ได้มีการรวมตัวกันของบริษัทยักษ์ใหญ่และสตาร์ทอัพชั้นนำทั่วโลก ร่วมกันวิจัยพัฒนา Ethereum ให้ใช้ได้กับธุรกรรมของแต่ละบริษัท ภายใต้ชื่อกลุ่ม Enterprise Ethereum Alliance หรือ EEA ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 116 บริษัท มีบริษัทชื่อดังของโลก ทั้ง Microsoft, JP Morgan, Toyota และ Intel รวมอยู่ด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมนักวิเคราะห์หลายคนถึงมองว่า Ethereum จะกลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งแทนที่ Bitcoin ได้ในไม่ช้านี้

เงินดิจิทัล


3. Dash (DASH)

          Dash กลายเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มาแรงมาก ๆ ในปี 2560 เพราะแค่ปีเดียวมูลค่าของ Dash เพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000% !!! จากเมื่อเดือนมกราคม 2560 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 11 เหรียญสหรัฐจนเดือนธันวาคม 2560 ราคาก็พุ่งทะยานจนแตะระดับ 1,200 เหรียญสหรัฐได้สำเร็จ เชื่อกันว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ Dash มาแรงขนาดนี้ เนื่องจาก Apple ได้อนุมัติให้แอปพลิเคชั่น "Wallet Dash" แอปฯ ซื้อ-ขายสกุลเงิน Dash สามารถขึ้นไปอยู่บน  App Store ได้แล้ว ซึ่งเป็นเครื่องการันตีถึงความปลอดภัยของสกุลเงิน Dash ได้เป็นอย่างดี

เงินดิจิทัล


4. Litecoin (LTC)

           Litecoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลยุคแรกที่เกิดมาพร้อม ๆ กับ Bitcoin โดยถูกพัฒนาจาก Charlie Lee อดีตวิศวกรของ Google ด้วยจุดประสงค์ที่อยากให้ Litecoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ จึงได้ออกแบบให้มีการประมวลผลและทำธุรกรรมได้รวดเร็ว แถมยังมีราคาถูกกว่า Bitcoin ทำให้ LItecoin กลายเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินดิจิทัลที่น่าจับตามอง ด้วยตัวสกุลเงินที่ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ เป็นเวลานาน และราคาที่ไม่ได้ขึ้นลงหวือหวาเกินไปจนน่ากลัว

 เงินดิจิทัล


5. Bitcoin Cash (BCH)

          Bitcoin Cash สกุลเงินดิจิทัลน้องใหม่มาแรงที่ถือกำเนิดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แยกตัวออกมาจาก Bitcoin (BTC) เนื่องจากความขัดแย้งกันของกลุ่มผู้พัฒนาที่ต้องการให้ Bitcoin มีค่าโอนที่ต่ำลงและโอนได้รวดเร็วขึ้น จึงมีบางส่วนตัดสินใจออกมาทำสกุลเงินใหม่อย่าง Bitcoin Cash ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า Bitcoin Cash ประสบความสำเร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว เพราะใช้เวลาแค่ไม่ถึงหนึ่งปี ก็สามารถขึ้นมาเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดสูงเป็นลำดับต้น ๆ ได้สำเร็จ ทั้งนี้ ปัจจุบัน (เดือนธันวาคม พ.ศ. 2560) Bitcoin Cash มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 1.7 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจาก Bitcoin และ Ethereum เท่านั้น

เงินดิจิทัล


          อย่างไรก็ตาม ต้องขอเตือนก่อนว่าแม้ปัจจุบันสกุลเงินดิจิทัลจะเริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นแล้ว แต่ในประเทศไทยเองก็ยังไม่มีกฎหมายรองรับสำหรับการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลทุกชนิด หมายความว่าถ้าเกิดความเสียหายอะไรขึ้นมา จะไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามารับผิดชอบนะ  ดังนั้นใครที่คิดเข้ามาซื้อ-ขาย เก็งกำไร หรือทำธุรกรรมต่าง ๆ กับสกุลเงินดิจิทัล ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยตัวเอง


ภาพจาก coinmarketcap.com
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รู้จัก 5 สกุลเงินดิจิทัลมาแรง ที่มีโอกาสแซงบิทคอยน์ อัปเดตล่าสุด 26 ธันวาคม 2560 เวลา 20:49:42 35,565 อ่าน
TOP