x close

9 วิธีเซฟเงินค่าประกันภัยรถยนต์ แบบสุดคุ้ม !

9 วิธีเซฟเงินค่าประกันภัยรถยนต์ แบบสุดคุ้ม !

         ประกันภัยรถยนต์  ใช่ว่าจะซื้อแบบไหนก็ได้ ลองมาดูทริคข้างล่างนี้ที่จะช่วยประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันในกระเป๋าสตางค์ของคุณ

         หลายคนซื้อรถใหม่ก็จะซื้อประกันภัยรถยนต์ติดไว้ด้วย เผื่อเกิดกรณีไม่คาดฝันขึ้น แต่รายจ่ายค่าเบี้ยประกันในแต่ละปีก็ไม่ใช่น้อย ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วเราสามารถประหยัดและลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้อยู่เหมือนกัน ดังเคล็ดลับดี ๆ ที่ Lisa หยิบมาบอก 
 
1. เปรียบเทียบก่อนซื้อ

         ประกันภัยรถยนต์แต่ละบริษัทมักมีราคาแตกต่างกัน ก่อนซื้อควรเปรียบเทียบอย่างน้อย 3 บริษัท เริ่มจากชื่อเสียงของบริษัทที่ให้บริการ ช่องทางติดต่อที่สะดวก ประสานงานรวดเร็ว ให้คำปรึกษาแก้ปัญหาให้เราได้ และอัตราเบี้ยประกันภัยต้องเป็นธรรม

2. เลือกประเภทความคุ้มครอง

         คิดก่อนซื้อว่าความคุ้มครองแบบไหน เช่น คุ้มครองทรัพย์สินของบุคคลอื่น คุ้มครองการซ่อมรถคันที่เอาประกันภัย คุ้มครองรถหาย-ไฟไหม้ แล้วดูสภาพแวดล้อมของคุณเอง เช่น รถเก่า ลักษณะนิสัยการขับขี่รวมถึงระยะทางการใช้งาน

3. ส่วนลดจากนายประกัน

         โดยปกติรถยนต์ที่เคยทำประกันที่บริษัทประกันภัยอื่นมาแล้ว หากมีเคลมบริษัทใหม่จะให้ส่วนลดไม่เกิน 20% ของคอมมิชชั่น เมื่อตัวแทนประกันหรือโบรกเกอร์ต้องการทำยอดบางครั้งก็ให้ส่วนลด 30-40% ทำให้ได้เบี้ยถูกที่สุด

4. ประกันกลุ่มถูกกว่า

         หากคุณมีรถยนต์ตั้งแต่ 3 คันขึ้นไปที่จดทะเบียนชื่อเดียวกัน การซื้อประกันภัยกลุ่มจะทำให้ได้ส่วนลด 10% นอกจากนี้ บางบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่จะมีนโยบายทำประกันอยู่แล้ว หากซื้อประกันผ่านบริษัทนายจ้างอาจมีส่วนลดที่ดีก็ได้

9 วิธีเซฟเงินค่าประกันภัยรถยนต์ แบบสุดคุ้ม

5. ซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์

         ดูจากการใช้รถของคุณว่าจำเป็นหรือไม่ที่ต้องซ่อมศูนย์ หากซ่อมอู่อาจมีเบี้ยประกันที่ต่างกันถึง 10-30% เพราะปัจจุบันอู่ซ่อมหลายแห่งมีมาตรฐานค่อนข้างสูงเพื่อให้ทัดเทียมกับศูนย์ จึงช่วยประหยัดเบี้ยประกันได้
 
6. เพิ่มค่า Deductible เพื่อลดเบี้ย

         หากมีประวัติขับขี่ดี การทำประกันภัยรถยนต์แบบมี Deductible หรือกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกที่คุณต้องจ่ายเองก็จะประหยัดค่าเบี้ยได้มาก ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกเริ่มที่ 2,000-5,000 บาท เช่น ค่าเบี้ยประกันภัย 20,000 บาท หากระบุค่าเสียหายส่วนแรก 4,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัยจะเหลือ 16,000 บาท กรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วคุณเป็นฝ่ายผิด คุณจะต้องชดเชยค่าเสียหายตามจริงแต่ไม่เกิน 4,000 บาท ที่เหลือบริษัทประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบ

7. ระบุชื่อผู้ขับขี่มีส่วนลด

         การประกันภัยรถยนต์แบบระบุชื่อผู้ขับขี่สำหรับรถยนต์นั่ง รถยนต์โดยสารส่วนบุคคล จะประหยัดเบี้ยได้ 5-20% โดยสามารถระบุผู้ขับขี่ได้ไม่เกิน 2 คน (อายุน้อย ได้ส่วนลดน้อยที่สุดนะ) กรณีที่ผู้อื่นนำรถยนต์ไปขับขี่แล้วเกิดเหตุเป็นฝ่ายผิด คุณต้องรับผิดชอบความเสียหายตามจริงแต่ไม่เกิน 6,000 บาท และรับผิดชอบค่าเสียหายต่อรถคู่กรณี 2,000 บาท ส่วนที่เกินนั้นบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบ

8. รักษาประวัติดีมีส่วนลด

         ในแต่ละปีที่ทำประกันรถยนต์ไว้ ถ้าไม่เคยได้รับใบสั่งไม่มีเคลมเลยในปีที่ผ่านมา หรือมีเคลมแต่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดก็จะได้รับส่วนลดประวัติดีตามลำดับขั้นในแต่ละปีสูงสุด 50% ของเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ แต่หากเมื่อไรที่คุณเป็นฝ่ายผิด ส่วนลดประวัติดีก็จะลดลงทีละขั้น เช่น คุณมีประวัติดีอยู่ที่ 40% และเป็นฝ่ายผิด 1 ครั้ง ส่วนลดก็จะลดเหลือ 30% เพราะถ้ามีประวัติไม่ดีเกี่ยวกับการขับขี่แล้ว ค่าประกันภัยก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย

9. ระวังเงินสูญเพราะมิจฉาชีพ

         มีมิจฉาชีพมากมายที่ปลอมตัวเป็นพนักงานประกันใช้โบรชัวร์จริง ๆ มาถ่ายรูปรถ เก็บหลักฐาน แต่ออกหลักฐานปลอม ๆ ให้ ฉะนั้นอย่าลืมตรวจสอบใบอนุญาตตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งออกโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทุกครั้ง

         นอกจากค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุงแล้ว ก็มีค่าประกันภัยรถยนต์นี่ล่ะที่เราพอจะเซฟเงินในกระเป๋าได้ ถ้าเรามีประวัติการขับขี่ที่ดี และเลือกประเภทความคุ้มครองได้ตอบโจทย์ของเราจริง ๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 วิธีเซฟเงินค่าประกันภัยรถยนต์ แบบสุดคุ้ม ! อัปเดตล่าสุด 27 ตุลาคม 2558 เวลา 14:56:26 14,067 อ่าน
TOP