ธอส. เล็ง ขยายวงเงินกู้จากหมื่นล้านเป็น 2 หมื่นล้าน รองรับประชาชนกู้ซื้อบ้านเพิ่มได้กว่า 14,000 ราย ไม่หวั่น หนี้เน่าสูง เชื่อผู้กู้รับผิดชอบ ชำระได้
วันที่ 19 ตุลาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ (ธอส.) บรรยากาศคึกคัก ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จากการที่ประชาชนทยอยเข้ายื่นเอกสาร เพื่อขอกู้สินเชื่อบ้าน ตามมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ ที่ต้องการช่วยผู้มีรายได้ปานกลางให้สามารถกู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้ โดยนายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. มีความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อใหักับประชาชน โดยประชาชนสามารถเข้าขอสินเชื่อได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และคาดว่าวงเงิน 10,000 ล้านบาทที่อนุมัติไว้ จะหมดภายในสิ้นปี ซึ่งจะมีประชาชนที่ได้รับสินเชื่อกว่า 7,000 คน ธอส. จึงมีแนวคิดในการขยายวงเงินสินเชื่ออีก 10,000 ล้านบาท รวมเป็น 20,000 ล้านบาท เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนที่ต้องการกู้ขอซื้อบ้านได้ถึง 14,000 คน อย่างไรก็ตามต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมก่อน
ทั้งนี้มาตรการที่ออกมาจะมีการผ่อนปรนการคำนวณรายได้ต่อวงเงินการขอสินเชื่อ หรือ DSR ให้เพิ่มขึ้นจาก 33% มาเป็น 40-50% เพื่อให้ประชาชนที่มีรายได้สุทธิ 30,000 บาทต่อเดือน สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 3 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องมีรายได้สุทธิสูงถึง 54,000 บาท ถึงจะขอสินเชื่อวงเงินดังกล่าวได้ ทำให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น
ขณะที่นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ระบุว่า ธอส. จะมีการประเมินความต้องการสินเชื่อดังกล่าวอีกครั้งใน 2-3 วันข้างหน้า เพื่อพิจารณาแนวทางการเพิ่มวงเงินในการปล่อยสินเชื่อรอบใหม่อีก 10,000 ล้านบาท โดยในขณะนี้ยืนยันว่า ธนาคารพร้อมปล่อยสินเชื่อไม่จำกัดวงเงิน เพื่อรองรับความต้องการซื้อบ้านของประชาชน และไม่ห่วงว่านโยบายดังกล่าวจะมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL สูงขึ้น เนื่องจากคาดว่า NPL จากสัดส่วนการกู้บ้านนี้ จะมีเพียง 2% เท่านั้น จึงไม่น่าห่วงว่าจะทำให้ NPL ทั้งระบบสูงขึ้นจากปัจจุบัน NPL ทั้งระบบอยู่ที่ 5% จากยอดสินเชื่อทั้งหมด 8 แสนล้านบาท และเชื่อว่าประชาชนกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความรับผิดชอบ และต้องการมีที่อยู่อาศัยจริง จึงมั่นใจว่าประชาชนจะมีวินัยทางการเงิน และรับผิดชอบการชำระได้อย่างแน่นอน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
, สำนักข่าว INN
