x close

เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปลี่ยนบัตร ATM เป็นบัตรชิปการ์ด



เปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม

          ทำความรู้จักและเข้าใจบัตรชิปการ์ดก่อนตัดสินใจเปลี่ยนบัตร ATM รวมถึงศึกษาข้อมูลบัตรแต่ละรูปแบบ และเลือกรูปแบบบัตรให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเรา
   
          ช่วงเดือนที่ผ่านมา ข่าวฮอตฮิตทางการเงินที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเราและมีการพูดถึงกันมากจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้ นอกจากบัตรชิปการ์ดนั่นเองค่ะ เชื่อว่าบางคนอินเทรนด์ได้ไปเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตมาเป็นบัตรแบบชิปการ์ดแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่ได้ไปเปลี่ยน หรือยังสงสัย ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องเปลี่ยน เปลี่ยนแล้วดีอย่างไร มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมบ้าง K-Expert ได้สรุปรายละเอียดในเรื่องนี้มาฝาก พร้อมทั้งคำแนะนำที่ควรรู้ ดังนี้ค่ะ
เปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม

บัตรชิปการ์ดคืออะไร และแตกต่างจากบัตรแบบแถบแม่เหล็กอย่างไร

          ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตที่ทุกธนาคารออกให้เราจะเป็นบัตรแบบชิปการ์ดทั้งหมด ซึ่งบัตรชิปการ์ดคือบัตรรูปแบบใหม่ที่มีความปลอดภัยมากกว่าบัตรแบบแถบแม่เหล็ก เนื่องจากข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในชิปที่ป้องกันการถูกคัดลอกข้อมูลหรือสกิมมิ่ง และการโจรกรรมข้อมูลจากบัตร ทำให้การคัดลอกข้อมูลทำได้ยากกว่าบัตรแบบแถบแม่เหล็ก นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มรหัสพิน (PIN) จาก 4 หลัก เป็น 6 หลัก เรียกว่ามีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากลเลยค่ะ ส่วนการใช้งานนั้น ยังคงใช้งานได้สะดวกเหมือนเดิม ทั้งการถอน โอน จ่าย ซื้อสินค้าผ่านเครื่องรับบัตร หรือช้อปออนไลน์ ทำให้เรามีความมั่นใจในการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตมากยิ่งขึ้น

          เมื่อทำความรู้จักกับบัตรชิปการ์ดกันไปแล้ว หลายคนอาจมีคำถาม ข้อสงสัย หรือความกังวลใจเกิดขึ้นมากมาย K-Expert ขออธิบายให้เคลียร์ดังนี้ค่ะ

บัตรแบบแถบแม่เหล็กยังคงใช้ได้ไหม

          สำหรับใครที่ยังใช้บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตแบบแถบแม่เหล็กอยู่ และบัตรของเรายังไม่หมดอายุนั้นก็ไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะเรายังสามารถใช้บัตรแบบแถบแม่เหล็กต่อไปได้ตามปกติ โดยสามารถใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เท่านั้น แต่หากใครต้องการเปลี่ยนบัตรเป็นแบบชิปการ์ดในขณะที่บัตรเดิมยังไม่หมดอายุก็สามารถทำได้เลยทันที โดยไปติดต่อธนาคารผู้ออกบัตรที่เราใช้บริการอยู่ อย่าลืมนำบัตรประชาชน สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิตใบเก่าไปด้วยนะคะ

          มีค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตรไหม หลายคนกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม ถ้าไปเปลี่ยนบัตรแบบชิปการ์ดแล้วจะเสียค่าธรรมเนียมไหม

          ต้องบอกว่า ค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตร และค่าธรรมเนียมในการใช้บัตรจะเป็นไปตามอัตราและเงื่อนไขที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนดไว้ค่ะ ซึ่งในช่วงแรกนี้ หลาย ๆ ธนาคารได้ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนบัตรให้เรา ลองเช็กกับธนาคารเจ้าของบัตรกันดูนะคะ  

บัตรแบบชิปการ์ดสามารถใช้ได้กับตู้เอทีเอ็มทุกตู้ใช่ไหม

          ในช่วงแรกอาจมีตู้เอทีเอ็มบางตู้ของบางธนาคารที่ยังไม่พร้อมรองรับการใช้บัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตแบบชิปการ์ดซึ่งตู้เอทีเอ็มจะแสดงข้อความให้เรารู้ว่า ตู้นี้ใช้บัตรชิปการ์ดได้หรือไม่ ซึ่งอาจทำให้เราไม่ได้รับความสะดวกไปบ้าง ดังนั้น ควรวางแผนการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ไว้ให้ดี และจดจำตู้เอทีเอ็มที่เราใช้งานอยู่บ่อย ๆ ซึ่งสามารถรองรับการใช้บัตรชิปการ์ดได้ค่ะ

เปลี่ยนบัตรเอทีเอ็ม

          สำหรับคนที่สนใจอยากใช้บัตรชิปการ์ด และจะไปเปลี่ยนบัตรในเร็วๆ นี้ K-Expert มีคำแนะนำเพิ่มเติมมาฝากค่ะ

เลือกรูปแบบบัตรให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์

          ปัจจุบันบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตของแต่ละธนาคารมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ ก่อนไปติดต่อธนาคาร แนะนำให้ศึกษารายละเอียดเงื่อนไขของบัตรแต่ละแบบ และเลือกรูปแบบบัตรที่ใช่ ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด เพื่อให้การเปลี่ยนบัตรใหม่ในครั้งนี้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น คนที่ต้องการความคุ้มครองด้านอุบัติเหตุ อาจเลือกใช้บัตรเดบิตแบบชิปการ์ดที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุด้วย เป็นต้น

ปรับวงเงินบัตรตามความเหมาะสม

          สำหรับใครที่ยังไม่คุ้นเคยกับบัตรเดบิต หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยในการช้อปปิ้งออนไลน์หรือซื้อสินค้าผ่านเครื่องรับบัตร การปรับวงเงินถอน โอน หรือซื้อสินค้าต่อวัน ตามความต้องการและความเหมาะสม ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยคลายความกังวลในเรื่องนี้ไปได้ค่ะ โดยเราสามารถติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรเพื่อขอปรับวงเงินบัตรที่จะใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการ วิธีนี้นอกจากจะช่วยคลายความกังวลลงแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เราใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นอีกด้วยค่ะ

          จากข้อมูลที่นำมาฝากน่าจะช่วยให้ทุกคนได้รู้จักและเข้าใจบัตรชิปการ์ดได้ดียิ่งขึ้น ลองสำรวจบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตในกระเป๋าของตัวเองดูนะคะว่า บัตรหมดอายุเมื่อไร เราพร้อมหรือสะดวกไปเปลี่ยนบัตรใหม่กันแล้วหรือยัง แม้ว่าบัตรชิปการ์ดจะมีความปลอดภัยมากขึ้น ตัวเราเองในฐานะผู้ใช้งานก็ต้องไม่ประมาท ควรใส่ใจ ระมัดระวังทุกครั้งเมื่อทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ผ่านบัตร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องทรัพย์สินของตัวเราจากเหล่ามิจฉาชีพนั่นเองค่ะ
   
K-Expert Action

          - หมั่นเปลี่ยนรหัส PIN ทุก ๆ 3 เดือน เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
          - เลือกซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าที่เชื่อถือได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปลี่ยนบัตร ATM เป็นบัตรชิปการ์ด อัปเดตล่าสุด 28 มิถุนายน 2559 เวลา 15:34:13 52,833 อ่าน
TOP