x close

ลงทุนอย่างไร ในยุคดอกเบี้ยต่ำ


ลงทุนอะไรดี

          วิธีออมเงินให้งอกเงยมากกว่าการฝากเงินในธนาคาร ไม่ยากเลย ลองเปลี่ยนมาลงทุนในรูปแบบอื่นดู ดูซิว่ามีทางไหนบ้าง
 
          "ยุคดอกเบี้ยต่ำแบบนี้ ลงทุนอะไรดี" เป็นคำถามที่เชื่อว่าใครหลายคนสงสัยและอยากได้คำตอบ เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปัจจุบันค่อนข้างต่ำ โดยดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์อยู่ที่ 0.5% ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากประจำอยู่ที่ประมาณ 1-3% ต่อปี สำหรับคนที่กังวลเรื่องนี้และรับความเสี่ยงได้ต่ำ แต่อยากได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไปจะมีทางเลือกอะไรในการลงทุนบ้าง และแต่ละทางเลือกนั้นเหมาะกับใคร ทาง K-Expert โดยธนาคารกสิกรไทย เลยมีแนวทางมาแนะนำค่ะ

1. กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น หรือกองทุนรวมตลาดเงิน

          สำหรับคนที่ต้องการนำเงินที่ใช้เป็นสภาพคล่องมาลงทุน หรือยังไม่แน่ใจว่าต้องใช้เงินก้อนนี้เมื่อไร แนะนำให้ลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น หรือกองทุนรวมตลาดเงินค่ะ เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 1-3% ต่อปี โดยผลตอบแทนจะขึ้นลงตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงิน ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษีค่ะ

          กองทุนประเภทนี้มีนโยบายลงทุนในเงินฝาก พันธบัตร และหุ้นกู้ที่มีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี ซึ่งจุดเด่นของกองทุนประเภทนี้นอกจากเรื่องความเสี่ยงที่ต่ำแล้ว ยังมีสภาพคล่องใกล้เคียงกับเงินฝากออมทรัพย์อีกด้วย เพราะหากต้องการใช้เงินก็สามารถขายกองทุน โดยจะได้รับเงินในวันทำการถัดไปค่ะ

ลงทุนอะไรดี

2. กองทุนรวมตราสารหนี้แบบกำหนดอายุ

          ใครที่วางแผนการใช้เงินไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยมีระยะเวลาใช้เงินชัดเจน ก็สามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนได้โดยการนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้แบบกำหนดอายุค่ะ เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 2-3% ต่อปี และผลตอบแทนที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษีค่ะ

          กองทุนประเภทนี้มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ของไทยและต่างประเทศ โดยมีระยะเวลาลงทุนที่ชัดเจน เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี แม้ว่าอัตราผลตอบแทนของกองทุนประเภทนี้จะใกล้เคียงกับกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นก็ตาม แต่เราจะทราบผลตอบแทนที่จะได้รับทันทีเมื่อเริ่มลงทุน ในขณะที่ผลตอบแทนของกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้นจะไม่แน่นอน เพราะเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินค่ะ

3. หุ้นกู้

          ส่วนคนที่ต้องการนำเงินก้อนซึ่งเป็นเงินเย็นมาลงทุน และยังไม่มีแผนจะใช้เงินในช่วง 3-10 ปีข้างหน้านี้ การนำเงินไปลงทุนในหุ้นกู้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากหรือพันธบัตรที่มีอายุเท่ากัน โดยผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้จะอยู่ในรูปของดอกเบี้ย ซึ่งจะมีการจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน หรือ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบริษัทที่ออกหุ้นกู้ค่ะ แต่ดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15%

          และแม้ว่าการลงทุนในหุ้นกู้จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากหรือพันธบัตรที่มีอายุเท่ากัน แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าเพราะหากบริษัทล้มละลาย นักลงทุนก็มีโอกาสที่จะไม่ได้รับเงินต้นกลับคืนมา ดังนั้น ก่อนลงทุนในหุ้นกู้ควรพิจารณาว่า หุ้นกู้นั้นออกโดยบริษัทใด มีฐานะการเงินเป็นอย่างไร โดยสามารถใช้การจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) เป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกหุ้นกู้ได้ค่ะ

          หวังว่าคำแนะนำดังกล่าวข้างต้นจะสามารถเป็นแนวทางการลงทุนในยุคดอกเบี้ยต่ำนี้ได้ และช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้แนะนำให้เลือกลงทุนโดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้และวัตถุประสงค์ในการใช้เงินเป็นหลัก และต้องไม่ลืมศึกษาข้อมูลเงื่อนไขการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนค่ะ

          ติดตามบทความที่เกี่ยวข้องกับ "ลงทุนอย่างไรในยุคดอกเบี้ยต่ำ" ได้ที่ www.askKBank.com/K-Expert หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติมสามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทยได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com


K-Expert Action

          ศึกษารายละเอียดข้อมูลของกองทุนหรือหุ้นกู้ที่สนใจก่อนตัดสินใจลงทุน
          เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน 6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือนให้เก็บไว้ในบัญชีออมทรัพย์ 1 ส่วน อีก 5 ส่วนที่เหลือให้เก็บไว้ในกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลงทุนอย่างไร ในยุคดอกเบี้ยต่ำ อัปเดตล่าสุด 26 กันยายน 2560 เวลา 11:56:05 6,726 อ่าน
TOP