ไปเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก เพียงวางแผนว่าจะไปเที่ยวช่วงไหน ไปประเทศใดบ้าง เพื่อเตรียมจองตั๋วเครื่องบิน ที่พักล่วงหน้า และเตรียมเสื้อผ้าได้เหมาะสม ที่สำคัญคือพกเงินเผื่อไว้ด้วย
ช่วงเดือนเมษายนที่มีวันหยุดยาวหลายวันเชื่อว่าหลายคนคงวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนกันแล้ว บางคนวางแผนไปเที่ยวไกลถึงต่างประเทศ ซึ่งยุโรปก็เป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะแต่ละประเทศในยุโรปมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป สำหรับคนที่สนใจไปเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากจนเกินไปถ้ามีการวางแผนเตรียมตัวที่ดีโดย K-Expert มีคำแนะนำมาฝาก ดังนี้ค่ะ
พาสปอร์ตและวีซ่า
พาสปอร์ตและวีซ่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้เลยเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งพาสปอร์ตต้องมีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ส่วนวีซ่า ถ้าเราวางแผนไปเที่ยวยุโรปหลายประเทศในทริปเดียวกัน แนะนำให้ขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) เพราะสามารถใช้ได้กับทุกประเทศที่เป็นสมาชิกซึ่งมีทั้งหมด 26 ประเทศด้วยกัน โดยการขอวีซ่าเชงเก้นนั้นให้ยื่นคำร้องขอวีซ่าต่อสถานทูตของประเทศที่เราวางแผนว่าจะอยู่นานที่สุด หรือเป็นประเทศแรกที่เราเดินทางไปถึงค่ะ
แต่หากวางแผนไปเที่ยวประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมกลุ่มเชงเก้น เช่น สหราชอาณาจักร บัลแกเรีย โรมาเนีย ไซปรัส โครเอเชีย และไอร์แลนด์ จะต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศเหล่านี้ด้วย ยกเว้นตุรกี ที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าค่ะ สำหรับการขอวีซ่า สถานทูตบางแห่งต้องนัดหมายล่วงหน้า และต้องไม่ลืมตรวจเช็กด้วยว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เช่น พาสปอร์ต แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า รูปถ่าย หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก หนังสือรับรองการทำงาน สำเนาบัญชีเงินฝาก และประกันภัยการเดินทาง โดยปกติต้องมีวงเงินประกันขั้นต่ำ 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) เป็นต้น
สภาพอากาศและการแต่งกาย
เราสามารถเที่ยวยุโรปได้ทุกฤดูกาล ขึ้นอยู่กับความชอบ เพราะแต่ละช่วงจะให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกัน โดยฤดูกาลของประเทศในแถบยุโรปแบ่งได้เป็น 4 ช่วง ได้แก่
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) ถือเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกัน โดยอุณหภูมิในช่วงนี้อยู่ที่ประมาณ 10-18 องศาเซลเซียส ช่วงนี้ฟ้าสว่างเร็วมากตั้งแต่ช่วงตีห้า และมืดช้าประมาณ 2-3 ทุ่ม ทำให้เรามีเวลาเที่ยวมากขึ้น เป็นช่วงที่ยุโรปกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากเผชิญกับหิมะ ต้นไม้ต่าง ๆ เริ่มผลิดอกออกผล ดอกไม้เบ่งบานสวยงาม อากาศกำลังดี สามารถใส่เสื้อกันหนาวให้ความอบอุ่น ใส่ถุงน่องหรือเลกกิ้งกับกระโปรงสวย ๆ พร้อมผ้าพันคอสีสดใส เข้ากับอากาศที่เย็นสบายได้เลยค่ะ
- ฤดูร้อน (พฤษภาคม-กันยายน) ช่วงนี้อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-28 องศาเซลเซียส แต่บางช่วงก็อาจร้อนมากถึง 30-40 องศาเซลเซียส และจะมืดช้า บางวันมืดเกือบ 3-4 ทุ่ม หากไปเที่ยวในช่วงนี้ การแต่งกายจะค่อนข้างสบาย ๆ เหมือนอยู่เมืองไทย สามารถใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ หรือจะใส่เดรสสั้น เสื้อแขนกุด กระโปรง สวมหมวกสวย ๆ และรองเท้าแตะก็ดูดีไปอีกแบบ ในช่วงเย็น อากาศจะเย็นลงเล็กน้อยจึงควรนำเสื้อคลุมกันลมติดตัวไปด้วย
- ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลง อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส ใบไม้สีเขียวเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อนแล้วร่วงโรยลง อากาศเย็นสบาย สามารถใส่เสื้อคาร์ดิแกนทับข้างนอก กระโปรงลายเก๋ ๆ หรือใส่กางเกงขายาวทะมัดทะแมง และควรมีเสื้อที่ใส่แล้วอบอุ่น ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ ติดไว้เพราะบางวันอาจมีลมแรง
- ฤดูหนาว (พฤศจิกายน-มีนาคม) เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวไม่มาก เวลาเที่ยวค่อนข้างสั้นเพราะท้องฟ้าจะมืดเร็วประมาณ 4 โมงเย็น แต่ข้อดีของการเที่ยวในช่วงนี้คือ เราจะได้เห็นกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นเพื่อต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ บางช่วงอากาศหนาวเย็นติดลบ มีหิมะตก จึงต้องสวมรองเท้าที่เดินบนหิมะแล้วไม่ลื่น ใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นมาก ๆ เช่น ใส่เสื้อสเวตเตอร์ด้านในทับด้วยเสื้อขนเป็ด หรือใส่โค้ชหนา ๆ มีฮู้ดกันลม สวมกางเกงยีนส์หรือเลกกิ้งหนา ๆ มีถุงมือ หมวก ผ้าพันคอ ลองจอน และที่ปิดหูค่ะ
ภาพจาก Nadiia Gerbish/shutterstock
การเดินทาง
การเดินทางในยุโรปสามารถเดินทางได้หลายแบบ โดยแต่ละแบบจะมีข้อดีหรือจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบหรือไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น ถ้าวางแผนไปหลายประเทศ การเดินทางด้วยเครื่องบินจะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก
ถ้าล่องเรือสำราญ ช่วงกลางคืนสามารถนอนบนเรือระหว่างเดินทางไปอีกประเทศหนึ่งได้ หากนั่งรถไฟอาจใช้เวลาในการเดินทางนานขึ้น แต่ได้ชมวิวทิวทัศน์ตามธรรมชาติ รวมถึงวิถีชีวิตของชาวยุโรปสองข้างทาง หากใครสนใจเดินทางด้วยรถไฟ แนะนำให้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน "Rail Planner" ซึ่งเป็นแอพที่ช่วยให้การเดินทางด้วยรถไฟในยุโรปสะดวกมากขึ้น
ส่วนการขับรถเที่ยวเอง เราสามารถแวะพักเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ต้องการได้ และสะดวกในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนที่พักไปเรื่อย ๆ เพราะสามารถเอากระเป๋าใส่รถยนต์ ไม่ต้องแบกสัมภาระขึ้นลงรถไฟหรือรถบัส แต่คนที่ขับรถเที่ยวเองต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ในต่างประเทศด้วย
เงินติดตัว
การเตรียมเงินติดตัวไปควรวางแผนให้ดีว่าจะมีค่าใช้จ่ายในเรื่องใดบ้าง เช่น ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าของฝาก ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ นอกจากนี้ ควรเตรียมเงินเผื่อไว้อีกส่วนหนึ่งเพื่อใช้ในเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ตกรถไฟ ทำให้ต้องซื้อตั๋วใหม่หรือต้องเปลี่ยนมานั่งรถแท็กซี่แทน เป็นต้น ทั้งนี้ แนะนำให้แลกเงินไปให้พอดี เพราะหากแลกเงินไปจำนวนมาก เงินที่เหลือกลับมาแลกคืนเป็นเงินบาทก็มีโอกาสขาดทุนจากอัตรารับซื้อคืนเงินตราต่างประเทศได้
แต่ถ้าเงินสดที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายก็สามารถใช้บัตรเดบิตกดถอนเงินสดจากตู้ ATM ที่มีเครื่องหมาย PLUS ได้ โดยค่าธรรมเนียมในการกดเงินขึ้นอยู่กับธนาคารเจ้าของบัตรและค่าบริการของตู้ หรือจะพกบัตรเครดิตติดตัวไปด้วยก็สะดวกในการใช้จ่าย สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการคำนวณจะเป็นอัตราของวันที่ธนาคารเรียกเก็บเงินจากร้านค้า (ไม่ใช่วันที่เราซื้อสินค้า) บวกกับค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินต่างประเทศซึ่งสูงสุดอยู่ที่ 2.5% ของยอดใช้จ่ายค่ะ
ก่อนเดินทางไปเที่ยวยุโรปด้วยตัวเองอย่างที่ฝันไว้ ไม่ว่าจะไปกับครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนฝูงก็ตาม การวางแผนเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ มาเป็นอย่างดีถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้ทริปในฝันเป็นไปอย่างที่ใจต้องการ และเป็นทริปที่ทำให้ทุกคนมีความสุข ความสนุก และประทับใจอย่างไม่รู้ลืมค่ะ
K-Expert Action
• ขอวีซ่าเชงเก้นซึ่งใช้ได้กับทุกประเทศที่เป็นสมาชิก (26 ประเทศ) และทำประกันการเดินทางเพื่อประกอบการยื่นขอวีซ่า
• ถ้าขับรถเที่ยวเอง อย่าลืมขอใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ในต่างประเทศ (International driving license)
• จดหมายเลขบัตรเครดิต และหมายเลขของศูนย์ให้บริการของบัตรเครดิต เผื่อกรณีทำบัตรหายจะได้แจ้งอายัดบัตรได้ทันที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
