x close

สรรพากรชงปฏิรูปภาษีทั้งระบบ เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษี

สรรพากรชงปฏิรูปภาษีทั้งระบบ
 
          กรมสรรพากร เตรียมเสนอแนวทางปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้งระบบ เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีให้สอดคล้องกับภาษีเงินได้นิติบุคคล ขณะที่คณะรัฐมนตรีเตรียมออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ยกเว้นการตรวจสอบภาษีย้อนหลังธุรกิจเอสเอ็มอี 

 
          วันที่ 4 มกราคม 2559 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคมที่ผ่านมา นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและการปรับปรุงลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในปี 2560
 
          สำหรับแนวทางที่จะนำเสนอในการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะทำให้ผู้เสียภาษีได้รับประโยชน์และเป็นธรรมมากขึ้น เนื่องจากภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีอัตราภาษีแบ่งเป็น 7 ขั้นในปัจจุบัน โดยอัตราภาษีบุคคลธรรมดาสูงสุดคือ เกิน 4 ล้านบาทขึ้นไป เสียภาษีร้อยละ 35 ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลที่มีอัตราสูงสุดร้อยละ 20 จากกำไรสุทธิ เมื่อรวมกับภาษีเงินปันผลอีกร้อยละ 8 จะทำให้ภาษีรวมของนิติบุคคลสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 28 ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่าอัตราสูงสุดของภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้ต้องเสนอแนวทางปรับโครงสร้างภาษีให้สอดคล้องกัน ดังนี้

สรรพากรชงปฏิรูปภาษีทั้งระบบ
 
          1. การปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในทุกขั้นของอัตราภาษี
          2. ปรับวงเงินรายการลดหย่อนภาษีให้มีวงเงินเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลดต่ำลง คือ เมื่อมีรายได้แล้วนำไปหักลบกับรายการลดหย่อนที่ปรับเพิ่มขึ้น จะทำให้รายได้สุทธิที่จะนำไปคิดเป็นภาษีน้อยลง

 
          สำหรับหลักการพิจารณารายการลดหย่อนภาษีจะคิดตามสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันว่ามีผลกระทบต่อรายจ่ายของบุคคลธรรมดามากน้อยเพียงใด รวมทั้งดูจากเงินเฟ้อที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีค่าลดหย่อนภาษีที่เป็นค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ปีละ 6 หมื่นบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีการเสนอให้ปรับค่าลดหย่อนภาษีเป็น 120,000 บาท แต่ต้องมีการดูตัวเลขที่แน่นอนกันอีกครั้ง เนื่องจากต้องผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
 
          ทั้งนี้นายประสงค์ ยอมรับว่า การปรับค่าลดหย่อนภาษีดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรแน่นอนเพราะจะทำให้รายได้ของสรรพากรลดลง แต่เมื่อมองในระยะยาวจะเห็นว่ารายได้ที่ลดลงของสรรพากรเมื่อกลับสู่กระเป๋าของผู้เสียภาษีจะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะทำให้รายได้ของสรรพากรปรับขึ้นตามไปด้วย

สรรพากรชงปฏิรูปภาษีทั้งระบบ
 
          ขณะที่มีรายงานเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลังว่า คณะรัฐมนตรีจะออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) นิรโทษกรรมยกเว้นการตรวจสอบภาษีย้อนหลังสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อปี เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวใช้บัญชีเดียวในการดำเนินกิจการ สำหรับรายได้รอบระยะเวลาบัญชีที่มีวันเริ่มต้นก่อนวันที่ 1 มกราคม 2559
 
          โดยธุรกิจที่จะได้รับการยกเว้นการตรวจสอบจะต้องเป็นธุรกิจที่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ต้องจดแจ้งตามสรรพากรว่าเป็นผู้ที่ได้รับยกเว้นตาม พ.ร.ก. ดังกล่าว และต้องยื่นรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลและชำระภาษีเงินได้ในรอบระยะเวลาบัญชีหลังวันที่ 1 มกราคม 2559 รวมทั้งยื่นแบบเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ ด้วยการขอเสียภาษีอากรเป็นตัวเงิน และจะต้องจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของกิจการในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป รวมถึงการไม่ทำพฤติกรรมที่เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ไม่เช่นนั้นกรมสรรพากรจะทำการสอบสวน ประเมิน สั่งให้เสียภาษีและดำเนินความผิดตามกฎหมายอาญา แต่ทั้งนี้ พ.ร.ก.นิรโทษกรรมยกเว้นการตรวจสอบภาษีย้อนหลังจะไม่บังคับใช้กับธุรกิจที่กำลังถูกตรวจสอบภาษีอยู่ รวมไปถึงบริษัทที่ใช้ใบกำกับภาษีปลอมหรือบริษัทที่ยื่นใบเสียภาษีปลอมต่อกรมสรรพากร เป็นต้น 
 
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้ บีอีซี-เทโร

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สรรพากรชงปฏิรูปภาษีทั้งระบบ เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษี อัปเดตล่าสุด 4 มกราคม 2559 เวลา 14:46:46 5,746 อ่าน
TOP