การเจ็บไข้ได้ป่วย คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองแน่ ๆ เพราะนอกจากจะไม่สบายกายแล้ว ยังไม่สบายใจเนื่องจากต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายเป็นค่ารักษาที่ค่อนข้างสูงอีกด้วย แต่หากไม่สบายขึ้นมาแล้วได้รับการช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาก็คงจะดีไม่น้อย ดังนั้น นอกจากเงินเดือนและโบนัสแล้ว สวัสดิการรักษาพยาบาลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พนักงานต้องการ ซึ่งสวัสดิการรักษาพยาบาลที่มนุษย์เงินเดือนได้รับจากที่ทำงานมีอะไรบ้างนั้น K-Expert มีข้อมูลมาฝากค่ะ
คนที่ทำงานบริษัทจะเป็นสมาชิกหรือผู้ประกันตนภาคบังคับในส่วน ประกันสังคม มาตรา 33 ของกองทุนประกันสังคม ซึ่งหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ได้รับคือ ความคุ้มครองกรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย โดยเราจะได้รับบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลที่ระบุชื่อของเรา และชื่อโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เลือกไว้ เมื่อเจ็บป่วยแล้วเข้ารักษาในโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล หรือสถานพยาบาลที่อยู่ในเครือข่ายของโรงพยาบาลตามบัตรจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นค่ะ ยกเว้นค่าใช้จ่ายที่อยู่นอกเหนือจากความคุ้มครองของประกันสังคม เช่น การขออยู่ห้องพิเศษ หรือขอแพทย์พิเศษ เป็นต้น
หากประสบอุบัติเหตุหรือเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉิน แล้วจำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก็สามารถเข้ารับการรักษาได้ค่ะ โดยต้องสำรองเงินของตัวเองจ่ายไปก่อน แล้วนำหลักฐานหรือใบเสร็จรับเงินมายื่นกับบริษัทที่ทำงาน เพื่อเบิกค่าใช้จ่ายกับประกันสังคม โดยจำนวนเงินที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของประกันสังคมค่ะ
สำหรับการรักษากรณีทันตกรรม ซึ่งได้แก่ การถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด และใส่ฟันเทียม สามารถเข้ารับบริการที่คลินิกหรือโรงพยาบาลที่ไหนก็ได้ โดยสำรองเงินจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จมาเบิกกับบริษัทหรือประกันสังคมได้ตามวงเงินที่ประกันสังคมกำหนดไว้ค่ะ
สวัสดิการประกันสุขภาพ
นอกจากสวัสดิการประกันสังคมแล้ว หลาย ๆ บริษัทยังมีสวัสดิการประกันสุขภาพให้กับพนักงานด้วย บางบริษัทอาจทำประกันสุขภาพแบบกลุ่มกับบริษัทประกันภัยให้พนักงาน ซึ่งพนักงานจะได้รับบัตรประกันสุขภาพ เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่กำหนดไว้ให้ยื่นบัตรประกันสุขภาพให้กับโรงพยาบาลนั้น ๆ โดยความคุ้มครองหรือวงเงินค่ารักษาจะเป็นไปตามแบบกรมธรรม์ค่ะ
ส่วนบริษัทที่มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายสำหรับค่ารักษาพยาบาลของพนักงานเอง เช่น กำหนดวงเงินค่าห้อง ค่ายา ค่าหมอพยาบาล เป็นต้น เมื่อเจ็บป่วยก็สามารถเบิกค่ารักษากับบริษัทได้ตามวงเงินที่กำหนดไว้ โดยขอใบเสร็จและใบรับรองแพทย์เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นเบิกค่าใช้จ่ายกับทางบริษัท
หลายคนอาจเกิดคำถามว่า เมื่อมีสวัสดิการประกันสังคม หรือสวัสดิการรักษาพยาบาลจากที่ทำงานอยู่แล้ว จำเป็นต้องทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมอีกไหม แนะนำให้ลองพิจารณาจากความคุ้มครองและวงเงินค่ารักษาที่ได้รับค่ะ
หากมีเฉพาะประกันสังคม เมื่อเจ็บป่วยก็สะดวกที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามหน้าบัตร หรือหากมีเฉพาะสวัสดิการของที่ทำงาน แล้วคิดว่าวงเงินค่ารักษาน่าจะเพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น หรือถ้าต้องออกค่าใช้จ่ายเพิ่มเองก็ไม่เยอะมาก กรณีนี้ก็อาจไม่ต้องทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมค่ะ
สำหรับคนที่มีทั้งประกันสังคมและสวัสดิการรักษาพยาบาลจากที่ทำงานแล้ว แต่อยากได้ความคุ้มครองที่มากขึ้น เช่น สวัสดิการที่ทำงานรองรับเฉพาะการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐบาลเท่านั้น แต่เราต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน หรือต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติมเผื่อไว้ในกรณีที่ไม่สะดวกเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามบัตรประกันสังคม แบบนี้จะเหมาะกับการทำประกันสุขภาพเพิ่มเติมจากสวัสดิการที่มีอยู่ค่ะ
แม้ว่ามนุษย์เงินเดือนจะมีสวัสดิการรักษาพยาบาลต่าง ๆ จากที่ทำงานคอยช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น และยังช่วยปกป้องเงินในกระเป๋าไม่ให้หมดไปกับค่ารักษาแล้ว แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยป้องกันการเจ็บป่วย และทำให้สุขภาพที่ดีอยู่กับเราไปนาน ๆ ค่ะ
K-Expert Action
- เลือกโรงพยาบาลที่เข้าร่วมประกันสังคมที่เราสะดวกเข้ารับการรักษาพยาบาล
- พกบัตรประกันสังคม หรือบัตรประกันสุขภาพติดตัวไว้ เพื่อความสะดวกรวดเร็วเมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
