กระทรวงพาณิชย์ เผย การส่งออกของไทยเดือนมิถุนายน 2558 ติดลบ 7.8% ร่วงต่ำสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้าและราคาน้ำมันต่ำลง
วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดการส่งออกของไทยในเดือนมิถุนายน 2558 ลดลง 7.87% ติดลบต่ำสุดในรอบ 3 ปี 6 เดือน นับจากเดือนธันวาคม 2554 ซึ่งติดลบ 8.15% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 18,012 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.21% ทำให้ยอดการนำเข้าครึ่งปีแรกตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายนที่ผ่านมา มีมูลค่า 103,383 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.91% ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรก ไทยยังคงเกินดุลการค้าอยู่ 3,473 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้การส่งออกลดลงเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ลดต่ำลงและเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด แต่คาดว่ายอดส่งออกเดือนกรกฎาคมนี้จะดีขึ้น หลังสินค้าในกลุ่มยานยนต์และสินค้าเกษตรเริ่มมีแนวโน้มส่งออกดีขึ้นอย่างชัดเจน ประกอบกับเงินบาทที่อ่อนค่าลงจะช่วยให้การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากมียอดการสั่งซื้อจากลูกค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สำหรับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร พบว่า อาหารทะเลแช่แข็ง ลดลง 10.5% กุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป ลดลง 22.1% น้ำตาลทราย ลดลง 12.3% ขณะที่ ยางพารา ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 ในกลุ่มเกษตรกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 18 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 4.4% มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 24.6% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่มขึ้น 20.1% ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เพิ่มขึ้น 6.3%
กระทรวงพาณิชย์ ยังเผยด้วยว่า ด้านการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ติดลบ 0.1% เป็นการกลับมาติดลบครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า ลดลง เช่นเดียวกับตลาดอื่น ๆ เช่น ตลาดญี่ปุ่น ติดลบ 4.2% สหภาพยุโรป (อียู) ติดลบ 7.1% จีน ติดลบ 0.8% จากการส่งออกลดลงของเคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก ส่วนตลาดประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม หรือ CLMV ยังคงเติบโตต่อเนื่อง 10.8%
อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์ยังคงไม่มีการปรับตัวเลขจนกว่าจะได้ตัวเลขและข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ส่วนเรื่องการส่งออกไม่น่าจะมีผลกระทบเพราะมียอดการสั่งซื้ออยู่แล้ว และการค้าขายระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ก็น่าจะเป็นปกติเหมือนเช่นในปีนี้ที่ผ่านมา
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
